สกลนคร - “ซ้อลักษณ์” ควงทนายเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองสกลนคร เอาผิด “ต้นอ้อ” ประธานมูลนิธิดัง 3 ข้อหาหนัก จ่อร้องสำนักนายกฯ และกองปราบปราม ย้ำเสียหายระดับชาติไม่ใช่แค่เรื่องเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด
จากกรณี น.ส.วิไลลักษณ์ ไชยชาญ หรือซ้อลักษณ์ อ้างตัวว่าเป็นผู้เสียหายว่าถูก ประธานมูลนิธิเป็นหนึ่งเสนอซื้อขายวุฒิการศึกษา ป.ตรี จากมหาวิทยาลัยนเรศวร จ.พิษณุโลก พร้อมกันนี้ยังได้แอบอ้างเสนอซื้อขายตำแหน่งทางการเมือง จนกลายเป็นประเด็นดังอยู่ในกระแสข่าวหลักต่อเนื่องกันมาหลายวัน มีผู้ได้รับผลกระทบเป็นวงกว้างไปหลายวงการ
คืบหน้าล่าสุดวันนี้ (7 ก.ค.) เวลา 09.00 น. ที่ สภ.เมืองสกลนคร ซ้อลักษณ์ หรือ น.ส.วิไลลักษณ์ ไชยชาญ และทนายชาญชัย ฉายบุ หรือทนายหนุ่ย ที่ปรึกษามูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมนำหลักฐานเอกสารข้อความแชตที่บางส่วนถูกเผยแพร่ผ่านสื่อโชเชียลไปบ้างแล้ว โดยทนายชาญชัยกล่าวว่า วันนี้ได้พาผู้เสียหายเดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.เมืองสกลนคร เนื่องจากผู้เสียหายมีภูมิลำเนาอยู่ที่นี่ ซึ่งเป็นเขตอำนาจการสอบสวนของ สภ.เมืองสกลนคร
โดยวันนี้มีการแจ้งความ 3 ข้อกล่าวหา ประกอบด้วย ข้อกล่าวหาที่ 1 คดีฉ้อโกง กรณี น.ส.วิไลลักษณ์ เป็นผู้เสียหายถูกหลอกให้ซื้อวุฒิการศึกษาโดยไม่ได้รับวุฒิ ข้อกล่าวหาที่ 2 คดีปลอมแปลงเอกสาร ประมวลกฎหมายอาญาตามมาตรา 264 โดยมูลนิธิเป็นหนึ่ง นำเอกสารของ น.ส.วิไลลักษณ์ ไปปลอมแปลงลายเซ็นเพื่อจัดตั้งมูลนิธิ ส่วนข้อกล่าวหาที่ 3 พ.ร.บ.การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (1) นำเข้าข้อมูลที่ปลอมบางส่วน หรือทั้งหมดหรือเป็นเท็จ
“วันนี้ได้แจ้งครบทั้ง 3 ข้อกล่าวหา ถือว่าเป็นข้อหาที่หนักทั้งสิ้น ทั้งนี้ ทีมกฎหมายอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลหลักฐานเรื่องการซื้อขายวุฒิ-ตำแหน่งทางการเมือง ว่าอยู่ในอำนาจของหน่วยงานใดบ้าง หากพบเข้าข่ายการกระทำความผิดอาจจะต้องส่งเรื่องไปยังกองปราบปราม และอาจจะต้องมีการร้องเรียนไปถึงสำนักนายกรัฐมนตรี รัฐสภา เพราะถือว่าเสียหายที่ประธานมูลนิธิฯ นำไปแอบอ้างในการซื้อขายตำแหน่งทางการเมือง” ทนายความกล่าว และว่า
ในส่วนที่มีการแอบอ้างเบื้องสูงนั้น ทุกคนทราบดีว่าสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นเรื่องสูง ผู้ใดมาแอบอ้างถือว่าผิดเพราะว่าเป็นที่เคารพรักและเทิดทูนของพี่น้องประชาชนชาวไทย
ทนายชาญชัยยังกล่าวอีกว่า สำหรับประเด็นที่คุณลักษณ์และคุณปุ๊กกี้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวนี้ต่อสาธารณะ อยากให้ประชาชนมองไปถึงเรื่องความเสียหายของชาติ การซื้อขายวุฒิการศึกษาถือว่าเป็นภัยต่อการศึกษา ถ้าซื้อขายกันง่ายแล้วปล่อยปละละเลยจะทำให้บุคลากรทางการศึกษา และลูกหลานเราต่อไปก็คงไม่ต้องเรียนหนังสือหา เพราะซื้อกันง่าย บุคลากรของชาติก็จะไม่มีคุณภาพ
รวมไปถึงการซื้อขายตำแหน่งคณะทำงานทางการเมือง เมื่อซื้อขายกันได้คนที่อยากเข้ามาทำงานรับใช้ชาติจริงๆ ก็ถือว่าไปตัดโอกาสเขาแทนที่จะได้เข้ามาพัฒนาให้ไวขึ้นกลับกลายเป็นล้าหลัง
ขณะที่ ซ้อลักษณ์ น.ส.วิไลลักษณ์ กล่าวว่า อยากให้ทุกคนมองเรื่องนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของคำว่าเพื่อน เรื่องนี้เป็นความเสียหายระดับชาติ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อขายวุฒิบัตรเข้ารัฐสภา อยากให้มองข้ามคำว่าเพื่อนออกไปมองเรื่องที่ใหญ่กว่านี้