ศูนย์ข่าวศรีราชา - นายกเทศมนตรีเมืองอ่างศิลา นำคณะผู้บริหารเทศบาล และชาวบ้านกว่า 100 คน ถือป้ายประท้วงขอทวงคืนพื้นที่ชายหาดช่อทิพย์ หลังถูกนายทุนยึดครองพื้นที่ริมทะเลยาวกว่า 1 กิโลเมตร พบมีการนำเปลือกหอย ขยะฝังกลบจนชาวบ้านไม่สามารถหากินบริเวณชายทะเลได้
เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (18 มิ.ย.) นายวินัย พ้นภัยพาล นายกเทศมนตรีเมืองอ่างศิลา ได้นำคณะผู้บริหารเทศบาล และชาวบ้านกว่า 100 คน ได้พากันไปรวมตัวที่วัดโกมุทรัตนาราม ม.5 ต.อ่างศิลา อ.เมือง จ.ชลบุรี เพื่อถือป้ายระบุข้อความ "ขอคืนหาดสวย ขอคืนหาดช่อทิพย์ เอาขยะคืนไป เอาเรือออกไป เอาชายหาดสวยคืนมา" หลังพบว่าพื้นที่ด้านหลังวัด ซึ่งเป็นชายหาดกว้างได้มีกลุ่มบุคคลนำขยะและเปลือกหอยนางรมมาถมในพื้นที่รวม 4 ไร่ ระยะทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร
นอกจากนั้น ยังมีการนำซากเรือมาตั้งขวางพร้อมโบกปูนเพื่อป้องกันการย้ายเรือ ส่วนทางเดินสาธารณะถูกกลุ่มบุคคลสร้างกำแพงกั้นเพื่อทำประตูเปิดเข้าบ้านพักตากอากาศของตนเอง ซึ่งเป็นบ้านหรูสูง 3 ชั้น ซึ่งจากการสำรวจโดยรอบพื้นที่ยังพบว่ามีการนำเปลือกหอยนางรม และเศษขยะ รวมถึงหน้ากากอนามัยมาทิ้งไว้ทั่วบริเวณดังกล่าวด้วย
จากการสอบถามชาวบ้านทราบว่า สาเหตุที่ต้องทวงคืนพื้นที่หาดช่อทิพย์ เพราะในอดีตชายหาดแห่งนี้เคยเป็นที่เดินเล่น และพื้นที่ทำมาหากินของชาวบ้าน อีกทั้งยังเคยเป็นพื้นที่ที่มีต้นโกงกาง แต่ปัจจุบันเมื่อมีคนเข้ามาซื้อพื้นที่ติดชายหาดเพื่อก่อสร้างบ้านพักได้มีการนำเปลือกหอยมาถม
และนำซากเรือประมงมากั้นแนวเขื่อน ส่วนพื้นที่ซอยที่ชาวบ้านเคยใช้เป็นพื้นที่เดินหาของทะเลถูกกั้นเป็นซอยส่วนบุคคล
ขณะที่ นายวินัย พ้นภัยพาล นายกเทศมนตรีเมืองอ่างศิลา เผยว่า แนวเขื่อนกันคลื่นบริเวณชายหาดช่อทิพย์ เป็นจุดที่เจ้าหน้าที่ทหารเข้ามาทำการก่อสร้างไว้เมื่อกว่า 20 กว่าปีก่อนเพื่อป้องกันการกัดเซาะบริเวณชายฝั่ง แต่ปัจจุบันพื้นที่ชายหาดช่อทิพย์กลับถูกยึดครองโดยนายทุน ซึ่งที่ผ่านมามีชาวบ้านร้องเรียนมาแล้วหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ
“ตอนนี้ทางอำเภอได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว และที่ผ่านมาทราบว่ามีชาวบ้านในพื้นที่ถูกข่มขู่มาโดยตลอด ซึ่งเทศบาลต้องดำเนินการตามหน้าที่ และสิ่งที่รับไม่ได้เป็นอย่างมากคือการนำขยะมาฝังกลบบริเวณชายหาด เพราะหากเป็นขยะอันตราย อาจจะส่งผลกระทบต่อสัตว์และทรัพยากรทางทะเลได้ เช่นเดียวกับการนำเปลือกหอยนางรมมาฝังกลบและนำเรือเก่ามาวางที่ชายหาด ซึ่งหากเปรียบเทียบกับแผนที่ทางอากาศเมื่อ 10 ปีก่อนแล้วจะพบว่าสภาพชายหาดแห่งนี้มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน และปัจจุบันยังพบว่ามีการนำขยะและเปลือกหอยนางรมมาถมอยู่ทุกวัน จึงจำเป็นต้องเข้าตรวจสอบ” นายกเทศมนตรีเมืองอ่างศิลา กล่าว
