ฉะเชิงเทรา - ชลประทานเมืองแปดริ้วเตือนเกษตรกรอย่าฝืนทำนารอบ 3 เหตุปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำหลัก 2 แห่งเริ่มร่อยหรอจนต้องเตรียมยุติการระบายจ่ายน้ำทั้งระบบในวันที่ 5 มี.ค.นี้ ขณะช่วงรอยต่อระหว่างเดือน มี.ค.-เม.ย.อาจยังต้องเจอสภาพอากาศร้อนทะลุ 45 องศา
วันนี้ (1มี.ค.) นายธานินทร์ เนื่องทศเทศ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทาน จ.ฉะเชิงเทรา ได้เผยถึงสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำคลองสียัด อ.ท่าตะเกียบ ว่ามีปริมาณน้ำคงเหลือประมาณ 63 ล้าน ลบ.ม. จากความจุสูงสุด 420 ล้าน ลบม. โดยในช่วงฤดูฝนที่ผ่านมาสามารถกักเก็บน้ำไว้ได้เพียง 160 ล้าน ลบ.ม. จึงมีน้ำที่ยังคงสามารถปล่อยระบายเพื่อรักษาระบบนิเวศในการผลิตประปาและเพื่อการเกษตรกรรมอีกเพียง 30 ล้าน ลบ.ม.เท่านั้น
โดยปัจจุบันยังคงมีการระบายน้ำผ่านประตูระบายอย่างต่อเนื่องวันละประมาณ 4 แสน ลบ.ม. และจะยุติการระบายน้ำทั้งระบบในวันที่ 5 มี.ค.นี้ ที่เป็นช่วงหลังฤดูกาลเก็บเกี่ยวผลผลิตของเกษตรกร ซึ่งจะทำให้เหลือน้ำสำหรับระบายเพื่อรักษาระบบนิเวศและเพื่อการผลิตประปาอีกเพียงวันละ 1 แสน ลบ.ม.เท่านั้น
ส่วนอ่างเก็บน้ำคลองระบมใน อ.สนามชัยเขต ที่มีความจุรวม 55.5 ล้าน ลบ.ม. ขณะนี้มีน้ำเหลืออยู่เพียง 12 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 21.6 ของความจุ จึงทำให้เหลือแค่เพียงน้ำที่จะถูกใช้ในการระบายเพื่อรักษาระบบนิเวศเท่านั้น และไม่สามารถที่จะระบายจ่ายออกไปใช้ในด้านอื่นๆ ได้อีก อีกทั้งชลประทานยังจะปิดการระบายน้ำอย่างเต็มระบบในวันที่ 5 มี.ค.นี้ด้วยเช่นกัน
นายธานินทร์ ยังกล่าวอีกว่าในส่วนของแม่น้ำบางปะกงยังอยู่ในช่วงภาวะน้ำเค็มหนุนเต็มลำน้ำทะลุเลยผ่าน จ.ฉะเชิงเทรา ไปไกลจนจึง จ.ปราจีนบุรี ตั้งแต่วันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยสามารถตรวจวัดค่าความเค็ม ณ ที่ทำการสำนักงานชลประทานฉะเชิงเทรา ซึ่งตั้งอยู่ใน ต.คลองบ้านโพธิ์ อ.บ้านโพธิ์ ได้เท่ากับ 26 .86 กรัมต่อลิตร และตรวจวัดที่เขตเทศบาลตัวเมือง จ.ฉะเชิงเทรา ได้ที่ 21.04 กรัมต่อลิตร
ขณะที่การตรวจวัดค่าความเค็มที่ ต.บางแตน อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นจุดรอยต่อกับ จ.ฉะเชิงเทรา และปราจีนบุรี วัดค่าความเค็มได้ที่ 8.03 กรัมต่อลิตร
"จากสถานการณ์ดังกล่าว อยากฝากเตือนไปยังเกษตรกรและชาวนาในพื้นที่ว่าในปีนี้ขอให้งดการทำนาในรอบที่ 3 หลังทำการเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้วเนื่องจากกำลังจะเข้าสู่ภาวะสภาพอากาศร้อนจัด ซึ่ง จ.ฉะเชิงเทรา จะมีอุณหภูมิสูงถึง 45 องศาเซลเซียส ตั้งแต่ปลายเดือน มี.ค.-เม.ย.67 จึงเกิดความสุ่มเสี่ยงที่เกษตรกรจะได้รับความเสียหาย หากเกษตรยังคงมีการตีเลนหรือไถหว่านทำนากันอีกโดยที่ไม่มีสถานที่กักเก็บน้ำหรือบ่อพักน้ำ หรือไม่มีบ่อบาดาลเป็นของตนเอง"
ทั้งนี้ ชลประทานฉะเชิงเทราทำได้แค่ประกาศเตือนเท่านั้น และไม่สามารถที่จะห้ามไม่ให้เกษตรกรหยุดทำนาได้ เนื่องจากในช่วงนี้ข้าวมีราคาดี