xs
xsm
sm
md
lg

ตำรวจสนธิกำลังฝ่ายปกครองรวบวัยรุ่นสร้างตัว โพสต์ขายบุหรี่ไฟฟ้า-ยาแก้ไอ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวขอนแก่น -'ตำรวจ สภ.ท่าพระ และฝ่ายปกครองอำเภอเมืองขอนแก่นรวบวัยรุ่นสร้างตัว โพสต์ขายยาแก้ไอและบุหรี่ไฟฟ้าผ่านเฟซบุ๊ก สารภาพสั่งซื้อผ่านแอปพลิเคชันไลน์แล้วนำมาขายต่อ อ้างนำเงินไปใช้จ่ายเลี้ยงดูพ่อแม่และคนในครอบครัว


วันนี้ (26 มิ.ย.) พ.ต.ต.ทินกร จันทะเรือง สว.สส.สภ.ท่าพระ พร้อมด้วย พ.ต.ต.ดนัย ถนอมชีพ สว.กก.สส.ภ.จว.ขอนแก่น, นายปัณณทัต สามิบัติ เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการ, นายอรรถพล ทิพย์ดารา ปลัดอำเภอเมืองขอนแก่น และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง นำกำลังเข้าตรวจสอบบ้านเลขที่ 16 หมู่ที่ 14 ต.ดอนหัน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ว่ามีชายและหญิง 2 คน ซึ่งทั้งคู่เป็นแฟนกัน ได้โพสต์โฆษณาขายบุหรี่ไฟฟ้า และยาแก้ไอ (ผิดกฎหมาย) ในสื่อสังคมออนไลน์

ขณะที่เจ้าหน้าที่ไปถึงบริเวณหน้าบ้าน ได้พบกับหญิงรายหนึ่งอายุประมาณ 20 ปี ทราบชื่อเล่นว่า “มินตรา” ซึ่งเป็นบุคคลที่ตรงกับข้อมูลที่เจ้าหน้าที่แจ้งว่าเป็นผู้ร่วมโพสต์ขายยาแก้ไอ และบุหรี่ไฟฟ้าร่วมกับนายพุทธิพงษ์ สมานประธาน อายุ 21 ปี เจ้าหน้าที่จึงวางแผนให้ น.ส.มินตรา โทรศัพท์แจ้งให้นายพุทธิพงษ์เข้ามาที่บ้าน เมื่อนายพุทธิพงษ์ขับขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาที่บ้าน เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม

ก่อนจะพาไปตรวจค้นหาของกลางภายในบ้าน โดยพบยาแก้ไอยี่ห้อ Datisin ฝาสีแดง จำนวน 18 ขวด บรรจุภายในลังกระดาษ ยาแก้ไอยี่ห้อ Allergin Syrup ฝาสีเทา จำนวน 26 ขวด บรรจุภายในลังกระดาษ และบุหรี่ไฟฟ้ายี่ห้อ marbo จำนวน 15 อัน เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวนายพุทธิพงษ์ ผู้ต้องหา พร้อมตรวจยึดของกลางทั้งหมด มาทำบันทึกจับกุมดำเนินคดีที่ สภ.ท่าพระ อ.เมืองขอนแก่น

จากการสอบสวนนายพุทธิพงษ์ให้การรับสารภาพว่ายาแก้ไอและบุหรี่ไฟฟ้าทั้งหมดที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดได้เป็นของตนเองทั้งหมด โดยได้สั่งซื้อยาแก้ไอและบุหรี่ไฟฟ้าจากพ่อค้ารายหนึ่งผ่านทางแอปพลิเคชันไลน์ หลังสั่งซื้อผู้ขายจะส่งสินค้ามาให้ทางไปรษณีย์ จากนั้นตนเองก็จะนำมาโพสต์ขายผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยยาแก้ไอฝาขาวจะขายขวดละ 80 บาท ฝาแดงขวดละ 90 บาท

เงินที่ใช้เป็นทุนในการซื้อของดังกล่าวมาขายเป็นเงินที่ตนเองเก็บออมจากการทำงาน รวมทั้งเงินที่ได้จากการขายรถจักรยานยนต์และสร้อยคอทองคำรูปพรรณ ซึ่งเงินที่ได้จากการขายบุหรี่ไฟฟ้าและยาแก้ไอก็จะนำมาเป็นค่าใช้จ่ายเลี้ยงดูพ่อแม่และคนในครอบครัว ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้อธิบายว่าผู้ต้องหาจะอ้างปัญหาอะไรก็ได้ แต่ไม่ใช่ข้ออ้างที่จะกระทำในสิ่งที่ผิดกฎหมาย




เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้ง 3 ข้อหา คือ 1. เป็นผู้ขายยาแผนปัจจุบัน โดยไม่มีใบอนุญาต (พ.ร.บ.ยาฯ มาตรา 12) 2. มิได้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมทำการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมหรือแสดงด้วยวิธีใดๆ ให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเป็นผู้มีสิทธิประกอบวิชาชีพดังกล่าว โดยมิได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาต (พ.ร.บ.วิชาชีพเภสัชกรรม มาตรา 28)

3. พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 “ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้ด้วยประการใด ซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของที่ยังมิได้เสียค่าภาษี หรือของต้องห้าม หรือที่เข้ามาในราชอาณาจักร โดยยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากรโดยถูกต้อง นำตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าพระ ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น