สุรินทร์ - เจ้าอาวาสวัดดัง อ.ศีขรภูมิ เมืองช้างชี้แจง กรณีเพจดังแฉแชตหลุดซุกเมียมานานนับ 10 ปี ชี้เป็นไลน์ปลอมกุเรื่อง เพราะไม่เคยเล่นไลน์ทักแชตและไม่รู้จักหญิงในภาพ ลั่นหากไม่ลบออกจะแจ้งความดำเนินคดีถึงที่สุด ด้านเจ้าคณะจังหวัดสุรินทร์ส่งพระเลขาฯ รุดลงพื้นที่เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง
วันนี้ (13 พ.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานกรณีที่มีเพจ “อีซ้อขยี้ข่าว” ว่า มีเกจิดังจังหวัดสุรินทร์ซุกเมียแถมอยู่กินฉันผัวเมียมานานนับ 10 ปี ชาวบ้านสุดเอือมระอาแต่ไม่กล้าร้องเรียนเพราะกลัวอิทธิพลของเจ้าอาวาสรูปนี้ หนำซ้ำยังไล่ขู่อ้างว่าจะทำของใส่คนที่เอาเรื่องไปร้องเรียนจนเป็นกระแสกระหึ่มในโซเชียลมีเดียนั้น ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่วัดบ้านระเวียง ต.ระแงง อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ได้เข้าพบ พระครูถาวรธรรมวิจิตร อายุ 58 ปี เจ้าอาวาสวัดบ้านระเวียง ต.ระแงง อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งได้เดินทางกลับจากภารกิจนิมนต์ไปงานศพพร้อมกับได้สอบถามญาติโยมภายในวัด ในเรื่องราวที่เกิดขึ้น
พระครูถาวรธรรมวิจิตร เจ้าอาวาสวัดบ้านระเวียง เปิดเผยว่า เรื่องราวที่กระหึ่มทางโชเชียลฯ ที่เพจ “อีซ้อขยี้ข่าว” นำมาเผยแพร่นั้น อาตมาเองไม่เคยทราบมาก่อนเลยว่ามีที่มาที่ไปเป็นมาอย่างไร เพราะอาตมาไม่เคยเล่นไลน์และเล่นทักแชต กับการที่ถูกกล่าวหาว่าได้ซุกสีกาไว้นานถึง 10 ปี และมีการเลี้ยงดูแบบฉันผัวเมีย ตลอดจนการใช้เงิน ทักแชตต่างๆ นานา ซึ่งจากการตรวจสอบการทักแชตแล้วมันไม่ใช่ มันน่าจะเป็นไลน์ปลอมมากกว่า ซึ่งอาตมาไม่เข้าใจว่ากลุ่มคนที่นำไปเสนอแบบนี้จุดมุ่งหมายเขาต้องการอะไรและหวังที่จะดิสเครดิตอาตมา ทั้งที่อาตมาก็ไม่เคยไปสร้างความเดือดร้อนให้ใคร จึงขอเตือนไว้เลยหากกลุ่มคนดังกล่าวไม่ลบแชตออกอาตมาพร้อมที่จะเดินทางไปแจ้งความดำเนินคดีถึงที่สุดอย่างแน่นอน
พระครูถาวรกล่าวต่อว่า อาตมาบวชประจำพรรษามานานกว่า 30 ปี ไม่เคยมีประวัติด่างพร้อยอะไร มีแต่มุ่งมั่นพัฒนาวัดอย่างต่อเนื่อง เงินทองของวัดที่พี่น้องหรือญาติโยมนำมาบริจาคนั้นอาตมาไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวเพราะอาตมาได้เงินที่เหลือจากชาวบ้านที่นำมาถวายปัจจัยให้มาใช้สอย อาตมาบอกได้เลยว่าเรื่องที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นการทำลายพระพุทธศาสนาและทำลายวัดให้เสียหาย เพราะการทักแชตทักไลน์นั้นอาตมาไม่เคยยุ่งเกี่ยวเพราะอาตมารู้และทราบดีว่าแชตที่กล่าวอ้างมานั้นเป็นแชตปลอมที่กุเรื่องขึ้นมาและสีกาตามที่อยู่ในภาพนั้นอาตมาก็ไม่รู้จัก
นายศิริ โสรเนตร อายุ 65 ปี ชาวบ้านโตนด ต.ระแงง และมีหน้าที่คอยเป็นพิธีกรในงานต่างๆ ภายในวัดบ้านระเวียง กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นได้ทราบข่าวจากโลกโซเชียลฯ และมีพี่น้องได้สอบถามกันมาหลายส่วนมากทั้งจากต่างจังหวัดและกรุงเทพฯ ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจว่าเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นมาได้อย่างไรและข่าวนี้ออกมาได้อย่างไรเพราะตนอยู่และคลุกคลีอยู่กับวัดนี้มานานไม่เคยเห็นและปรากฏข่าวออกมาเช่นนี้ ซึ่งตนไม่รู้จริงๆ และท่านเจ้าอาวาสก็ไม่เคยทำตัวเหมือนกับที่เป็นข่าว ตนเองถึงกับงงมาก
ทางด้าน นางเอ๋ อายุ 45 ปี น้องสาวเจ้าอาวาสวัดบ้านระเวียง เปิดเผยว่า ตนก็ไม่ทราบมาก่อนเลยว่าเรื่องดังกล่าวมันเกิดขึ้นได้อย่างไร มันต้องมีคนไม่หวังดีต่อเจ้าอาวาสอย่างแน่นอน ซึ่งที่ผ่านมาตลอด 30 กว่าปีเจ้าอาวาสได้สร้างและพัฒนาวัดมาตลอด เรื่องเงินทอง การใช้จ่ายเงินต่างๆของวัด ก็มีคณะกรรมการวัดคอยตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ กรณีการกระทำอย่างนี้ทำให้วัดและเจ้าอาวาสเสื่อมเสีย จุดประสงค์ของคนร้องเรียนไม่ทราบว่าต้องการอะไร ส่วนที่ว่าซุกเมียไว้นานถึง 10 ปีนั้นตนเองก็แปลกใจไม่เคยรู้และไม่เคยเห็นมาก่อนด้วยซ้ำ
ถึงอย่างไรก็ตาม หลังจากที่เจ้าอาวาสได้ตกเป็นข่าวดังเผยแพร่ออกไปทำให้ชาวบ้านในหมู่บ้านพากันนั่งจับเข่าคุยกันและได้บอกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นหากเป็นจริงทางวัดและหมู่บ้านไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนกันเพราะเรื่องแบบนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นกับวัดและหมู่บ้านเรา แต่หากไม่จริงก็ถือว่าเป็นความโชคดีของหมู่บ้านและวัด และวันนี้ (13 พ.ค. 67) ทางเลขานุการ เจ้าคณะจังหวัดสุรินทร์ จะเดินทางมาสอบถามข้อเท็จจริงถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น