ประจวบคีรีขันธ์ - รมว.กลาโหม พร้อมด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เดินทางไปตรวจพื้นที่จุดผ่อนปรนพิเศษ ด่านสิงขร ทั้งเรื่องความมั่นคงและการค้า การลงทุน และการยกระดับเป็นด่านถาวร ในอนาคต ก่อนที่การประชุม ครม.สัญจร ที่เพชรบุรี ในวันพรุ่งนี้ พร้อมย้ำนายกรัฐมนตรีพร้อมที่จะผลักดัน
บ่ายวันนี้ (13 พ.ค.) นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ กองทัพบก มาลงที่สนามบินกองบิน 5 และเดินทางต่อไป บก.ฉก.จงอางศึก กองกำลังสุรสีห์ ต.คลอวาฬ อ.เมือง จ.ประจวบฯ เยี่ยมกำลังพลและร่วมประชุมหน่วยงานความมั่นคง โดยมี พ.อ.เฉลิมพล สังข์ต้อย ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 19 พร้อมคณะนายทหาร กำลังพล และ ตชด.14 นายสินาธร โอ่เอี่ยม รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ และคณะให้การต้อนรับ และรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ชายแดนไทย-พม่า ของ จ.ประจวบฯ รวมทั้งจุดผ่อนปรนพิเศษ ช่องสิงขร พร้อมมอบของให้กำลังพล หลังจากนั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และคณะได้เดินทางไปจุดผ่อนปรนพิเศษ ด่านสิงขร และเยี่ยมทหาร ฉก.จงอางศึก กองกำลังสุรสีห์ และ ตชด.146
ขณะเดียวกัน นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมคณะ ประกอบด้วย กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กรมเอเชียตะวันออก กระทรวงมหาดไทย สภาความมั่นคงแห่งชาติ กรมแผนที่ทหาร ฝ่ายปกครองจังหวัดประจวบฯ ด่านศุลกากร หน่วยงานกรมประมง ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองประจวบฯ พาณิชย์จังหวัด หอการค้าสมุทรสาคร หอการค้าประจวบฯ นายก อบต.คลองวาฬ โดยเข้าประชุมหารือส่วนราชการ ที่ห้องประชุมอาคารด่านพรมแดนถาวร พร้อมสอบถามข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ถึงการพัฒนาเศรษฐกิจชายแดน ทั้งด้านการค้า การลงทุน การขนถ่านสินค้าของทั้งฝั่งไทย และพม่า ตลอดจนแนวทางการพูดคุยการยกระดับจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขรเป็นจุดผ่านแดนถาวร
หลังจากนั้น นายมาริษ พร้อมคณะได้เดินทางไปจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร โดยนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมพร้อมคณะ ได้เดินทางมาสมทบ และรับฟังการบรรยายสรุปถึงสถานการณ์ฝั่งพม่าในปัจจุบัน ทั้งเรื่องของประชากร และจุดขนถ่ายสินค้า หลังจากนั้นทั้ง 2 รัฐมนตรีพร้อมคณะทั้งหมดได้เดินเข้าไปตรวจสภาพภูมิประเทศ เขตโนแมนแลนด์ กระทั่งไปพบพูดคุยกับทหารพม่า และผู้ประกอบการสวนปาล์มฝั่งพม่าโดยมีล่ามมาช่วยแปลภาษา
นายสุทิน ได้กล่าวทักทายกับทหารพม่า ที่ประจำจุดผ่านแดนฝั่งพม่า และผู้ประกอบการ พร้อมสอบถามในเรื่องการเข้าไปบ้านมูด่อง ฝั่งพม่า และประชากรที่อาศัยอยู่ และเลยไปจะเป็นเมืองตะนาวศรี เมืองมะริด ตลอดจนการพูดคุยเรื่องการช่วยเหลือกันทั้งด้านการรักษาสุขภาพ ด้านกีฬา โดยนายสุทินยังบอกว่าพวกเราช่วยกันและรักกัน หากมีปัญหาอะไรเล็กๆ น้อยๆ ต้องช่วยกันแก้ไข วันนี้ตนในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และรัฐมนตรีกว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เดินทางมาและได้เห็นแล้ว ซึ่งคิดต่อไปว่าจะทำอย่างไรให้ทั้ง 2 ฝั่งมีความเจริญยิ่งขึ้น โดยรัฐมนตรีกลระทางการต่างประเทศ รับไปจะดำเนินการช่วยผลักดันให้เป็นด่านถาวรต่อไป
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า หลังได้ฟังข้อมูลรายละเอียดต่างๆจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และหน่วยงานความมั่นคงแล้ว รวมทั้งมาตรวจดูสภาพพื้นที่จุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร และจุดผ่านสินค้าเขตโนแมนด์แลนด์ ซึ่งได้รับทราบข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพิ่มมากขึ้น ถือว่าจุดนี้เป็นอีกจุดที่มีความสำคัญและมีศักยภาพในการสร้างความร่วมมือให้เกิดขึ้นกับทั้งไทย และพม่า ทั้งด้านค้าขาย ด้านธุรกิจ เศรษฐกิจ ซึ่งจะเกิดประโยชน์กับประชาชนทั้ง 2 ฝั่ง
รวมทั้งทางฝั่งภาคเอกชนมีความต้องการในการผลักดันให้เป็นด่านถาวร ซึ่งหลังจากผมกลับจะนำข้อมูลทั้งหมดไปคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกระทรวงการต่างประเทศ และฝ่ายความมั่นคง โดยจะต้องกลับที่ประจวบฯและร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนของจังหวัดประจวบฯ เพื่อทำให้นโยบายและ แนวทางในการปฏิบัติให้สอดคล้องกับประชาชน ภาคเอกชนในพื้นที่จริงๆ จะทำให้ความร่วมมือระหว่างไทยกับพม่า ประสบความสำเร็จสร้างผลตอบแทนให้ประชาชน ซึ่งการผลักดันจุดผ่อนปรนพิเศษ ด่านสิงขร ให้เป็นด่านถาวรนั้นเป็นความตั้งใจของทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชน และนายกรัฐมนตรี แต่อย่างไรก็ตาม ในจุดนี้ไม่ใช่เพียงการผลักดันของฝั่งไทยเท่านั้น ต้องทางฝั่งพม่าด้วยเช่นกัน
ด้านนายปรีชา ศิริแสงอารำพี ประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ หอการค้าจังหวัดสมุทรสาคร นายนิคม กนกภัยพิพัฒน์ หอการค้าจังหวัดสมุทรสาคร และนายอำนาจ มณีแดง รองประธานหอการค้าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และตัวแทนสมาคมส่งเสริมการค้าการทุนประจวบ- มะริด กล่าวว่าวันนี้รู้สึกดีใจที่ 2 รัฐมนตรีได้เดินทางลงมารับฟังข้อมูลและดูสภาพภูมิประเทศ และพร้อมที่จะกลับไปช่วยผลักดันให้จุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร เป็นด่านถาวรต่อไป ซึ่งจุดนี้ถือเป็นจุดหนึ่งที่มีความสำคัญในการขนส่งสินค้าอาหารทะเลจากเมืองมะริด เดิมเมื่อก่อนการเดินทางต้องไปทางเรือไปขึ้นที่ระนอง ซึ่งเสียค่าใช้จ่ายสูง และการเดินทางใช้ระยะเวลา แต่เมื่อมีจุดผ่อนกรนพิเศษด่านสิงขร เส้นทางจากมะริด-บ้านมูด่อง เพียง 180 กม.การเดินทางใช้เวลา 3 ชั่วโมงกว่าเท่านั้นทค่าใช้จ่ายถูกลง ด้งนั้นหากทางรัฐบาลผลักดันให้เป็นด่านถาวร จะทำให้มูลค่าการค้าทั้งนำเข้า ส่งออกสูงขึ้นตามลำดับ จึงอยากฝากให้ท่านนายกรัฐมนตรี พิจารณาเพราะจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจการค้าชายแดนของทั้งไทย และพม่า
ทั้งนี้ มีรายงานว่ามูลค่าการค้าชายแดนจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566-เดือนเมษายน 2567 มีมูลค่านำเข้าส่งออก รวม 2,585 ล้าน