รวบหนุ่มชาวกะเหรี่ยงกลางป่า พร้อมของกลางอาวุธปืนและซากสัตว์ป่า อ้างนำไปประกอบอาหาร

กาญจนบุรี - เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่ ร่วมกับเจ้าหน้าป่าไม้ลาดตระเวน รวบหนุ่มชาวกะเหรี่ยงกลางป่า ของกลางอาวุธปืน พร้อมซากสัตว์ป่า อ้างนำไปประกอบอาหาร เปิดบทลงโทษสุดหนัก

วันนี้ (18 มี.ค.) นายศุภฤกษ์ กลั่นประเสริฐ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก จ.กาญจนบุรี กล่าวว่า ตามนโยบายของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวง นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยาน นายอนันต์ โพธิ์พันธุ์ ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) นายมานะ เพิ่มพูล ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่กรมอุทยานลาดตระเวนเฝ้าระวังป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า รวมทั้งป้องกันการลักลอบเผาป่าเพื่อล่าสัตว์ซึ่งเป็นต้นเหตุของการเกิดฝุ่นขนาดเล็ก PM 2.5 นั้น

จากนโยบายของผู้บังคับบัญชาข้างต้น ล่าสุดวันที่ 17 มีนาคม 2567 เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ.5 (ซองกาเลีย) สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 (ราชบุรี) กรมป่าไม้ สนธิกำลังออกตรวจปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการป่าไม้และสัตว์ป่า ในเขตพื้นที่รับผิดชอบเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก

ขณะเดินลาดตระเวนมาถึงห้วยตีลู่ ค่าพิกัดที่ 47 P 0460625 E 1704703 N อยู่ในพื้นที่เขตป่าไม้ถาวรตามมติคณะรัฐมนตรีพุทธศักราช 2484 ป่าเขาพระฤาษี-เขาบ่อแร่ (หมายเลข 67) พบชายต้องสงสัยกำลังถืออาวุธปืนยาวไม่ทราบชนิด ลักษณะท่าทางคล้ายกำลังนั่งซุ่มยิงสัตว์ป่าอยู่ที่กอไผ่

แต่เนื่องจากชายคนดังกล่าวมีอาวุธปืนอยู่ด้วยเจ้าหน้าที่จึงต้องใช้ความระมัดระวังเพราะเกรงว่าอาจจะใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ แต่สุดท้ายแล้วสามารถคุมตัวพร้อมยึดอาวุธปืนกระบอกดังกล่าวเอาไว้ได้ จากการตรวจสอบโดยรอบเจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดของกลางเอาไว้ได้ จำนวน 14 รายการ 1 ในนั้นมีอาวุธปืนยาว 1 กระบอก มีด 1 เล่ม ซากพญากระรอกดำรมควัน 1 ซาก ซากอ้นใหญ่ถูกหั่นเป็นชิ้น รวม 4 ชิ้น ซากนกแว่นสีเทาถูกประกอบเป็นอาหารพร้อมกิน 1 ซาก เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดเอาไว้เป็นของกลาง

จากนั้นจึงคุมตัวผู้ต้องหามาสอบปากคำเพิ่มเติมที่หน่วยพิทักษ์ป่าซองกาเลีย เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก ทราบชื่อต่อมาคือ นายขื่อ (ไม่มีนามสกุล) ชาวกะเหรี่ยง อายุ 42 ปี อาศัยอยู่หมู่บ้านปรางสนุก ไม่ทราบบ้านเลขที่ หมู่ 6 ต.ไล่โว่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี

นายศุภฤกษ์ กลั่นประเสริฐ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การว่า ตนเข้ามาเที่ยวในป่าตั้งแต่คืนวันที่ 16 มี.ค.โดยในวันดังกล่าวตนได้ล่าอ้นใหญ่และนกแว่นสีเทานำมาประกอบอาหารชนิดละ 1 ตัว ต่อมาวันที่ 17 มี.ค.67 เวลาประมาณ 10.00 น.ตนใช้อาวุธปืนยิงพญากระรอกดำได้อีก 1 ตัว ทั้งหมดเพื่อนำไปทำเป็นอาหาร หลังจากที่ยิงพญากระรอกดำได้ ตนจึงหยุดและนั่งพักผ่อนอยู่ที่กอไผ่ จนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัว

หลังจากนายชื่อ ชาวกะเหรี่ยงยอมรับสารภาพ เจ้าหน้าที่จึงนำของกลางพร้อมคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.สังขละบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมาย ในข้อกล่าวหา ฐานล่าสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 มาตรา 12 ประกอบมาตรา 89 และฐาน ครอบครองซากสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 มาตรา 17 ประกอบมาตรา 92 ส่วนคดีอาวุธปืนเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนในการพิจารณาร้องทุกข์กล่าวโทษ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ผ่านมานั้นนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้สั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดระดมกำลังป้องกันการลักลอบเผาป่าที่เป็นสาเหตุการเกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีอย่างเข้มข้น การล่าสัตว์ป่าเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้มีการลักลอบเผาป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก เจ้าหน้าที่ได้พยายามประชาสัมพันธ์ถึงพิษภัยของฝุ่น PM2.5 รวมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบว่าหากฝ่าฝืนกระทำผิดแล้วถูกเจ้าหน้าที่จับกุมจะต้องถูกดำเนินคดีโดยไม่มียกเว้น

ซึ่งตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 ห้ามมิให้ผู้ใดล่าสัตว์ป่าสงวน หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3-15 ปี หรือปรับตั้งแต่ 300,000-1,500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนกรณีจับกุมผู้ลักลอบเผาป่าในอุทยานแห่งชาติ วนอุทยาน สวนพฤกษศาสตร์ หรือสวนรุกขชาติ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 4-20 ปี หรือปรับตั้งแต่ 400,000-2,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับตามมาตรา 41 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562