xs
xsm
sm
md
lg

“บุ๋ม ปนัดดา” ชี้หนุ่ม กะลา ฟ้องภรรยา ต้องคุยกันเองไม่ควรแถลงข่าว ควรถนอมใจลูก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นครปฐม - “บุ๋ม ปนัดดา” ให้ความเห็นกรณีหนุ่ม กะลา ฟ้องหย่าจูน ภรรยา หลังเปิดโปงรายรับรายจ่ายในครอบครัว โดยชี้ว่าเรื่องนี้ควรเป็นเรื่องที่มาตกลงกันเองในครอบครัว เพื่อรักษาความรู้สึกของลูก และชี้ว่าสาวยุคใหม่ควรยืนด้วยตัวเอง จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจหลังเลิกรากันไป

บุ๋ม -ปนัดดา วงศ์ผู้ดี อดีตนางสาวไทยประจำปี พ.ศ 2543 พิธีกร และนักแสดงมากความสามารถ ได้เข้าร่วมพิธีบวงสรวงละครซีรีส์วาย เรื่อง "คุณยมฑูต" ที่ลานหน้าศาลาหลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม โดยผู้จัด ปุลินณา ธรรมเมธี (คุณตัส) ได้เชิญศิลปินที่เข้าร่วมแสดงหลายคนร่วมในพิธี โดยพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ได้จัดพิธีบวงสรวงพระยายมราชขึ้นเพื่อเป็นสิริมงคลสำหรับกองถ่ายละคร โดยมีแฟนคลับและสื่อมวลชนหลายแขนงเข้าติดตามบรรยากาศภายในพิธี

บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับประเด็นการฟ้องร้องระหว่างหนุ่มกะลา และจูน ภรรยาเกี่ยวกับเรื่องบริษัทและการใช้เงินในครอบครัว โดยบอกว่า เราไม่ได้เป็นคนในครอบครัวและไม่ได้อยู่ตรงนั้นด้วย ซึ่งการจะสั่งเงินโอนไปไหนอย่างไรต้องดูในรายละเอียดด้วย 

ส่วนประเด็นที่จะมองว่าเป็นการยักยอกหรือไม่นั้นต้องมามองดูในเรื่องของกระบวนการหลักฐานต่างๆ เช่น ถ้าเป็นรูปแบบบริษัท แล้วเซ็นออกมาเป็นชื่อของตัวเองอย่างนั้นเรียกยักยอกได้ แต่ถ้าพี่หนุ่ม รู้ว่าเงินทั้งหมดแล้วเซ็นเอง แล้วไม่ตรวจเช็ก คือปล่อยให้ภรรยาได้ไปจับจ่ายใช้สอยภายในบ้าน ซึ่งมันน่าจะเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว เพราะคุณจูน จ่ายเงินจะต้องมีเงินสำรองในบ้าน อย่างเช่นวันนี้แอร์เสีย น้ำไม่ไหล ใครเป็นคนจ่าย และสิ่งที่เป็นค่าใช้จ่ายไปในบ้านตรงน้องต่างหากที่มองว่าคุณได้มีการคุยกันไว้อย่างไร

"ต้องแยกประเด็นอย่างหนึ่ง คือคนในวงการบันเทิง เฉพาะคนที่มีรายได้เยอะ เราจะรับเงินในรูปแบบบริษัทหรือในรูปแบบของห้างหุ้นส่วนจำกัดแบบที่พี่หนุ่มรับ เมื่อรับมาแล้วแบบนั้นการใช้จ่ายอะไรแล้วแต่จำเป็น จะต้องมีการเบิกจ่ายในรูปแบบของบริษัท และค่าใช้จ่ายส่วนตัวต้องไปเบิกจากบริษัท ซึ่งตัวบุ๋มเองทำแบบนั้นเหมือนกัน เพราะบุ๋มเองกลายเป็นพนักงานของบริษัทตัวเอง เรารับเงินเดือนจากบริษัทมาบริหารจัดการภายในบ้าน ย้ำอีกครั้งว่านี่คือการพูดคุยกันว่าตกลงกันอย่างไร 

แต่เรื่องนี้บุ๋ม มองว่าที่สุดแล้วควรจะคุยกันเองในบ้าน เพราะไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้มันจะเกิดผลกระทบขึ้นกับเด็ก กับความรู้สึก ในอนาคต เขาเปิดมาเจอข่าวพ่อแม่ทะเลาะกัน ซึ่งเขาจะไม่สบายใจ ทั้งหมดคือค่าใช้จ่ายที่ดูแลเขา คุณควรตกลงกันเงียบๆ ในบ้าน ไม่ใช่แถลงข่าว นี่คือความรู้สึกของบุ๋ม โดยการแต่งงานส่วนหนึ่งกระเป๋าของเราคือกระเป๋าเดียวกันเขาว่ากันแบบนั้น แต่มุมกฎหมายเมื่อเลิกกันแล้วทรัพย์สินทั้งหมดต้องแบ่งกันคนละครึ่ง แต่นี่ยังไม่เลิก ควรจะคุยกันก่อน" บุ๋ม กล่าว

บุ๋ม ปนัดดา บอกว่า สำหรับประเด็นที่จูนถูกฟ้องทั้งตัวสามีและหญิงคู่กรณีรู้สึกเห็นใจ แต่ต้องว่าด้วยข้อมูลหลักฐานไปสู้กันในชั้นศาล ถ้าหลักฐานเชื่อได้ว่าอีกฝั่งหนึ่งได้ออกหน้าออกตาเป็นเมียน้อยจริงๆ คุณจูนได้สิ่งนั้นเต็มๆ แต่อีกฝ่ายหนึ่งมีสิทธิที่จะใช้กฏหมายเพราะอาจจะบอกว่าเป็นการลงรูปแค่คล้ายๆกัน อย่างนี้เป็นต้น ขึ้นกับว่าศาลท่านจะมองว่าอย่างไร ซึ่งตนยังมองว่าจะมีการพูดคุยกันและตกลงกันได้ และพี่หนุ่มจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร

เรื่องค่าเลี้ยงดูบุตรจะจัดการอย่างไร ณ วันนี้บุ๋มยังไม่ได้ยินเลยว่าพี่หนุ่มจะจัดการค่าเลี้ยงดูบุตรอย่างไร อันนี้อยากฟังมากกว่า พี่หนุ่มไม่พูดถึงลูกสักคำ ในฐานะแม่เลี้ยงเดี่ยวนะ ส่วนตัวไม่เอาเพราะถ้าเอามาแล้วมีปัญหาจะไม่เอา แต่บังเอิญว่าคุณพ่ออันดานั้นเป็นอีกแบบหนึ่ง ที่เขาดูแลได้ ตกลงกันได้อย่างดี ฉะนั้นมันขึ้นอยู่กับการตกลงกันเองว่าจะตกลงกันอย่างไร ซึ่งควรต้องคุยกันเองและควรจะคุยกันเรื่องค่าใช้จ่ายลูกจะดีกว่ามากกว่าจะมานั่งคุยกันว่าหนี้สินจะทำอย่างไร

บุ๋ม ปนัดดา กล่าวปิดท้ายว่า ประเด็นนี้ที่เกิดขึ้นในสังคม หลายคนอาจจะไม่สตรองเหมือนคุณจูน แต่อยากจะบอกสาวๆ ว่าถ้าแต่งงานไปแล้วอยากจะให้ยืนด้วยสองขาของตัวเองให้ได้ และพึ่งพาทางด้านการเงินด้วยตัวเองให้ได้ เมื่อเลิกรากันไปเรายังจะสามารถดูแลตัวเองของเราได้โดยที่ไม่ต้องร้องไห้ อีกเรื่องถ้ามีลูกด้วยกันแล้ว ขอให้มองลูกเป็นสำคัญ คือสิ่งที่อยากจะบอกไว้










กำลังโหลดความคิดเห็น