xs
xsm
sm
md
lg

ศธจ.ชัยนาท จับมือภาคีเครือข่ายขับเคลื่อนนโยบายป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในโรงเรียน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ชัยนาท - ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดชัยนาท จับมือภาคีเครือข่ายขับเคลื่อนนโยบายป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในโรงเรียน 

วันนี้ (20 มิ.ย.) ที่หอประชุมโรงเรียนชัยนาทพิทยาคม นายวิทยา ชพานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท เป็นประธานเปิดโครงการการขับเคลื่อนนโยบายการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษาปีงบประมาณ พ.ศ.2567 เพื่อสร้างความร่วมมือหน่วยงานและภาคีเครือข่ายในการบูรณางานร่วมกัน เพื่อขับเคลื่อนนโยบายการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษาอย่างเป็นรูปธรรม

โดยมีผู้บริหาร ผู้รับผิดชอบจากหน่วยงานภาคีเครือข่าย จากศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดชัยนาท  กอ.รมน.จังหวัดชัยนาท ปกครองจังหวัดชัยนาท ตำรวจภูธรจังหวัดชัยนาท สาธารณสุขจังหวัดชัยนาท สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยนาท สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาอุทัยธานี-ชัยนาท สำนักงานอาชีวศึกษาจังหวัดชัยนาท สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัดชัยนาท นายอำเภอ สาธารณสุขอำเภอ สถานีตำรวจภูธรทุกอำเภอ มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ และ ผู้บริหารโรงเรียนจากทุกสังกัด รวมจำนวน 200 คน เข้าร่วมโครงการ

นายวิทยา ชพานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท กล่าวว่า ปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดถือเป็นปัญหาสำคัญของประเทศไทยที่ทุกรัฐบาลให้ความสำคัญในการดำเนินงานป้องกันและแก้ไข เนื่องจากเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงทั้งในด้านสุขภาพ ด้านสังคม ด้านเศรษฐกิจ และด้านความมั่นคงของประเทศ รัฐบาลในปัจจุบันได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในเรื่องนี้ จึงกำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติที่ต้องดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่องและจริงจังในทุกภาคส่วน

โดยมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย ในฐานะภาคีเครือข่ายของหน่วยงานฝ่ายความมั่นคงร่วมกันแก้ไขปัญหายาเสพติดของประเทศไทย ทั้งการป้องกัน ปราบปราม รวมถึงการบำบัดฟื้นฟูสภาพทางสังคมแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด เพื่อนำตัวเข้ารับการบำบัดให้กลับมาเป็นคนดีคืนสู่สังคมและครอบครัว รวมไปถึงการดูแลเด็กและเยาวชนให้ตระหนักถึงโทษของยาเสพติด และร่วมมือกันป้องกันอย่างจริงจัง การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดให้หมดจากสังคมไทยไม่สามารถดำเนินการให้สำเร็จได้ด้วยการทำงานขององค์กรใดองค์กรหนึ่ง แต่ทุกองค์กร ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน จะทำให้เกิดพลังในการร่วมกันป้องกันปัญหายาเสพติดอย่างเข้มแข็ง

โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชน มาตรการในการป้องกันยาเสพติดให้เด็กและเยาวชน มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสร้างการรับรู้และภูมิคุ้มกันให้แก่เด็กและเยาวชน ทั้งใน และนอกสถานศึกษา เช่น สถานศึกษามีการพัฒนาหลักสูตรสื่อการสอนให้มีความรู้เท่าทันกับปัญหายาเสพติด การดำเนินกิจกรรมตามแนวทางรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด TO BE NUMBER ONE มีระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนที่เข้มแข็ง คัดกรองนักเรียนกลุ่มปกติ/กลุ่มเสี่ยง ส่วนนายอำเภอในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการป้องกัน และปราบปรามยาเสพติดอำเภอ ต้องเป็นแกนนำหน่วยงานเครือข่ายในพื้นที่ รวมทั้งการสร้างความร่วมมือของหมู่บ้าน/ชุมชน ครอบครัว และโรงเรียน เป็นภาคีเครือข่ายในการช่วยกันดูแล และส่งต่อ เพื่อให้เด็กและเยาวชนของจังหวัดชัยนาทให้เป็นบุคคลที่เติบโตสมบูรณ์ ทั้งร่างกายและจิตใจ

นางพัฒนาพร ไทยพิบูลย์ ศึกษาธิการจังหวัดชัยนาท ในฐานะประธานคณะกรรมการดำเนินงานโครงการการขับเคลื่อนนโยบายการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษา กล่าวว่า ตามที่กระทรวงศึกษาธิการประกาศนโยบายการป้องกัน และแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษา โดยให้สถานศึกษาในสังกัดดำเนินงานขับเคลื่อนโครงการสถานศึกษาสีขาว ปลอดยาเสพติด และอบายมุข และศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดชัยนาทได้มอบให้สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดชัยนาท พิจารณาดำเนินการจัดทำบันทึกข้อตกลงระหว่างจังหวัด และภาคีเครือข่ายในการขับเคลื่อนการดำเนินงานโครงการสถานศึกษาสีขาวปลอดยาเสพติด และอบายมุข ให้บรรลุผลสำเร็จเป็นรูปธรรม ในการนี้ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดชัยนาท ได้จัดทำโครงการ การขับเคลื่อนนโยบายการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 โดยร่วมกับมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้บูรณาการในการทำงานร่วมกันในการสร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติดอย่างเป็นรูปธรรม

โดยมี 2 กิจกรรมประกอบด้วย กิจกรรมที่ 1 พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษา ของหน่วยงานภาคีเครือข่าย จำนวน 10 หน่วยงาน กิจกรรมที่ 2 การประชุมเสวนาหน่วยงานภาคีเครือข่ายการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษา ปีงบประมาณ พ.ศ.2567 และมอบป้ายโรงเรียนเป็นเขตปลอดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า ให้สถานศึกษาในจังหวัดชัยนาท จำนวน 13 แห่ง ที่ได้รับการประเมินว่าเป็นโรงเรียนสีขาว






กำลังโหลดความคิดเห็น