xs
xsm
sm
md
lg

“ธรรมนัส” สั่งตั้งวอร์รูมแก้วิกฤตน้ำเค็มเข้าคลองประเวศฯ กระทบพื้นที่เกษตร 2 จังหวัด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ฉะเชิงเทรา - "ธรรมนัส" ระดมคณะผู้ตรวจการกระทรวง รองอธิบดีกรมที่เกี่ยวข้องตั้งวอร์รูมแก้ปัญหาน้ำเค็มเข้าคลองประเวศบุรีรมย์ ที่ประตูน้ำท่าถั่ว จ.ฉะเชิงเทรา หลังเขื่อนทำนบดินในไซต์งานก่อสร้างขยายสถานีสูบน้ำพังทลายจนส่งผลกระทบพื้นที่เกษตร และแหล่งผลิตน้ำประปา

วันนี้ (18 เม.ย.) ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เดินทางลงพื้นที่สถานีสูบระบายน้ำปากคลองประเวศบุรีรมย์ (ประตูน้ำท่าถั่ว) ต.บางกรูด อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาน้ำเค็มที่ไหลทะลักเข้ามาภายในคลองประเวศบุรีรมย์ หลังเขื่อนทำนบดินภายในไซต์งานก่อสร้างโครงการขยายสถานีสูบระบายน้ำท่าถั่วแตก พังทลายลงทั้ง 2 ชั้น ตั้งแต่คืนวันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา

จนทำให้ประชาชนใน 2 จังหวัดคือ จ.ฉะเชิงเทรา และสมุทรปราการ ที่ประกอบอาชีพเกษตรกร รวมถึงโครงการประปาหมู่บ้านในหลายตำบลของ จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับความเดือดร้อ

โดยเบื้องต้น ได้สั่งการให้ตั้งวอร์รูมคณะทำงานของกระทรวงเกษตรเพื่อแก้ปัญหาโดยเร่งด่วน และให้ระดมเครื่องสูบน้ำจากกรมชลประทานที่มีอยู่ทั่วประเทศ เข้ามาช่วยแก้ไขวิกฤตที่เกิดขึ้น รวมทั้งให้ระดมเจ้าหน้าที่จากทุกภาคส่วนเพื่อแก้ปัญหา และให้ระดมน้ำจืดต้นทุนที่อยู่ใกล้พื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อนเข้าช่วยเหลือประชาชนโดยให้เห็นผลภายใน 7 วัน

นอกจากนั้น ยังมอบหมายให้อธิบดีกรมประมง สำรวจจำนวนประชาชนที่เลี้ยงกุ้ง เลี้ยงปลาทั้งหมด ซึ่งคาดว่าจะมีจำนวน 3,389 ราย เพื่อเข้าให้การช่วยเหลือเช่นกัน


ขณะที่ น.ส.ฉัตรประอร นิยม รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้รายงานถึงสภาพพื้นที่ซึ่งเป็นอุปสรรคในการระบายน้ำเค็มออกจากพื้นที่คลองเปรง ที่งยังคงมีค่าความเค็มสูงมาก เนื่องจากสภาพพื้นที่ไม่ได้อยู่ในลักษณะของการระบายน้ำจากพื้นที่สูงลงสู่ที่ต่ำ จึงเป็นอุปสรรคในการเร่งระบายน้ำเค็มออกจากลำคลองตั้งแต่ในช่วงแรกที่มีน้ำเค็มไหลเข้ามา

โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสร็จสิ้นการประชุม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ และคณะได้เดินทางไปดูตัวเขื่อนทำนบดินที่สร้างขึ้นมาทดแทนใหม่และสามารถปิดกั้นน้ำเค็มจากปากคลองประเวศได้สำเร็จแล้วที่หน้างาน ก่อนจะเดินทางต่อไปประตูระบายน้ำและสถานีสูบน้ำพระยาวิสูตร ใน ต.สองคลอง อ.บางปะกง และร่วมประชุมกับผู้ราชการจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาต่อไป








กำลังโหลดความคิดเห็น