xs
xsm
sm
md
lg

พายุถล่มกาญจน์ ไม่กระทบการท่องเที่ยว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กาญจนบุรี - พายุถล่มกาญจน์ถนนสายหลักมุ่งสู่แหล่งท่องเที่ยว แต่ยังไร้ปัญหาด้านการจราจร นักท่องเที่ยวสบายใจได้ แต่เพื่อความชัดเจนขอให้ตรวจสอบกับโรงแรมหรือรีสอร์ตที่ท่านได้จองก่อนออกเดินทาง
 
วันนี้ (28 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีพายุฝนได้ตกลงมาตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.จนถึงวันนี้ (28 ก.ค.) ยังคงมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ตลอดหลายวันที่ผ่านมา พื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีได้ถูกน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ซึ่งผู้ที่ได้รับผลกระทบส่วนใหญ่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำแควน้อย ตั้งแต่อำเภอทองผาภูมิ อำเภอไทรโยค มาจนถึงอำเภอเมืองกาญจนบุรี โรงแรม รีสอร์ตต่างๆ ถูกน้ำท่วมเสียหายเกือบทั้งหมด
 
แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าภาพข่าวที่ถูกเผยแพร่ออกไปนั้นดูแล้วค่อนข้างน่ากลัว ทำให้เป็นที่กังวลใจของนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี จึงอยากประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวทราบว่า ถนนสายหลักที่มุ่งหน้าไปยังแหล่งท่องเที่ยว ทั้งถนนสาย 3199 กาญจนบุรี-ศรีสวัสดิ์ และถนนทางหลวงหมายเลข 323 กาญจนบุรี-ไทรโยค-ทองผาภูมิ-สังขละบุรี ถนนทั้ง 2 สาย ไม่ได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วมเลยแม้แต่น้อย ดังนั้น นักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางมาสามารถเดินทางมาได้ตลอดเวลาตามที่ต้องการ
 
ที่ผ่านมา จะมีพื้นที่ที่ประสบปัญหาน้ำไหลหลากเข้าท่วมอยู่บ้าง แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างรดเร็ว เช่น ถนนทางหลวงหมายเลข 323 ทองผาภูมิ-สังขละบุรี ด้านหน้าหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 11 สำนักงานพัฒนาภาค 1 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (นพค.11) ท้องที่หมู่ 4 บ้านอู่ล่อง ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ สาเหตุที่ถูกน้ำท่วมเป็นเพราะมวลน้ำเอ่อล้นมาจากลำห้วยอู่ล่องไหลหลาก ซึ่งถนนบริเวณดังกล่าวมีสภาพค่อนข้างต่ำเป็นเหตุทำให้น้ำท่วมอย่างง่ายดาย และจะท่วมเป็นประจำทุกปีเมื่อถึงฤดูฝน
 
โดยในครั้งนี้ ร้อยโททศพล ไชยโกมินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้มอบหมายให้นายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาร่วมกับนายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ ดร.จิตรกร ว่องประเสริฐ นายกเทศมนตรีตำบลท่าขนุน

จากการตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่า สาเหตุที่ทำให้มวลน้ำบริเวณดังกล่าวท่วมขังเป็นเวลานานนั้นเกิดจากการสร้างถนนเข้าไปภายในหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 11 ทำให้ขวางทางน้ำไหล ครั้งแรกเข้าใจกันว่าพื้นที่ที่ทำถนนเป็นพื้นที่ของหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 11 ซึ่งเป็นพื้นที่ของทหาร ทำให้ยากต่อการขอใช้พื้นที่ในการขุดเจาะทำท่อระบายน้ำ แต่ปรากฏว่าเมื่อตรวจสอบเอกสารโฉนด กลับกลายเป็นพื้นที่สาธารณะ ไม่ได้อยู่ในการดูแลของหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 11 แต่อย่างใด
 
โดยช่วงค่ำวันที่ 26 ก.ค.นายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ และ ดร.จิตรกร ว่องประเสริฐ นายกเทศมนตรีตำบลท่าขนุน จึงประสานไปยังแขวงทางหลวงกาญจนบุรี และหมวดการทางสังขละบุรี ให้นำรถแบ็กโฮมาขุดเจาะเพื่อวางท่อระบายน้ำบนถนนที่เข้าไปภายในหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 11 หลังจากดำเนินการแล้วเสร็จ ปรากฏว่าน้ำที่ท่วมขังถูกระบายได้อย่างรวดเร็ว จนกระทั่งเช้าของวันที่ 27 ก.ค.ถนนสายดังกล่าวแห้งขอด ทำให้รถยนต์ทุกชนิดสัญจรผ่านไปมาได้ตามปกติจนถึงทุกวันนี้
 
ดังนั้น จึงขอให้นักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวด้วยการใช้ถนนสาย 3199 กาญจนบุรี-ศรีสวัสดิ์ และถนนทางหลวงหมายเลข 323 กาญจนบุรี-ไทรโยค-ทองผาภูมิ-สังขละบุรี สบายใจได้ เพื่อความชัดเจน ขอให้ตรวจสอบกับโรงแรมหรือรีสอร์ตที่ท่านได้จองก่อนออกเดินทาง








กำลังโหลดความคิดเห็น