เพชรบุรี - สาวสองฉกทรัพย์เศรษฐินีเมืองเพชร 40 ล้านบาท ยังให้การภาคเสธ ด้านลูกสาวดีใจที่ตำรวจเมืองเพชรได้ตัวคนร้ายแล้ว เผยก่อนหน้านี้นอนร้องไห้ทุกคืน ถูกกระแสสังคมสงสัย โจรเป็นคนในบ้านทำให้รู้สึกไม่สบายใจ เผยจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
กรณีเกิดเหตุคนร้ายก่อเหตุลักทรัพย์บ้านเลขที่ 6/9 หมู่ 5 ต.บ้านหม้อ อ.เมืองเพชรบุรี ของนางวิรัลพัชร วิจิตตปัญญารักษ์ หรือ "เจ๊งิ้ม" อายุ 68 ปี หุ้นส่วนผู้จัดการ หจก.ปัญญารักษ์การโยธา ได้ทรัพย์สินเป็นเงินสด ทองรูปพรรณ เครื่องเพชร และทรัพย์สินอื่นๆ รวมมูลค่าประมาณ 40 ล้านบาท โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา
ต่อมา ตำรวจพบพิรุธเส้นทางการเงิน การรับโอนเงินจำนวนหนึ่งจากร้านขายทองและขายเพชร และสอบสวนพบข้อมูลภาพถ่ายและหลักฐานอื่นๆ จนศาลจังหวัดเพชรบุรีออกหมายจับนายอัศม์เดช แย้มเทศ หรือเกมส์ อายุ 22 ปี สาวประเภทสอง อดีตแคชเชียร์ ร้านบ้านกลางสวนนวดแผนไทย & สปา ของนางวิรัลพัชร ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่รั้วเดียวกับบ้านที่เกิดเหตุ ในข้อหาลักทรัพย์ เบื้องต้นทราบว่าหลังก่อเหตุนายอัศม์เดช เดินทางหลบหนีไปต่างประเทศ
ต่อมา เมื่อเวลาประมาณ 04.00 น.วันนี้ (14 พ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนปราบปราม บก.ตม.2 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พบเห็น นายอัศม์เดช ผู้ต้องหาตามหมายจับที่สนามบินสุวรรณภูมิ ขณะนายอัศม์เดช เดินทางกลับจากประเทศญี่ปุ่น โดยทางด่านตรวจคนเข้าเมือง ตรวจสอบพบเป็นบุคคลตามหมายจับในระบบ จึงเข้าทำการควบคุมตัว และประสานเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรเมืองเพชรบุรี รับตัวนำกลับ สภ.เมืองเพชรบุรีเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ขณะนี้นายอัศม์เดช ถูกควบคุมตัวอยู่ในห้องขัง สภ.เมืองเพชรบุรี อยู่ระหว่างรอการสอบสวน เบื้องต้นทราบว่านายอัศม์เดชให้การปฏิเสธ และขอให้การชั้นศาล ยังไม่มีญาติเข้าเยี่ยม
ด้านนางวิรัลพัชร ซึ่งขณะนี้ติดภารกิจอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ขอขอบคุณ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผช.ผบ.ตร. พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7. พล.ต.ต.กิตติ สุขสมภักดิ์ ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี พ.ต.อ.วันชัย ขาวรัมย์ ผกก.สภ.เมืองเพชรบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สื่อมวลชน และทุกท่านที่ติดตามสอบสวน นำเสนอข่าว และร่วมให้ข้อมูลกระทั่งติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีได้
ส่วนทรัพย์สินของกลางที่ยังไม่ได้คืน และอาจมีบางส่วนถูกคนร้ายนำไปขาย เชื่อว่าผู้ที่รับซื้อของกลางน่าจะไม่ทราบว่าเป็นทรัพย์สินที่ถูกขโมยไป ฝากถึงร้านเพชร ร้านทอง หรือบุคคลที่รับซื้อของที่ถูกโจรกรรมไป กรุณาให้ข้อมูลเบาะแสเพื่อที่จะได้ของกลางกลับคืนมาด้วย
ล่าสุด เมื่อเวลา 15.30 น. น.ส.อัญชลี วิจิตตปัญญารักษ์ อายุ 47 ปี เจ้าของบ้านกลางสวน นวดแผนไทย&สปาขัดผิว บุตรสาวนางวิรัลพัชร เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวนายอัศม์เดชได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเครียดเป็นอย่างมาก นอนร้องไห้ทุกคืน
เนื่องจากถูกกระแสสังคมตั้งข้อสงสัยว่าคนร้ายเป็นคนในครอบครัว ทำให้ตนและลูกน้องในร้านสปาเกิดความระแวงกันเอง ทำงานอย่างไม่มีความสุข ที่ผ่านมา ขณะที่ นายอัศม์เดช ทำงานอยู่ที่บ้านกลางสวนไม่เคยมีพฤติกรรมลักเล็กขโมยน้อย นิสัยดี แต่กลับทำให้ตนและครอบครัวตายใจก่อนมาขโมยทรัพย์สินดังกล่าวไป ตนจะไม่ให้อภัยอย่างเด็ดขาด และจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด