เชียงใหม่ - พ่อแม่ของ "โอปอล" ผู้ต้องหาคดีฆ่าเอารถนำไปชิงทอง เดินทางร่วมงานศพและกราบขอขมาศพเหยื่อผู้เสียชีวิต รวมทั้งพี่สาวและครอบครัว เผยลูกชายรับสารภาพผิดทุกอย่างโดยไม่มีข้อแก้ตัว และยอมชดใช้กรรมโดยดี พร้อมฝากขออโหสิกรรมผู้ตายและขอให้ไปสู่สุคติ
ช่วงสายวันนี้ (11 ก.ค. 67) ที่วัดช่อแลพระงาม ตำบลช่อแล อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานศพของว่าที่ร้อยโท สุเทพ ชัยนันตา อายุ 48 ปี คนขับรถรับจ้างผ่านแอปพลิเคชันที่ถูกนายนิพิฐพนธ์ อายุ 26 ปี ฆ่าชิงรถนำไปก่อเหตุชิงทอง ทางพ่อและแม่ของนายนิพิฐพนธ์ ได้เดินทางเข้ากราบขอขมาศพ และกราบขอขมาทางครอบครัวของว่าที่ร้อยโท สุเทพ โดยเมื่อถึงวัดได้ตรงเข้าไปพบนางกฤษณา กาเผือก อายุ 56 ปี พี่สาวของว่าที่ร้อยโท สุเทพ เพื่อขอขมา รวมทั้งพบพูดคุยขอโทษกับภรรยาและลูกชายของว่าที่ร้อยโท สุเทพ
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของแม่ของว่าที่ร้อยโท สุเทพนั้นไม่พร้อมที่จะพบเพื่อพูดคุยและรับคำขอขมาใดๆ จากทางฝ่ายแม่ของนายนิพิฐพนธ์ เนื่องจากสภาพจิตใจยังย่ำแย่ และยังไม่สามารถทำใจยอมรับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ ขณะที่พี่สาวของผู้เสียชีวิตยอมรับคำขอขมาและให้ไปขอขมาศพน้องชาย ซึ่งพ่อแม่ของนายนิพิฐพนธ์ได้ขอบคุณทางพี่สาวและครอบครัวของว่าที่ร้อยโท สุเทพ ที่เปิดโอกาสให้กราบขอขมาศพ พร้อมกันนี้ พ่อแม่ของนายนิพิฐพนธ์ยังได้พูดคุยกับภรรยาและลูกชายของผู้เสียชีวิต โดยขอโทษและรับปากว่าจะช่วยเหลือดูแลลูกชายของว่าที่ร้อยโท สุเทพในทุกเรื่องอย่างดีที่สุด
จากนั้นพ่อและแม่ของนายนิพิฐพนธ์ได้เข้าไปกราบศพของว่าที่ร้อยโท สุเทพ พร้อมนำคำขอขมาจากนายนิพิฐพนธ์ กราบขอขมาศพ โดยบอกว่าลูกชายฝากบอกว่าเสียใจอย่างมากกับสิ่งที่ได้กระทำไป พร้อมรับสารภาพผิดทุกอย่าง โดยไม่มีคำแก้ตัวใดๆ และยินยอมชดใช้ความผิดที่ก่อทุกอย่างด้วยดี โดยขอให้ว่าที่ร้อยโท สุเทพช่วยอโหสิกรรม และให้อภัยเวรแก่กัน รวมทั้งขอให้ไปสู่สุคติ
ทั้งนี้ นางกฤษณา พี่สาวของว่าที่ร้อยโท สุเทพ ผู้เสียชีวิต เปิดเผยหลังจากที่พ่อแม่ของผู้ก่อเหตุได้เข้ามากราบขอขมาว่า อัดอั้นตันใจอย่างมาก แต่เข้าใจหัวอกของคนเป็นพ่อแม่และความรักที่มีต่อลูกเป็นอย่างดีเพราะตัวเองเป็นแม่คนเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของการอโหสิกรรมนั้น ยอมรับว่ายังทำใจได้ยาก เพราะแม้จะเข้าใจดีว่าสิ่งที่ลูกได้กระทำเป็นคนละส่วนกันกับพ่อแม่ แต่ตัวเองยังเป็นมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง จึงให้ไปขอขมากับศพของน้องชายดีกว่า ซึ่งไม่ได้ปิดกั้นที่พ่อแม่ของผู้ก่อเหตุจะเข้ามากราบขอขมา และได้เปิดโอกาสให้ได้พบพูดคุยกับลูกชายของน้องชายด้วย แต่ในส่วนของแม่ตัวเองนั้น ยังทำใจไม่ได้และไม่พร้อมที่จะคุยด้วย ซึ่งตัวเองถือว่าได้ทำหน้าที่คนกลางอย่างดีที่สุดแล้ว ส่วนเรื่องของคดีความนั้น ให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย
ขณะที่พ่อของนายนิพิฐพนธ์เปิดเผยว่า ขอบคุณพี่สาวและครอบครัวของว่าที่ร้อยโท สุเทพ ที่ให้โอกาสได้เข้ากราบขอขมาและขออโหสิกรรมในครั้งนี้ ซึ่งทางลูกชายได้ฝากให้มากราบศพ พร้อมทั้งขอขมาและขออโหสิกรรมด้วย รวมทั้งย้ำให้ช่วยเหลือดูแลลูกชายของว่าที่ร้อยโท สุเทพด้วย ซึ่งตัวเองตั้งใจจะมาตั้งแต่แรกแล้ว แต่ติดธุระจำเป็นในเรื่องของคดีความของลูกชาย