xs
xsm
sm
md
lg

กรมอุทยานฯ จับมือ PANTHERA ฝึกยุทธวิธีพนักงานพิทักษ์ป่า เพิ่มศักยภาพป้องกันขบวนการล่าสัตว์ป่า-เสือโคร่ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กาญจนบุรี - กรมอุทยานจับมือ PANTHERA นำหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ ฝึกยุทธวิธีให้พนักงานพิทักษ์ป่า เพิ่มศักยภาพลาดตระเวนทางเรือป้องกันขบวนการล่าสัตว์ป่า-เสือโคร่ง

วันนี้ (14 พ.ค.) ที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ จังหวัดกาญจนบุรี นายอนันต์ โพธิ์พันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) มอบหมายให้นางคณิสรา เชฐบัณฑิตย์ ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เป็นประธานเปิดโครงการอบรมยุทธวิธีการลาดตระเวนทางเรือ (Boat Patrol) ครั้งที่ 3 โดยโครงการดังกล่าวจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-18 พ.ค.67 รวม 7 วัน มี น.ส.กฤษณา แก้วปลั่ง ผู้อำนวยการองค์การแพนเทอรา (Panthera) เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้ กล่าวรายงาน มีนายคุณากร บุญเกื้อสง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ นายสุพล คำเสนาะ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเอราวัณ นายชาติชาย ศรีแผ้ว หัวหน้า สปป.1 ภาคกลาง เข้าร่วม

โดยองค์การแพนเทอราประเทศไทย (PANTHERA) เป็นคณะผู้จัดฝึกอบรม โดยได้รับการสนับสนุนครูฝึกจากหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ สำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปราม ที่ 1 ภาคกลาง และครูฝึกจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เข้าร่วมสังเกตการณ์ ตลอดระยะเวลาการฝึกอบรม โดยมีผู้เข้ารับการฝึกอบรมยุทธวิธีการลาดตระเวนทางเรือ จาก 5 หน่วยงาน จำนวนทั้งสิ้น 25 นาย ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเอราวัณ เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จ.อุทัยธานี และเจ้าหน้าที่สำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 1 ภาคกลาง (สปป.1 ภาคกลาง)

ทั้งนี้ นางคณิสรา เชฐบัณฑิตย์ ผอ.ส่วนอุทยานแห่งชาติกล่าวว่า โครงการฝึกอบรมยุทธวิธีการลาดตระเวนทางเรือ มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มศักยภาพด้านยุทธวิธีการลาดตระเวนทางเรือแก่พนักงานพิทักษ์ป่า ให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดความปลอดภัยสูงสุด รวมถึงพัฒนาหลักสูตรการลาดตระเวนทางเรือ เพื่อสร้างหลักสูตรการฝึกอบรมให้พนักงานพิทักษ์ป่าในพื้นที่อนุรักษ์อื่นๆ ที่มีพื้นที่ทางน้ำ

ด้าน น.ส.กฤษณา กล่าวว่า ด้วยองค์การแพนเทอราประเทศไทย ได้รับอนุญาตให้ทำการศึกษาวิจัย ร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ในการติดตามประชากรเสือโคร่ง และได้เข้าร่วมรับฟังสรุปผลการลาดตระเวนเชิงคุณภาพของพื้นที่อนุรักษ์ต่างๆ เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์ปัจจัยที่ส่งผลต่อการปรากฏตัวของเสือโคร่ง

พบปัจจัยคุกคามหลากหลายรูปแบบ เช่น การนำพานักท่องเที่ยวมาล่าสัตว์ โดยใช้เรือและแพเป็นพาหนะ การล่าเสือโคร่งเพื่อปกป้องปศุสัตว์ที่แทะเล็มหญ้าบริเวณริมอ่างเก็บน้ำ หรือการล่าเสือโคร่งเพื่อเกมกีฬาของกลุ่มนายทุน โดยใช้เรือเร็วเป็นพาหนะ กิจกรรมเหล่านี้มักเกิดขึ้นในพื้นที่ทางน้ำบริเวณแนวเขตติดต่อระหว่างอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จ.อุทัยธานี และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก ซึ่งเป็นพื้นที่ทางน้ำไม่สามารถเข้าถึงได้โดยชุดลาดตระเวนจากทางบก อีกทั้งเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่ายังขาดทักษะประสบการณ์สำหรับยุทธวิธีการลาดตระเวนทางเรือ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการยับยั้งอาชญากรรมสัตว์ป่าที่เกิดขึ้นในพื้นที่ดังกล่าว

องค์การแพนเทอราประเทศไทย จึงได้ดำเนินการจัดฝึกอบรมขึ้นเป็น ครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 12-18 พฤษภาคม 2567 ณ อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ จังหวัดกาญจนบุรี โดยได้รับการสนับสนุนครูฝึกจากหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ สำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปราม ที่ 1 ภาคกลาง และครูฝึกจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เข้าร่วมสังเกตการณ์ ตลอดระยะเวลาการฝึกอบรม เพื่อเพิ่มศักยภาพด้านยุทธวิธีการลาดตระเวนทางเรือให้พนักงานพิทักษ์ป่า ซึ่งปฏิบัติงานในพื้นที่ทางน้ำของอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก อุทยานแห่งชาติเอราวัณ และสำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 1 ภาคกลาง










กำลังโหลดความคิดเห็น