ลพบุรี - เขื่อนป่าสักน้ำลดฮวบจนเห็นตอม่อสะพานรถไฟลอยน้ำ กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ อันซีนสุดปัง แลนด์มาร์กด้านการท่องเที่ยวของลพบุรี นักท่องเที่ยวต่างให้ความสนใจ พาครอบครัวมาออกทริปจับจองพื้นที่เพื่อพักผ่อนหย่อนใจ พร้อมนำอาหาร เครื่องดื่มมาล้อมวงร่วมรับประทานกัน เพื่อรอชมพระอาทิตย์ตก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ระดับน้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ลดลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากภาวะฝนทิ้งช่วงเป็นเวลานาน ถึงแม้จะมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว แต่ยังไม่มากพอที่จะเติมเต็มน้ำให้เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ได้ โดยเฉพาะจุดชมวิว “รถไฟลอยน้ำ” ตำบลหนองบัว อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสถานที่อันซีนและเป็นแลนด์มาร์กสำคัญด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดลพบุรี ที่การรถไฟแห่งประเทศไทย ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จังหวัดลพบุรี และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ได้ร่วมกันจัดขึ้น
เพื่อส่งเสริมกิจกรรมด้านการท่องเที่ยวเป็นประจำทุกปีในช่วงฤดูน้ำหลาก ระหว่างเดือน พฤศจิกายน ถึงเดือนมกราคม เพื่อเชิญชวนประชาชนร่วมเดินทางสัมผัสลมหนาวเส้นทางอันซีน หนึ่งเดียวของเมืองไทย นั่งรถไฟลอยน้ำสุดโรแมนติกกลางเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ กับ ขบวนรถพิเศษนำเที่ยวเส้นทางกรุงเทพฯ-เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และตั๋วมักจะถูกจองเต็มหมดทุกขบวน
แต่เมื่อถึงในช่วงฤดูแล้งที่ระดับน้ำในเขื่อนเหลือน้อย ต่ำกว่า 15 เปอร์เซ็นต์ของความจุ ซึ่ง ณ วันนี้เหลืออยู่เพียง 12 เปอร์เซ็นต์ของความจุ ทำให้จุดชมวิว “รถไฟลอยน้ำ” ระดับน้ำที่ลดฮวบจนถึงพื้นดิน ซึ่งเป็นส่วนฐานรากของการก่อสร้างตอม่อรางรถไฟลอยน้ำ ที่มีระดับความลึกมากกว่า 10 เมตร และทอดยาวไปบนเขื่อนป่าสักนั้น ขณะนี้นักท่องเที่ยวสามารถนำรถยนต์ส่วนตัวขับลงไปได้จนถึงตอม่อสะพานรางรถไฟ ทำให้ในแต่ละวันมักจะมีนักท่องเที่ยวที่ทราบข่าวต่างให้ความสนใจ พาครอบครัวมาออกทริปท่องเที่ยวจับจองพื้นที่เพื่อพักผ่อนหย่อนใจ ลงเล่นน้ำคลายร้อน และนำอาหาร เครื่องดื่มมาล้อมวง ร่วมรับประทานกัน เพื่อรอชมพระอาทิตย์ตกเกือบทุกวัน โดยเฉพาะในช่วงวันหยุด ทำให้บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก
อย่างไรก็ตาม ทางเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ต้องขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวช่วยกันดูแลรักษาความสะอาดสถานที่ท่องเที่ยวด้วย โดยเฉพาะสิ่งที่นักท่องเที่ยวนำติดตัวมา ไม่ว่าจะเป็นขวดพลาสติก ขวดน้ำ ถุงพลาสติก กล่องโฟม ภาชนะใส่อาหาร หรือเศษอาหาร ก่อนที่จะเดินทางกลับต้องขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวช่วยกันเก็บทำความสะอาดสถานที่ท่องเที่ยวโดยนำกลับไปด้วย เพราะหากทิ้งไว้ เมื่อถึงฤดูน้ำหลากจะเป็นขยะลอยน้ำ เป็นมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม และส่งผลเสียต่อระบบนิเวศทางน้ำอีกด้วย
