ฉะเชิงเทรา - เจ้าของแผงขายปลาสลิดใน จ.ฉะเชิงเทรา พลิกวิกฤตเป็นโอกาสประกาศรับซื้อปลาหมอคางดำ ในราคากก.ละ 10-15 บาท แปรรูปเป็นปลาหมอคางดำแดดเดียว ขาย กก.ละ 80-90 บาท ถูกกว่าปลาสลิดแดดเดียวถึง 3 เท่าตัว ทำชาวบ้านแห่ซื้อเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย
วันนี้ (24 ก.ค.) นางสีไพร ทับปาน หรือเจ๊น้อง เจ้าของแผงปลาสลิด “น้องเอ้ปลาสลิด” ริมถนนสุขุมวิทสายเก่า กม.60 พื้นที่รอยต่อระหว่าง ต.สองคลอง อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา กับ ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ และแผงปลา สาขาวัดสมมานรัตนาราม อ.เมืองฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่าในช่วงตลอด 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีลูกค้าหลายรายเข้ามาหาซื้อปลาหมอคางดำแดดเดียว หรือปลาตากแห้ง เพราะอยากลิ้มลองรสชาติ
โดยเชื่อว่าปลาหมอคางดำแดดเดียว หรือปลาตากแห้ง น่าจะมีราคาถูกกว่าปลาชนิดอื่นๆ หลังรัฐบาลประกาศตั้งราคารับซื้อในราคาเพียงกิโลกรัมละ 10-15 บาทเท่านั้น และสาเหตุที่ทำให้ประชาชนเริ่มหันมาบริโภคปลาหมอคางดำ เพราะต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเนื่องจากปัญหาทางเศรษฐกิจ
“แผงของเราได้เปิดรับซื้อปลาหมอคางดำ จากชาวบ้านที่จับได้ในราคากิโลกรัมละ 10-15 บาทเช่นกัน เพื่อนำมาแปรรูปเป็นปลาหมอคางดำแดดเดียว ซึ่งที่ผ่านมารับซื้อได้ถึงวันละประมาณ 500 กิโลกรัม ซึ่งนอกจากจะช่วยลดการแพร่ระบาดของปลาดังกล่าวแล้ว ยังเป็นการตอบสนองความต้องการของตลาดได้อีกด้วย”
นางสีไพร ยังบอกอีกว่า แผงขายปลาของตนนอกจากจะมีปลาสลิดแดดเดียวแล้ว ยังมีหอยแดดเดียว ปลานิลแดดเดียว ปลาดุกแดดเดียว ปลากระบอกและปลากุเลาแดดเดียวซึ่งเป็นปลาทะเลแปรรูปอีกด้วย
"แต่ปัจจุบัน ปลาสลิดแดดเดียวขายไม่ค่อยดีเพราะมีราคาสูง โดยปลาสลิดตัวเล็กราคากิโลกรัมละ 180 บาท ส่วนขนาดใหญ่ 240 บาท และขนาดจัมโบ้ 260 บาท และเมื่อเจอกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำที่คนไม่อยากใช้จ่ายเงินทำให้ยอดขายลดลงอย่างต่อเนื่อง จากที่เมื่อก่อนเคยขายปลาสลิดแดดเดียว ได้มากถึงวันละ 30-50 กิโลกรัมต่อแผง แต่วันนี้ยอดขายทั้ง 2 แผงรวมกันยังได้แค่วันละ 15-30 กิโลกรัมเท่านั้น และลูกค้าส่วนใหญ่จะเลือกซื้อเฉพาะปลาสลิดขนาดเล็กเพราะไม่มีกำลังซื้อมากพอจากสภาพเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ลงทุกวัน”
ส่วนราคาขายปลาหมอคางดำที่นำมาแปรรูปเป็นปลาแดดเดียวนั้น อยู่ที่กิโลกรัมละ 80-90 บาท จึงทำให้เป็นที่สนใจของลูกค้า