ศูนย์ข่าวขอนแก่น - สนง.ประชาสัมพันธ์จังหวัดขอนแก่นจัดสื่อมวลชนสัญจร ศึกษาดูงาน อ.น้ำพอง และ อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ชมฝายแกนดินซีเมนต์ เยี่ยมบ้านนิคม และโครงการผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริด เขื่อนอุบลรัตน์ ผลิตกระแสไฟฟ้าเพิ่มอีก 24 เมกกะวัตน์ เสริมความมั่นคงพลังงานเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดขอนแก่นจัดกิจกรรมสื่อมวลชนสัมพันธ์สัญจร นำสื่อมวลชนดูงานในพื้นที่อำเภอน้ำพอง และอำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น นำโดยนายชยุต อนุสุริยา ผู้ช่วยประชาสัมพันธ์จังหวัดขอนแก่น รักษาการแทนประชาสัมพันธ์จังหวัดขอนแก่น นำคณะสื่อมวลชนดูงานชมฝายแกนดินซีเมนต์ บ้านคำแก่นคูนน้อย ต.ม่วงหวาน อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น
สำหรับฝายแกนดินซีเมนต์ บ้านคำแก่นคูนน้อยได้รับการสนับสนุนจากบริษัท SCGP มีวิทยากรให้รายละเอียด โดยนายไพศาล ผู้ใหญ่บ้านบ้านคำแก่นคูนน้อย หลังจากนั้นเยี่ยมชมผลผลิตชุมชน หมู่บ้านผลิตสินค้าชุมชน โครงการพัฒนาอาชีพบ้านนิคม ตำบลกุดน้ำใส มีนายดำมี ทองโคตร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 บ้านนิคม ต.โคกสูง อ.อุบลรัตน์ ให้ข้อมูล และโครงการโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริด กฟผ. เขื่อนอุบลรัตน์ อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น
นายชยุต อนุสุริยา ผู้ช่วยประชาสัมพันธ์จังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า โครงการดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาเครือข่ายด้านการประชาสัมพันธ์ และการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาพัฒนางานข่าวการจัดการข้อมูลข่าวสารเพื่อประชาสัมพันธ์ไปถึงกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งมีสื่อมวลชนเข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก
โครงการที่น่าสนใจ คือการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน “โครงการโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริด กฟผ. เขื่อนอุบลรัตน์” ซึ่งเป็นโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน จากแสงอาทิตย์ เพื่อเสริมความมั่นคงด้านการผลิตไฟฟ้าเข้าสู่ระบบของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ขณะนี้การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ทุ่นลอยน้ำเสร็จแล้ว มีกำลังผลิต 24 เมกะวัตต์ และเริ่มจ่ายกระแสไฟเข้าสู่ระบบของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต
นายมนูญ สิทธิศร วิศวกรระดับ 10 โรงไฟฟ้าน้ำพอง กล่าวว่า โครงการโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริด เป็นโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบทุ่นลอยน้ำใหญ่ที่สุดของจังหวัดขอนแก่น ตามแผน GDP 2018 แผนพัฒนาระบบโรงไฟฟ้า ของประเทศไทย ซึ่งให้เพิ่มสัดส่วนผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนมากขึ้น ซึ่งโครงการโซลาร์เซลล์ลอยน้ำอยู่ในแผนของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เบื้องต้นเพิ่มกำลังผลิตรวมมากขึ้นเกือบ 2,700 เมกะวัตต์
โครงการโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดแห่งนี้เป็นเฟสแรกของเขื่อนอุบลรัตน์ เป็นโรงไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ลอยน้ำขนาด 24 เมกะวัตต์ ซึ่งจะให้มีกำลังผลิตเท่ากับโรงไฟฟ้าเดิม คือโรงไฟฟ้าเขื่อนอุบลรัตน์ ที่ผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังน้ำคือ 24 เมกะวัตต์ ส่วนโซลาร์เซลล์ลอยน้ำมีกำลังผลิตอีก 24 เมกะวัตต์ ที่น่าสนใจโครงการนี้พิเศษกว่าที่อื่น เมื่อเทียบกับเขื่อนสิรินธร เพราะเป็นระบบไฮบริด คือมีแบตเตอรี่มาเสริมด้วย แบตเตอรี่มีกำลังขนาด 60 เมกะวัตต์
แบตเตอรี่ตัวนี้จะมาติดตั้งคู่กับโซลาร์เซลล์ลอยน้ำ เพื่อรักษาเสถียรภาพให้การผลิตไฟฟ้าในช่วงแสงแดดหมด หรือในช่วงกลางคืน ทำให้โซลาร์เซลล์ผลิตกระแสไฟฟ้าไม่ได้ จะหายไปชั่วขณะ แต่จะมีแบตเตอรี่มาช่วยเสริม เพื่อให้มีเสถียรภาพมากขึ้น ทำให้ผลิตไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่อง โดยโซลาร์เซลล์ลอยน้ำที่เขื่อนอุบลรัตน์จะมีแผงอยู่ประมาณ 4 หมื่นกว่าเกือบ 5 หมื่นแผงในเฟสแรก ต่อไปจะมีเฟส 2 ซึ่งจะขยายไปเรื่อยๆ
นายมนูญกล่าวต่อว่า นอกจากที่เขื่อนอุบลรัตน์แล้ว กฟผ.ยังมีโครงการที่จะติดตั้งโซลาร์เซลล์ทุ่นลอยน้ำที่เขื่อนจุฬาภรณ์ด้วย และทุกเขื่อนของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ไม่ว่าจะเป็นเขื่อนภูมิพล เขื่อนศรีนครินทร์ ก็จะอยู่ในแผนของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ ที่กำหนดไว้ใน PDP ข้อดีของโรงไฟฟ้าโซลาเซลล์ คือไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
เป็นการผลิตไฟฟ้าโดยไม่มีการเผาเชื้อเพลิงฟอสซิล ทั้งน้ำมัน ถ่านหิน ก๊าซธรรมชาติ เป็นพลังงานสะอาดบริสุทธิ์ แต่ยังมีข้อจำกัดของโซลาร์เซลล์ คือถ้าไม่มีแสงอาทิตย์ ก็ผลิตไฟฟ้าไม่ได้ และยังผลิตได้น้อย เมื่อเทียบกับโรงไฟฟ้าประเภทฟอสซิล
นายมนูญกล่าวว่า กรณีโรงไฟฟ้าน้ำพอง โรงเดียวมีกำลังผลิตไฟฟ้าถึง 710 เมกะวัตต์ หากเทียบกับไฟฟ้าที่ผลิตได้จากโซลาร์เซลล์แค่ 24 เมกะวัตต์ ต่างกันหลายเท่าตัว แต่ยังจำเป็นต้องสร้าง เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดี และเป็นนโยบายภาครัฐ ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพราะราคาของโซลาร์เซลล์เริ่มถูกลง แต่เสถียรภาพจะขึ้นอยู่กับอากาศ ซึ่งใช้พื้นที่น้อยมากแค่ 200-300 ไร่ เมื่อเทียบกับขนาดพื้นที่เขื่อนอุบลรัตน์
ข้อดีของการติดตั้งโซลาร์เซลล์ลอยน้ำ คือติดตั้งในมุมเอียงประมาณ 45 องศา จึงช่วยลดการระเหยของน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ได้ส่วนหนึ่ง เป็นผลดีต่อสิ่งแวดล้อม ในการผลิตพลังงานสีเขียวที่สะอาด เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ส่วนเฟสที่ 2 ต้องรอการอนุมัติโครงการจาก ครม.
สำหรับโรงไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดเขื่อนอุบลรัตน์ นับเป็นโรงไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดแห่งที่ 2 ของกฟผ. ซึ่งดำเนินการตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2561-2580 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1 (PDP2018 Revision 1) โดยมีแผนพัฒนาในพื้นที่เขื่อนของ กฟผ. 9 แห่ง รวม 16 โครงการ กำลังผลิตรวม 2,725 เมกะวัตต์ ถือเป็นการผลิตไฟฟ้าพลังงานสะอาด ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ในกระบวนการผลิตไฟฟ้า ช่วยลดภาวะโลกร้อน สอดรับกับเทรนด์พลังงานโลก พร้อมขับเคลื่อนประเทศสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน