ราชบุรี - สะพานกลับรถที่แคบที่สุดในประเทศไทย ทำชาวบ้านเดือดร้อนหนัก จึงออกมารวมตัวกันที่สะพานข้ามทางรถไฟ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาแก้ไข เพราะสะพานลอยที่ออกแบบมารถไม่สามารถสวนทางกันได้
วันนี้ (2 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสะพานข้ามทางรถไฟ หมู่ 1-หมู่ 5 ต.ปากท่อ อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี หลังจากได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่า การรถไฟแห่งประเทศไทยจะทำการปิดเส้นทางที่เป็นทางสัญจรหลักของรถจักยานยนต์ที่ประชาชนชาวปากท่อ และอำเภอใกล้เคียงใช้สัญจรเป็นทางเชื่อมที่สามารถไปตลาด ไปส่งนักเรียน ไปธนาคาร ไปโรงพยาบาล และโรงพัก ซึ่งจะทำการปิดเส้นทางดังกล่าวในวันที่ 10 ก.ค. และให้ไปใช้สะพานลอยที่เพิ่งสร้างเสร็จ ซึ่งประชาชนในพื้นที่ไม่ยอม
เนื่องจากสะพานลอยที่สร้างออกแบบมา รถไม่สามารถสวนทางกันได้ ชาวบ้านจึงได้รวมตัวกันมาที่สะพานข้ามทางรถไฟดังกล่าว พร้อมทั้งได้มีการทดลองขับรถขึ้นให้ดูก็เป็นไปตามที่ชาวบ้านได้ร้องเรียนมาเพราะสะพานฝั่งขาขึ้นและฝั่งขาลงไม่สามารถขับสวนกันได้ มีขนาดความกว้างที่แคบมาก และรถจักรยานยนต์ที่ขับขึ้นสะพาน พอถึงทางเลี้ยวหักศอกกลางสะพานไม่สามารถตีวงเลี้ยวได้ เพราะทำทางแคบเกินไป บ้างคันถึงกับต้องจอดกลางสะพานตรงหัวโค้งเพื่อที่จะยกรถเลี้ยวและขับขึ้นสะพานอย่างทุลักทุเล และเป็นทั้งสองฝั่ง ต้องยกรถเลี้ยวทั้งขาขึ้นและขาลงแทบจะทุกคัน
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายจีรวัฒน์ ธนวัฒน์ ชาวบ้านที่ใช้ถนนเส้นนี้เป็นประจำทุกวัน กล่าวว่า สะพานนี้สร้างไม่ได้เรื่อง ลองใช้ดูแล้วก่อนที่เขาจะปิดในวันที่ 10 ก.ค.นี้ หลังจากใช้คือไม่สามารถเลี้ยวกลับรถช่วงกลางสะพานได้ เหมาะสำหรับให้คนเดินข้ามมากกว่า และรถไม่สามารถสวนกันได้ ถ้าฝั่งนี้จะขึ้น อีกฝั่งที่ขึ้นมาต้องจอดรอด้านบนสะพานให้รถฝั่งนี้ขึ้นไปถึง และรถอีกฝั่งถึงจะลงมาได้ ซึ่งมองถึงความเป็นจริงแล้ว ช่วงเวลาเร่งรีบตอนเช้าและหลังเลิกเรียน รถจะเยอะมาก ต้องมาจอดรอที่บนสะพาน เพราะรถสวนกันไม่ได้และต้องนั่งลุ้นอีกว่าคันนี้จะเลี้ยวพ้นไหม ต้องลงไปช่วยยกไหม ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้แน่ๆ ที่จะมาใช้สะพานที่สร้างแบบแคบขนาดนี้ น่าจะเป็นที่แรกในโลกที่แคบขนาดนี้อาจจะเป็นไปได้ ไม่รู้ว่าออกแบบกันมายังไง "คนทำไม่ได้ใช้ ส่วนคนใช้ไม่ได้ทำ"
ด้านนางใจ กล่าวว่า อยากให้แก้ไข้ให้สะพานกว้างกว่านี้ ให้สามารถเลี้ยวได้และวิ่งสวนกันได้สะดวก แยกเลนไปเลยทางขึ้นและลงให้ชัดเจนอยากให้แก้ไขโดยเร็ว เพราะจุดนี้เป็นจุดใหญ่ เป็นทางผ่านของทั้งอำเภอ และคนพื้นที่ข้างเคียงใช้เส้นนี้ส่วนใหญ่ ถ้าปิดทางข้ามด้านล่างให้มาใช้สะพานนี้โดยที่ไม่ได้แก้ไข ชาวบ้านเดือดร้อนกันมากแน่นอน วันหนึ่งวิ่งผ่านเส้นนี้กันนับพันคัน และสะพานแคบมาก เลี้ยวก็ลำบากมาก และเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งสะพานข้ามทางรถไฟที่เขาสร้างให้รถจักยานยนต์ใช้ข้างทางรถไฟทางคู่ ที่อื่นๆ เขาสร้างกันไม่แคบขนาดนี้ แต่ที่นี่แคบมากเกินไป จึงอยากให้มาแก้ไข้สะพานให้กลับรถได้และมีความปลอดภัยมากกว่านี้
ซึ่งชาวบ้านทุกคนที่ได้ใช้ถนนเส้นนี้อยู่ประจำบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าขอวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือผู้รับเหมาที่เกี่ยวข้องกับการสร้างสะพานนี้ ให้มาตรวจสอบแก้ไข้ให้สามารถใช้งานได้จริง และปลอดภัยโดยเร็วที่สุดเพราะชาวบ้านที่สัญจรถนนเส้นนี้ ถ้าปิดขึ้นมาชาวบ้านทุกคนเดือดร้อนกันแน่นอน