รวบแล้ว!โจรใส่สูทดำหรูหล่อสมาร์ท ตระเวนลักเงินตู้บริจาควัดดังทั่วเมืองเชียงใหม่กว่า 20 ครั้ง

เชียงใหม่ – สอบพบประวัติฉาวซ้ำ..ตร.ตามรวบแล้วโจรใส่สูทดำหรู-หล่อสมาร์ท ตระเวนลักเงินตู้บริจาควัดดังทั่วเมืองเชียงใหม่ เฉพาะที่จำได้ไม่ต่ำกว่า 20 ครั้ง ล่าสุดฉกเงินวัดสันติธรรม แถมมีหมายจับศาลฯชลบุรีติดตัว ทั้งฐานชิงทรัพย์-ข่มขืน-บุกรุกฯประทุษร้ายด้วยอาวุธ


วันนี้(10 ก.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ช้างเผือก จ.เชียงใหม่ ร่วมกันจับกุมตัวนายนริศชาติ หรือไผ่ พุทธา อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาฐานลักทรัพย์ในสถานที่บูชาสาธารณะ ได้ที่หน้าหอพักแห่งหนึ่ง ถ.ช้างเผือก ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่

การจับกุมผู้ต้องหารายนี้มีขึ้น หลังจากนายบารมี อโศกพิทักษ์รัตนะ กรรมการฝ่ายกฎหมาย วัดสันติธรรม ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ เข้าแจ้งความกับ พงส.สภ.ช้างเผือก ว่าเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 เวลาประมาณ 10.15 ได้มีคนร้ายเป็นชาย เข้าไปยังพิพิธภัณฑ์พระธาตุบูรพาจารย์ วัดสันติธรรม และก่อเหตุงัดตู้บริจาค จำนวน 2 ตู้ ได้ทรัพย์สินไปเป็นเงินสดจำนวนหนึ่ง

หลังจากได้รับแจ้งเจ้าพนักงานตำรวจชุดสืบสวน พร้อมกับพนักงานสอบสวนเวร ได้เข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ –ภาพกล้องวงจรปิด พบคนร้ายสวมใส่เสื้อสูทสีดำ กางขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีดำ สวมหน้ากากอนามัยสีดำ พร้อมกับตรวจสอบกล้องวงจรปิดของเอกชน-เทศบาลนครเชียงใหม่ สืบสวนติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุเรื่อยมา

กระทั่งวันนี้ ชุดสืบสวนทราบว่า คนร้ายที่ก่อเหตุลักทรัพย์ตู้บริจาควัดสันติธรรม พักหอพักแห่งหนึ่งย่าน ถ.ช้างเผือก ต.ช้างเผือก จึงได้ไปตรวจสอบ ซึ่งขณะที่กำลังสอบถามเจ้าของหอพัก ได้มีชายที่มีตำหนิรูปพรรณสัณฐานตรงกับคนร้ายที่ก่อเหตุลักทรัพย์ตู้บริจาควัดสันติธรรม เดินออกจากลิฟต์ของหอพัก จึงได้แสดงตัวพร้อมหลักฐานสอบถาม


เบื้องต้นนายนริศชาติ หรือไผ่ พุทธา (ทราบชื่อภายหลัง) ให้การรับสารภาพว่า เป็นชายที่ปรากฏตามสำเนาภาพถ่ายกล้องวงจรปิดของวัดสันติธรรม ซึ่งกำลังก่อเหตุลักทรัพย์(เงินสด)จากตู้บริจาคของวัด ได้เงินสดไป 1,800 บาท หลังจากนั้นก็กลับที่พัก เมื่อได้เงินมาก็นำไปเล่นการพนันออนไลน์

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้นายนริศชาติ นำตรวจค้นห้องพัก พบของกลางบางส่วนภายในห้องพัก จึงได้ร่วมกันตรวจยึดส่งพนักงานสอบสวน เพื่อนำมาประกอบคดีดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

และการจากสอบสวนขยายผลการจับกุม นายนริศชาติฯ ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่าก่อนหน้านี้ได้ก่อเหตุลักทรัพย์(เงินสด) ตู้บริจาคตามวัดต่างๆ ทั่วตัวเมืองเชียงใหม่มาแล้วประมาณ 20 ครั้ง ที่จำได้มี ดังนี้

ครั้งที่ 1 เมื่อประมาณต้นเดือน พ.ค. 2567 ได้ก่อเหตุลักทรัพย์(เงินสด) ตู้บริจาควัดบุพผารามได้เงินสดประมาณ 700 บาท
ครั้งที่ 2 เมื่อประมาณกลางเดือน พ.ค. 2567 ได้ก่อเหตุลักทรัพย์(เงินสด) ตู้บริจาควัดจำชื่อไม่ได้บริเวณคู่เมืองด้านใน
ครั้งที่ 3 เมื่อประมาณกลางเดือน พ.ค. 2567 ได้ก่อเหตุลักทรัพย์(เงินสด) ตู้บริจาควัดมหาวัน ได้เงินสดประมาณ 100 บาท
ครั้งที่ 4 เมื่อประมาณกลางเดือน พ.ค. 2567 ได้พยายามก่อเหตุลักทรัพย์(เงินสด) ตู้บริจาควัดชมพู แต่ไม่ได้เงิน
ครั้งที่ 5 เมื่อวันที่ 3 ก.ค. 2567 ได้ก่อเหตุลักทรัพย์(เงินสด) ตู้บริจาควัดสันติธรรม ได้เงินสดประมาณ 1,800 บาท
ครั้งที่ 6 เมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2567 ได้ก่อเหตุลักทรัพย์(เงินสด) ตู้บริจาควัดเจ็ดยอด ได้เงินสดประมาณ 700 บาท


ทั้งนี้นายนริศชาติ ผู้ต้องหา จะทำทีเข้าไปในวัดเพื่อสักการะบูชาพระเหมือนชาวพุทธทั่วไป แต่งกายภูมิฐานใส่สูท หรือสุภาพเรียบร้อยน่าเชื่อถือ ไม่ให้เป็นที่น่าสงสัย อาศัยจังหวะที่ไม่มีคน ก็ใช้ลวดแขวนเสื้อดัดแปลงตัดเป็นท่อนยาวประมาณ 5-6 นิ้ว แล้วใช้หมากฝรั่งติดที่ปลาย แหย่เข้าไปในช่องใส่เงินตู้บริจาค เมื่อธนบัตรติดปลายลวดแขวนเสื้อก็ดึงออกมา แต่ละครั้งจะได้เงินหลักร้อย มากที่สุด 1,800 บาท

และจากการตรวจสอบประวัติ นายนริศชาติ ผู้ต้องหา เป็นบุคคลตามหมายจับ ศาลจังหวัดชลบุรี ที่ 337/2564 ลงวันที่ 1 กันยายน 2564 ฐานความผิดชิงทรัพย์ ข่มขื่นกระทำชำเราโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ และบุกรุกเคหะสถานโดยใช้กำลังประทุษร้ายและโดยมีอาวุธ