เชียงใหม่ - ตร.ดอยสะเก็ดสืบจนเจอตัวแล้ว 4 เยาวชนชายอายุ 14-16 ปี ที่ก่อเหตุรุมทำร้ายและชิงทรัพย์ลูกค้าชายที่จ้างให้มาเอนเตอร์เทนในโรงแรมม่านรูด ล่าสุดนำตัวส่งศาลเยาวชนและครอบครัวเชียงใหม่เพื่อพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย พบหัวหน้าแก๊งประวัติโชกโชน ก่อเหตุแบบเดียวกันมาแล้วหลายพื้นที่ ล็อกเป้าเหยื่อชายรักชาย อาศัยช่องโหว่เป็นเยาวชน ลงมือแล้วเหยื่ออับอายและไม่กล้าเอาเรื่อง เพราะกลัวโดนคดีล่วงละเมิดทางเพศเด็ก
ความคืบหน้าคดีที่นายกรณ์ (นามสมมติ) อายุ 31 ปี เข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรดอยสะเก็ด อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อช่วงค่ำวันที่ 14 ก.ค. 67 ว่าถูกกลุ่มวัยรุ่นชาย 5 คนก่อเหตุรุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ พร้อมข่มขู่บังคับให้โอนเงินเข้าบัญชีของกลุ่มผู้ก่อเหตุจำนวน 5,300 บาท รวมทั้งยังได้นำโทรศัพท์มือถือมูลค่ากว่า 20,000 บาท และนาฬิกา smart watch มูลค่า 1,200 บาทของผู้เสียหายไปด้วย ซึ่งเหตุเกิดภายในห้องพักโรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอดอยสะเก็ด หลังจากที่ผู้เสียหายได้ตกลงว่าจ้างและนัดชายวัยรุ่นมาให้บริการเอนเตอร์เทนในที่เกิดเหตุ แต่กลับมีการเรียกกลุ่มเพื่อนพร้อมอาวุธมาใช้ข่มขู่รุมทำร้ายและชิงทรัพย์ผู้เสียหาย
วันนี้ (16 ก.ค. 67) รายงานข่าวแจ้งว่า ช่วงเย็นวานนี้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรดอยสะเก็ดสืบสวนจนทราบตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุและนำตัวไปสอบสวน เบื้องต้นพบว่าเป็นกลุ่มเยาวชนชายจำนวน 4 คน อายุ 14-16 ปี โดยมีหัวหน้ากลุ่มชื่อนายธันวา ซึ่งเป็นคนวางแผน ตั้งแต่ลวงผู้เสียหายให้ไปเปิดห้องพัก แล้วเรียกพรรคพวกมาร่วมกันก่อเหตุรุมทำร้ายผู้เสียหาย พร้อมข่มขู่บังคับให้โอนเงินเข้าบัญชีของผู้ก่อเหตุ รวมทั้งชิงทรัพย์โทรศัพท์มือถือและนาฬิกาของผู้เสียหายไป ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติพบว่า นายธันวาเคยก่อเหตุชิงทรัพย์ในโรงแรมม่านรูดแบบเดียวกันนี้มาแล้วเมื่อไม่นานนี้ในพื้นที่อำเภอเมืองเชียงใหม่ ซึ่งคดีกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเชียงใหม่ แต่กลับมาก่อเหตุซ้ำ
โดยช่วงเช้าวันนี้ทางพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรดอยสะเก็ดได้นำตัวเยาวชนชายทั้งหมดส่งให้ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเชียงใหม่พิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป ส่วนทางผู้เสียหายที่มีการว่าจ้างให้กลุ่มผู้ก่อเหตุมาเอนเตอร์เทนนั้น ยังไม่เข้าข่ายความผิดซื้อบริการทางเพศเด็ก หรือล่วงละเมิดทางเพศเด็ก เนื่องจากพิจารณาแล้วยังไม่เข้าองค์ประกอบ
ขณะที่จากการตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังเกี่ยวกับเยาวชนชายกลุ่มนี้พบว่า เคยก่อเหตุในลักษณะเดียวกันนี้มาแล้วหลายครั้ง โดยเลือกเหยื่อเป็นกลุ่มชายรักชายที่รักสนุก จากนั้นตีสนิทพูดคุยและนัดพบกันแล้วลงมือก่อเหตุในหลายพื้นที่ของเชียงใหม่ ซึ่งผู้เสียหายส่วนใหญ่ไม่ได้แจ้งความดำเนินคดี เนื่องจากอับอายและกลัวจะถูกดำเนินคดีล่วงละเมิดทางเพศเด็ก จึงเป็นช่องโหว่ให้มีการก่อเหตุซ้ำซาก
