กาญจนบุรี - ยกเลิกปฏิบัติการค้นหาครูเต้ย อาจารย์พิเศษและนักแปลอาชีพ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่เดินทางมาท่องเที่ยวแพพักกับกลุ่มเพื่อนที่อ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ ตั้งแต่วันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา สูญหายปริศนา รอผลสืบสวนของตำรวจอีกครั้ง
จากกรณี อาจารย์จตุรภุช นิลัมภาชาต หรืออาจารย์เต้ย อายุ 41 ปี อาจารย์พิเศษ (สาขาวิชาภาษาอังกฤษ) และนักแปลอาชีพ (สาขาไอที) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่เดินทางมาท่องเที่ยวแพพักกับกลุ่มเพื่อนที่อ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ ตั้งแต่วันที่ 18 พ.ค.67 จากนั้นวันรุ่งขึ้นของวันที่ 19 พ.ค. อาจารย์เต้ย ได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย โดยระหว่างวันที่ 14-16 มิ.ย.2567 เจ้าหน้าที่มูลนิธิต่างๆ จากทั่วประเทศ รวม 11 ทีม 60 นาย ได้พร้อมใจกันระดมค้นหาร่างเป็นรอบที่ 3 แล้วแต่ยังไร้วี่แวว
ช่วงเวลา 08.00 น.วันนี้ (16 มิ.ย.) นายศิริรัตน์ บำรุงเสนา นายอำเภอศรีสวัสดิ์ ได้ประชุมร่วมกับทีมอาสากู้ภัยที่ร่วมกันปฏิบัติภารกิจค้นหาผู้สูญหาย มาตั้งแต่วันศุกร์ที่ 14 มิ.ย.ที่ท่าเรือเขื่อนศรีนครินทร์ อีกครั้งหนึ่งเพื่อสรุปภารกิจ โดยที่ประชุมเห็นพร้อมกันว่าจะหยุดการค้นหารอบที่ 3 ในวันนี้ เนื่องจากได้ทำการค้นหาทางน้ำครบถ้วนตามแผนงานที่วางไว้ โดยไม่พบสิ่งผิดปกติหรือร่องรอยร่างผู้สูญหาย
การค้นหาใต้น้ำดำเนินการ จำนวน 2 วัน คือวันที่ 14 และ 15 มิ.ย.ครอบคลุมพื้นที่จุดจอดแพกลางเกาะกลางน้ำ ออกไปในระยะกว่า 100 เมตร จนถึงฝั่งตลิ่งตรงกันข้าม ครอบคลุมร่องน้ำลึก และยังขยายออกด้านข้างจุดจอดแพถึงบริเวณศาล โดยใช้ซาวเดอร์สแกนอย่างละเอียด จำนวน 3 เครื่อง และโดรนใต้น้ำ 3 เครื่อง นักประดาน้ำ 30 คน หมุนเวียนดำลงไปทุกจุดต้องสงสัย
การปฏิบัติหน้าที่ของทีมกู้ภัยได้รับการสนับสนุนการอำนวยความสะดวกด้านสถานที่จากเขื่อนศรีนครินทร์ และได้รับการสนับสนุนอาหาร เครื่องดื่มเพิ่มเติมจากผู้ประกอบการ หน่วยงานในและนอกพื้นที่ภายใต้แคมเปญ "ศรีสวัสดิ์ ห่วงใย (heart)" เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
โดยที่ประชุมอาสากู้ภัย สรุปการดำเนินการค้นหาครั้งต่อไป จะรอผลการพิจารณาการสืบสวนสอบสวนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีสวัสดิ์ เพื่อให้ได้ข้อชัดเจนว่าผู้สูญหายอยู่ในแพที่ลากออกมากลางน้ำในวันที่ 18 พฤษภาคมหรือไม่ หากอยู่ในแพที่ลากออกมา มีการตกน้ำหรือไม่ หากตกน้ำจะตกที่จุดใด
นอกจากจุดจอดแพที่เกาะกลางน้ำตามข้อสันนิษฐานแรกที่ได้ทำการค้นหาอย่างละเอียดรวม 3 ครั้งแล้ว แต่ไม่พบผู้สูญหาย เพื่อจะกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจนและกำหนดเครื่องมือ วิธีการ บุคลากรให้เหมาะสม โดยทีมอาสากู้ภัยทั้ง 11 ทีม รวม 60 คนได้เก็บอุปกรณ์ทยอยถอนกำลังออกจากพื้นที่แล้วตั้งแต่เวลา 11.00 น.ที่ผ่านมา
