(คลิป) ประธาน กก.วัดบ้านไร่ลั่นนำโลหิตธาตุ “หลวงพ่อคูณ” มาเป็นมวลสารปลุกเสก ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ประธานกรรมการบริหารโครงการวัดบ้านไร่ลั่นนำโลหิตธาตุ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ มาเป็นมวลสารปลุกเสก จัดสร้างวัตถุมงคล ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ลูกหลานและศิษยานุศิษย์รู้สึกกังวลใจ วอนผู้โพสต์ออกมาชี้แจง

จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ภาพลงในกลุ่มเฟซบุ๊กชื่อ “หลวงปู่ศิลา สิริจันโท รุ่นยอดเศรษฐี” พร้อมระบุข้อความว่า “โลหิตธาตุ หลวงพ่อคูณ น้ำตาจะไหล กราบขอบพระคุณครับ #รุ่นยอดเศรษฐี" ซึ่งภาพที่โพสต์เป็นภาพหลอดเก็บตัวอย่างเลือด มีสติกเกอร์แปะข้อความระบุชื่อว่า “หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ 87 ปี” พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา และมีรหัสระบุอักษรภาษาอังกฤษและตัวเลข AN : 543333 ซึ่งหลังจากภาพได้ถูกเผยแพร่ออกไปทำให้บรรดาลูกศิษย์และประชาชนที่เคารพนับถือต่างรู้สึกกังวลใจและสงสัยตั้งคำถามว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร และเป็นของจริงหรือปลอม



ล่าสุดวันนี้ (15 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถามไปยัง นายสนอง หวังหยิบกลาง ประธานกรรมการบริหารโครงการวัดบ้านไร่ สร้างหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ องค์ใหญ่ เปิดเผยว่า กรณีที่มีกลุ่มผู้จัดสร้างวัตถุมงคลโพสต์ข้อความและภาพหลอดเก็บตัวอย่างโลหิตธาตุหลวงพ่อคูณนั้น โดยส่วนตัวมองว่าไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ตอนนี้ทางวัดบ้านไร่อยู่ระหว่างการปรึกษาหารือกันอยู่และยังไม่ทราบที่มาที่ไปที่ชัดเจน ซึ่งตนคิดว่าบรรดาลูกศิษย์ลูกหาของท่านน่าจะมีความคิดเห็นตรงกันว่า ไม่มีความเหมาะสมด้วยประการทั้งปวง


ทั้งนี้ เพราะหากจะนำเกศาธาตุ เล็บ หรือส่วนต่างๆ มาเป็นมวลสารสร้างวัตถุมงคล ก็เป็นเรื่องปกติที่จัดทำกันอยู่แล้ว แต่นี่เป็นโลหิตธาตุของพระเดชพระคุณท่าน จึงไม่มีความเหมาะสมด้วยประการทั้งปวง และทุกคนต่างมีความคิดเห็นว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะโรงพยาบาลแต่ละแห่งย่อมมีการจัดเก็บและมีระเบียบปฏิบัติที่เคร่งครัดอยู่แล้ว จึงมาวิเคราะห์กันว่าเป็นของจริงหรือมีการทำขึ้นมาหรือเปล่า ก็ต้องสืบหาความจริงกันต่อไป


นายสนองยังกล่าวอีกว่า มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบางส่วนได้ออกมาชี้แจงแล้ว และได้รับความกระจ่างไปในระดับหนึ่งแล้ว หากทางผู้จัดสร้างฯ มีเจตนาอันบริสุทธิ์ ทางคณะกรรมการบริหารโครงการวัดบ้านไร่ฯ ก็ไม่ได้ติดใจอะไร แต่การจะนำภาพโลหิตธาตุของหลวงพ่อ มาโพสต์หรือนำโลหิตธาตุของท่านมาประกอบมวลสารนั้น ทุกคนมองว่าไม่มีความเหมาะสมด้วยประการทั้งปวง จึงอยากให้ช่วยชี้แจงลูกศิษย์ลูกหาให้ทราบโดยกระจ่างโดยเร็ว เพราะลูกหลาน และศิษยานุศิษย์ต่างรู้สึกกังวลใจในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก