xs
xsm
sm
md
lg

(คลิป) กลุ่มรถรับจ้างขนส่งพัสดุรวมตัวโคราช แห่แจ้งจับบริษัทขนส่งแสบ เบี้ยวค่าจ้างกว่า 100 ราย รวมกว่า 10 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - กลุ่มรถรับจ้างขนส่งพัสดุหลายจังหวัดรวมตัวที่โคราช แห่แจ้งความเอาผิดบริษัทขนส่งหลังเบี้ยวไม่ยอมจ่ายค่าจ้าง พบมีผู้เสียหายกว่า 100 ราย มูลค่ากว่า 10 ล้าน โอดเดือดร้อนหนัก ทวงถามเงินไม่ได้รับคำตอบ โดนบล็อกไลน์ ล่าสุดปิดที่ทำการบริษัทหนี วอนตำรวจ หน่วยงานเกี่ยวข้องช่วยเหลือ

วันนี้ (5 มิ.ย. 67) ที่บริเวณหอนาฬิกาสนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา กลุ่มผู้รับจ้างขนส่งพัสดุกว่า 10 คนได้นัดรวมตัวกันเพื่อเข้าแจ้งความร้องทุกข์เอาผิดบริษัทขนส่งแห่งหนึ่ง หลังจากตกเป็นผู้เสียหายเนื่องจากทางบริษัทขนส่งดังกล่าวไม่ยอมจ่ายค่าจ้างในการขนส่ง ซึ่งหลังจากรวมตัวกันแล้วทางกลุ่มผู้เสียหายทั้งหมดได้เดินทางพร้อมหอบหลักฐานต่างๆ ไปยังสถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมา เพื่อเข้าแจ้งความเอาผิดบริษัทขนส่งรายดังกล่าว



จากการสอบถามบรรดาผู้เสียหายทราบว่า บริษัทที่เป็นคู่กรณีนั้นชื่อ บริษัท ทับทิมทอง ทรานสปอร์ต ซึ่งเป็นบริษัทที่ได้ทำสัญญากับ บริษัท เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส ในการขนส่งพัสดุ โดยทางบริษัททับทิมทองฯ นั้นได้รับออเดอร์จากบริษัท เจแอนด์ทีฯ ก่อนที่บริษัททับทิมทองฯ จะมีการจ้างงานกับผู้ขนส่งรายย่อยอีกต่อหนึ่ง โดยที่ไม่ได้ทำสัญญาการจ้างงาน จนกระทั่งช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาทางกลุ่มผู้รับจ้างขนส่งได้มีการทวงถามเงินค่าจ้างกับทางบริษัทแต่ก็ไม่ได้รับคำตอบว่าจะจ่ายให้เมื่อไร จนล่าสุดบริษัททับทิมทองฯ ได้ปิดที่ทำการบริษัทที่ตำบลจอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ไปแล้วพร้อมกับไม่รับสายจากกลุ่มผู้รับจ้าง ซึ่งบางรายนั้นโดนบล็อกไลน์ไปเลย


จากการสอบถามผู้เสียหายยังพบข้อมูลอีกว่า บริษัททับทิมทองฯ ได้มีพฤติกรรมในลักษณะนี้มาก่อนแล้วในหลายจังหวัด ทั้งบริเวณภาคอีสานและภาคกลาง ทำให้ผู้เสียหายที่มาร่วมกันแจ้งความในครั้งนี้มีผู้เสียหายที่มาจากทางภาคกลาง อย่าง จังหวัดนครปฐม และผู้เสียหายทางภาคอีสานอีกหลายจังหวัด เช่น นครราชสีมา ชัยภูมิ สุรินท์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ ขอนแก่น รวมไปถึงจังหวัดร้อยเอ็ดอีกด้วย ซึ่งคาดว่าผู้เสียหายที่ไม่ได้รับเงินค่าจ้างนั้นรวมๆแล้วน่าจะมีกว่า 100 ราย ที่โดนบริษัททับทิมทองฯ เบี้ยวไม่ยอมจ่ายค่าจ้าง รวมเงินที่ผู้เสียหายควรจะได้รับจากบริษัททับทองฯ มีมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท และคาดว่าน่าจะมีเพิ่มมากกว่านี้


นางสาวจุฑารัตน์ บุญครอง อายุ 27 ปี ผู้เสียหายจากจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า ตนได้เริ่มทำงานกับทางบริษัททับทิมทองฯ ตั้งแต่ช่วงเดือนธันวาคม 2566 โดยใช้รถ 6 ล้อในการวิ่งงาน ซึ่งทางบริษัทต้องจ่ายเงินค่าจ้างวิ่งงานให้กับตนเดือนละ 52,000 บาท แต่ทางบริษัทกลับจ่ายให้ตนเพียง 1 หมื่นบาท จนถึงเดือนมีนาคม 2567 รวมเป็นเงิน 3 หมื่นบาท จนกระทั่งปลายเดือนมีนาคม 2567 ก็โอนเพิ่มมาอีก 2 หมื่นบาท ซึ่งตนทวงถามเรื่อยมาแต่ทางบริษัทมีหนังสือขอเลื่อนการจ่ายเงินค่าจ้างเรื่อยมา

ตอนนั้นตนไม่รู้สึกแปลกใจหรือสงสัยเพราะทางบริษัทก็โอนเงินให้ตลอดถึงแม้จะไม่เต็มจำนวนค่าจ้างทั้งหมด ซึ่งในระหว่างนั้นตนไม่รู้ตัวว่าทางบริษัทได้ทำการปลดตนและผู้รับจ้างในพื้นที่ออกจากการวิ่งขนส่งพัสดุแล้ว ซึ่งในรอบแรกที่มีการปลดออกนั้นมีผู้เสียหายรวมแล้วกว่า 30-40 ราย จำนวนเงินกว่า 6 ล้านบาท


ขณะเดียวกัน นายสมาน สีฤทธิ์ อายุ 59 ปี ผู้เสียหายจากจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นเริ่มมาประมาณ 3-4 เดือน ที่ทาง บริษัท ทับทิมทอง เริ่มจ่ายเงินช้ากว่ากำหนด จนมาในเดือนพฤษภาคม 2567 ซึ่งจะต้องจ่ายค่าจ้างของเดือนเมษายน ซึ่งเงินจะออกไม่เกินวันที่ 15 พฤษภาคม ทางบริษัทฯ ก็ไม่มีการโอนเงินค่าจ้างดังกล่าวหลังจากครบกำหนดแล้ว ตนก็ได้มีการติดต่อไปยังบริษัทฯ ก็ถูกผัดผ่อนเรื่อยมา

จนกระทั่งในวันที่ 31 พ.ค. ตนจึงได้มีการสอบถามไปยัง บริษัท เจแอนด์ที ซึ่งเป็นบริษัทคู่สัญญาที่ว่าจ้างบริษัท ทับทิมทองฯ ทราบว่า บริษัท เจแอนด์ที ได้มีการจ่ายเงินค่าจ้างขนส่งพัสดุมาให้บริษัท ทับทิมทองฯ แล้ว ซึ่งในช่วงเย็นวันที่ 31 พ.ค.หลังจากทราบว่าบริษัทเจแอนด์ทีได้มีการจ่ายเงินค่าจ้างขนส่งพัสดุมาให้บริษัท ทับทิมทองฯ แล้ว ตนจึงพยายามติดต่อไปยัง บริษัท ทับทิมทอง อีกครั้งแต่ก็ไม่มีการตอบรับทั้งทางโทรศัพท์และทางไลน์ ซึ่งตนให้เพื่อนเข้าไปดูที่ทำการบริษัทพบว่าบริษัทได้ปิดที่ทำการที่ตำบลจอหอไปแล้ว ซึ่งตนรู้แล้วว่าตอนนั้นถูกโกงไม่ยอมจ่ายค่าจ้างแล้วแน่นอน


นอกจากตนแล้วในกลุ่มผู้เสียหายกลุ่มที่ 2 ที่มีการรวมตัวกันนั้นมีอีกหลายรายที่ได้รับความเดือดร้อน บางรายได้ทำการซื้อรถใหม่เพื่อจะมาวิ่งขนส่งพัสดุแต่กลับถูกโกงไม่ยอมจ่ายค่าจ้างทำให้ต้องคืนรถไปก็มี บางรายถูกโกงค่าจ้างไปเกือบ 1 ล้านบาทก็มี สำหรับค่าจ้างของตนที่จะต้องได้รับประมาณ 1 แสนกว่าบาท ซึ่งหลังจากนี้ตนคิดว่าถึงแม้จะแจ้งความไปแล้วแต่ก็คิดว่าเงินคงไม่ได้แน่นอน แต่อยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจรวมไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการปิดกิจการของบริษัททับทิมทองฯ เสีย จะได้ไม่ต้องไปหลอกใครอีกในประเทศนี้






กำลังโหลดความคิดเห็น