กาญจนบุรี - ปธ.สโมสร “ดราก้อน ปทุมวัน กาญจนบุรี เอฟซี” มอบทนายร่างหนังสือยื่นอุทธรณ์พรุ่งนี้ หลังไม่เห็นด้วยกับคณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท สั่งปรับกองเชียร์ในเกมชิงถ้วยช้าง เอฟเอ FA คัพ สูงถึงกว่า 1 แสนบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (18 มิ.ย.) นายแพทย์ประวัติ กิจธรรมกูลนิจ ประธานสโมสร “ดราก้อน ปทุมวัน กาญจนบุรี เอฟซี” ออกมาโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า “กองเชียร์พูดไม่เพราะ โดนปรับไป 105,000 บาท ทีหลังเวลาตะโกนให้มี “ครับ” “ค่ะ” ทุกครั้ง ถ้าจะปาแก้วน้ำ ให้รดน้ำแบบเทศกาลสงกรานต์”
นอกจากข้อความข้างต้นแล้ว ประธานสโมสร “ดราก้อน ปทุมวัน กาญจนบุรี เอฟซี” ยังได้นำเอกสารที่แนบเอกสาร ที่นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ส่งถึงมาโพสต์ลงด้วย ซึ่งเอกสารระบุรายละเอียด ว่า FA THAILAND ที่ ฟ.(วม5) 038/2567 ลงวันที่ 18 มิถุนายน 2567 เรื่อง แจ้งผลการพิจารณาโทษ เรียน ประธานสโมสรดราก้อน ปทุมวัน กาญจนบุรี เอฟซี สำเนาเรียน นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ไทยลีก จำกัด
“ด้วยเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2567 ในการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการช้าง เอฟเอ คัพ (รอบชิงชนะเลิศ) คู่ระหว่างสโมสรทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด พบสโมสรดราก้อน ปทุมวัน กาญจนบุรี เอฟซี ณ สนามดราก้อน โซล่าร์ ปาร์ค โดยผู้ควบคุมการแข่งขัน และผู้ตัดสินรายงานว่า ในนาทีที่ 76 กองเชียร์สโมสรดราก้อนปทุมวัน กาญจนบุรี เอฟซี ที่นั่งอยู่บนอัฒจันทร์หลัก (ด้านหลังผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 1) ได้พร้อมใจกันตะโกนด่าในลักษณะของการประสานเสียงด่าว่า "ผู้ตัดสินหัว ค_ ย ไลน์แมนหัวค_ ย" เนื่องจากไม่พอใจการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินและผู้ช่วยผู้ตัดสิน และในนาทีที่ 83 กองเชียร์สโมสรดราก้อนปทุมวัน กาญจนบุรี เอฟซี ฝั่งตรงข้ามอัฒจันทร์หลัก ได้ขว้างปาแก้วน้ำพลาสติกลงมาในสนามแข่งขัน บริเวณมุมธงทางด้านทิศใต้ขณะที่ผู้เล่นสโมสรทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด กำลังจะทำการเตะลูกจากมุม”
คณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท ได้พิจารณาจากรายงานของผู้ควบคุมการแข่งขัน รายงานของผู้ตัดสินพร้อมดูคลิปเหตุการณ์ประกอบกันแล้ว เห็นว่า กรณีที่ 1 ในนาทีที่ 76 กองเชียร์สโมสรดราก้อน ปทุมวัน กาญจนบุรี เอฟซี ที่นั่งอยู่บนอัฒจันทร์หลัก ด้านหลังผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 1 ตะโกนด่าผู้ตัดสินและผู้ช่วยผู้ตัดสินด้วยถ้อยคำหยาบคาย เนื่องจากไม่พอใจการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินและผู้ช่วยผู้ตัดสิน ผู้ควบคุมการแข่งขันที่นั่งปฏิบัติหน้าที่อยู่บนอัฒจันทร์ได้ยินถ้อยคำชัดเจน ซึ่งกองเชียร์สโมสรดราก้อนปทุมวัน กาญจนบุรี เอฟซี เคยกระทำความผิดในลักษณะเดียวกันนี้ เมื่อวันที่ 4 พ.ย.66 เป็นการกระทำผิดซ้ำซาก โดยไม่เคารพต่อระเบียบข้อบังคับ และการแข่งขันในนัดดังกล่าวเป็นรอบชิงชนะเลิศเป็นนัดที่สำคัญ มีการถ่ายทอดสดประชาชนทั่วไปให้ความสนใจ การกระทำดังกล่าวเป็นการด่าบุคคลใดด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย เป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม
คณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท จึงมีมติเอกฉันท์ ลงโทษกองเชียร์สโมสรดราก้อนปทุมวัน กาญจนบุรี เอฟซี มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 4.1 ปรับเงิน 30,000 บาท เนื่องจากกองเชียร์สโมสรดราก้อนปทุมวัน กาญจนบุรี เอฟชี ถูกลงโทษไปแล้วจากการกระทำผิดเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2566 ยังไม่พ้นกำหนด 1 ปี เป็นการกระทำความผิดซ้ำ ตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษ บทที่ 3 ระเบียบว่าด้วยการลงโทษวินัย มารยาท สำหรับการแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพ และรายการกีฬาฟุตบอลอื่นๆ ของสมาคม ดังที่ระบุกำหนดไว้ว่า "กรณีที่องค์กรสมาชิก (ทีม) นักกีฬาฟุตบอล เจ้าหน้าที่ทีม กองเชียร์ขององค์กรสมาชิก กระทำความผิดตามระเบียบนี้ซ้ำในข้อเดียวกัน ภายในระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันกระทำความผิดครั้งหลังสุด ให้พิจารณาเพิ่มโทษอีกไม่เกินกึ่งหนึ่งของกำหนดโทษที่จะลง" จึงเพิ่มโทษกองเชียร์สโมสรดราก้อน ปทุมวัน กาญจนบุรี เอฟซี ปรับเงินเพิ่มอีก 15,000 บาท รวมโทษปรับเงิน 45,000 บาท (สี่หมื่นห้าพันบาทถ้วน)
กรณีที่ 2 ในนาทีที่ 83 กองเชียร์สโมสรดราก้อนปทุมวัน กาญจนบุรี เอฟซี ฝั่งตรงข้ามอัฒจันทร์หลัก ได้ขว้างปาแก้วน้ำพลาสติกลงมาในสนามแข่งขัน บริเวณมุมธงทางด้านทิศใต้ ขณะที่ผู้เล่นสโมสรทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด กำลังจะทำการเตะลูกจากมุม กองเชียร์สโมสรดราก้อนปทุมวัน กาญจนบุรี เอฟซี ได้ขว้างปาแก้วน้ำลงไปในสนามแข่งขัน ปรากฏคลิปเหตุการณ์อย่างชัดเจน การขว้างปาสิ่งของลงไปในสนามอาจเกิดอันตรายแก่ผู้เล่นในสนามได้
จากการกระทำดังกล่าวเป็นเหตุทำให้เกมการแข่งขันต้องหยุดชะงักลงชั่วขณะหนึ่ง โดยการแข่งขันนัดดังกล่าวเป็นรอบชิงชนะเลิศเป็นนัดที่สำคัญ มีการการถ่ายทอดสดประชาชนทั่วไปให้ความสนใจ พฤติกรรมดังกล่าวของกองเชียร์ทำให้เสื่อมเสียภาพลักษณ์ของวงการฟุตบอลไทย เป็นการไม่เคารพต่อระเบียบข้อบังคับ คณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท จึงมีมติเอกฉันท์ ลงโทษสโมสรดราก้อนปทุมวัน กาญจนบุรี เอฟซี มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 4.4 ปรับเงิน 60,000 บาท (หกหมื่นบาทถ้วน) รวมโทษปรับเงินทั้งสิ้น 105,000 บาท (หนึ่งแสนห้าพันบาทถ้วน) ทั้งนี้ ขอให้สโมสรของท่านชำระเงินค่าปรับทั้งหมดข้างต้น ภายในวันที่ 28 มิถุนายน 2567 นี้
จากกรณีข้างต้นล่าสุดเมื่อเวลา 16.50 น.นายแพทย์ประวัติ กิจธรรมกูลนิจ ประธานสโมสร “ดราก้อน ปทุมวัน กาญจนบุรี เอฟซี” เปิดเผยว่าการแข่งขันฟุตบอลเรื่องการตะโกนด่าผมถือว่าเป็นเรื่องปกติของแฟนบอลที่มีอารมณ์ร่วมเวลาดูกีฬา ฟุตบอลต่างประเทศแค่ไม่เหยียดผิวไม่เหยียดเพศถือว่าเป็นเรื่องปกติ ที่จริงการแข่งขันรอบชิงในวันนั้นเรื่องการด่ามีทั้งสองฝั่ง และอีกทีมมีการใช้ถ้อยคำที่ไม่สุภาพเช่นเดียวกัน
ทำไมเรื่องลงโทษสมาคมมักทำงานได้อย่างรวดเร็ว แต่ในขณะที่เงินสนับสนุนหรือเงินรางวัลกลับจ่ายช้ามาก ดังนั้นการที่สมาคมพิจารณาโทษปรับเป็นเงินทั้งสิ้น จำนวน 105,000 บาทนั้น ผมจึงไม่เห็นด้วยกับค่าปรับที่สูงเกินไป จึงจำเป็นต้องอุทธรณ์ ขณะนี้ผมได้มอบหมายให้ทนายความร่างหนังสือโดยภายในพรุ่งนี้จำดำเนินการยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการอุทธรณ์ สมาคนฟุตบอลต่อไป
