ศูนย์ข่าวขอนแก่น - นางสาวมธุรสเข้าให้ปากคำต่อคณะกรรมการสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่นแล้ว หลังดาบตำรวจจราจรให้ผู้เสียหายโอนค่าปรับเข้าบัญชีส่วนตัวของเธอ ขณะที่ดาบตำรวจอ้างเป็นการโอนฝากเพื่อจ่ายค่าปรับ ด้าน ผกก.เผยการจ่ายค่าปรับจราจรแบบฝากโอนไม่มี การกระทำของดาบตำรวจผิดวินัยจริง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (23 เม.ย.) เวลา 14.30 น. นางสาวมธุรส (ขอสงวนนามสกุล) ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.พิทักษ์เขต สิงห์พิทักษ์ รองผู้กำกับการจราจร สถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น พร้อมด้วยสารวัตรจราจร ในฐานะคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ได้ร่วมกันสอบปากคำนางสาวมธุรส อายุประมาณ 31 ปี หลังถูกระบุเป็นเจ้าของบัญชีธนาคารออมสิน ที่ ด.ต.ศรชัย โผยเขียว ผบ.หมู่งานจราจร สภ.เมืองขอนแก่น ได้ให้ผู้เสียหายที่ถูกจับเพราะผิดวินัยจราจร โอนเงินค่าปรับจำนวน 1,000 บาท เข้าบัญชีชื่อนางสาวมธุรส จนมีผู้เสียหายได้ร้องเรียนผ่านสื่อโซเชียล
เจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนที่จะทำการสอบปากคำเสร็จ จากนั้นนางสาวมธุรสได้รีบเดินออกจากห้องรองผู้กำกับการจราจรทันที ก่อนจะไปขึ้นรถยนต์เก๋ง ที่จอดด้านหลังงานจราจรแล้วขับออกไป ต่อมาได้ทำการสอบปากคำ ดาบตำรวจ ศรชัย โดยเจ้าหน้าที่ได้นำสมุดใบค่าปรับของดาบตำรวจ ศรชัยมาใช้เป็นหลักฐานประกอบการสอบปากคำ ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีจึงสอบปากคำแล้วเสร็จ สีหน้าท่าทางของดาบตำรวจ ศรชัยค่อนข้างเคร่งเครียด
ผลการสอบสวนข้อเท็จจริงทั้งหมดทางคณะกรรมการฯ จะได้สรุปจัดส่งไปให้ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น ได้รับทราบและพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนทางวินัยต่อไป
พ.ต.อ.ยศวัฒน์ แก้วสืบธัญนิช ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น กล่าวว่า ขณะนี้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงมาแล้วแต่ยังไม่สมบูรณ์ แต่ก็ได้หลักเกณฑ์ที่จะเอาความผิดนายดาบตำรวจจราจรรายนี้ โดยผู้ที่เข้ามาให้ปากคำทั้ง 3 คนให้การตรงกันว่าได้โอนค่าปรับเป็นเงินจำนวน 1,000 บาท เข้าบัญชีของนางสาวมธุรสจริง ส่วนการสอบปากคำ ดาบตำรวจยอมรับว่าได้รับโอนเงินจากทั้ง 3 คนจริง โดยบอกว่าเป็นการฝากจ่ายค่าปรับ
ในทางการสอบสวนผู้ถูกร้องคือนายดาบตำรวจ ศรชัย สามารถให้การอย่างไรก็ได้ แต่หลักการจ่ายค่าปรับนั้นไม่สามารถทำวิธีนี้ได้ ทำให้คณะกรรมสอบสวนฯ ได้สรุปว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมีมูลความผิดจริง จากนี้ทางคณะกรรมการจะได้ประมวลเรื่องมายังตนเอง เพื่อที่จะได้สรุปก่อนนำเรื่องดังกล่าวส่งไปยังผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่นเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาความผิดวินัย เนื่องจากเข้าข่ายเป็นการกระทำความผิดต่อหน้าที่ราชการ มาตรา 149 และมาตรา 157 ขณะที่ผู้เสียหายทั้ง 3 คนได้มีการแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนแล้ว จากนั้นพนักงานสอบสวนจะส่งเรื่องไปยัง ป.ป.ช.จังหวัดขอนแก่น เพื่อพิจารณาความผิด