ไฟไหม้โรงงานขายที่นอนเมืองโอ่งวอดทั้งหลัง

ราชบุรี - ไฟไหม้โรงงานขายที่นอน อ.สวนผึ้ง วอดทั้งหลัง พร้อมทั้งรถยนต์และจักรยานยนต์เสียหาย ที่นอนสำเร็จรูปรวมทั้งอุปกรณ์ในการผลิต ความร้อนทำให้ตัวโครงหลังคาเมทัลชีสได้ยุบตัวลงมา ส่วนค่าเสียหายรอการตรวจสอบ

เย็นวันนี้ (28 มิ.ย.) พ.ต.ท.ฉัตรชัย สอนทา สารวัตรเวร สภ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ได้รับแจ้งเหตุไฟไหม้โรงงานขายที่นอนเลขที่ 396 หมู่ 1 ต.ท่าเคย อ.สวนผึ้ง จึงประสานขอรถดับเพลิงจาก อบต.ท่าเคย อ.สวนผึ้ง ซึ่งอยู่ใกล้เคียงให้เข้าไปทำการดับเพลิง ก่อนจะเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิประชานุกูล และมูลนิธิปฐมบรมราชานุสรณ์ราชบุรี

ในที่เกิดเหตุเป็นอาคารขนาดใหญ่ พบกลุ่มควันสีดำปกคลุมไปทั่วบริเวณ เจ้าหน้าที่ต้องขอรถดับเพลิงจากพื้นที่ใกล้เคียงรวมกว่า 15 คัน ให้เข้ามาช่วยดับเพลิง เนื่องจากในช่วงที่เกิดเหตุนั้นมีกระแสลมแรง ประกอบกับในโรงงานนั้นมีที่นอนที่มีทั้งฟองน้ำ นุ่น และยางพาราจำนวนมากซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีทำให้ไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาในการฉีดน้ำรอบตัวอาคารนานกว่า 1 ชม.จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่ยังคงต้องคอยฉีดน้ำเลี้ยงไว้ตลอดเพื่อไม่ให้ไฟลุกขึ้นมาอีก

นายมนัส ศิริจรรยาพงษ์ นายก อบต.ท่าเคย ได้มาสั่งการดับเพลิง พร้อมเตรียมหารถแบ็กโฮเข้ามาช่วยดำเนินการดึงกองที่นอนออกมา เพื่อจะได้ฉีดน้ำให้ไฟดับให้หมด เบื้องต้นพบว่าไฟได้ไหม้ที่นอนสำเร็จรูป รวมทั้งอุปกรณ์ในการผลิตที่นอน รถกระบะที่จอดด้านหลังโรงงานและรถจักรยานยนต์เสียหายทั้งหมด และความร้อนทำให้ตัวโครงหลังคาเมทัลชีสได้ยุบตัวลงมา

นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำเชือกมากั้นบริเวณดังกล่าว ไม่ให้ใครที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไป และกันเป็นพื้นที่อันตราย เนื่องจากตัวโครงสร้างอาคารนั้นเริ่มทรุดตัว และต้องรอตรวจสอบสาเหตุไฟไหม้จากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.ราชบุรี ด้วย

จากการสอบถามนายวัชรพล ศรีโชติ อายุ 60 ปี เจ้าของโรงงานดังกล่าว กล่าวว่า โรงงานของตนนั้นขายที่นอน และผลิตที่นอน ซึ่งในอาคารนั้นมีที่นอนสำเร็จรูปกว่า 100 ชุด ที่เตรียมจะไปส่งให้ลูกค้าที่ต่างจังหวัด แต่มาถูกไฟไหม้ทั้งหมด ส่วนทรัพย์สินอื่นๆ นั้นเบื้องทราบว่ามีรถกระบะ และรถจักรยานยนต์ถูกไฟไหม้เสียหาย แต่ยังมีทรัพย์สินอีกหลายรายการที่ยังไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าถูกไฟไหม้หรือไม่เพราะยังไม่สามารถเข้าไปในตัวอาคารได้

ส่วนสาเหตุนั้นมาจากไฟไหม้กองหญ้าที่อยู่ด้านหลังโรงงานซึ่งไม่ทราบว่าใครจุดไฟ เมื่อเห็นว่ามีไฟไหม้ด้านหลัง จึงได้ชวนคนงานไปดับ แต่ในช่วงนั้นมีกระแสลมแรงมาก ทำให้ไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว พยายามช่วยกันใช้ถังดับเพลิงที่มีอยู่กว่า 10 ถัง ก็เอาไม่อยู่ จนไฟลุกลามไปติดกองที่นอนและลุกไหม้อย่างรวดเร็ว จึงได้แจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ดังกล่าว ส่วนมูลค่าความเสียหายนั้นยังไม่สามารถที่จะประเมินได้เพราะยังไม่ได้เข้าไปตรวจสอบด้านในว่ามีอะไรเสียหายบ้าง