xs
xsm
sm
md
lg

“ธรรมนัส” เร่งทำฝนหลวงเร่งด่วนในพื้นที่ประจวบฯ หลังปัญหาภัยแล้งส่งผลมีการระบาดของหนอนหัวดำมะพร้าวในช่วงนี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ประจวบคีรีขันธ์ - “ธรรมนัส” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ประจวบคีรีขันธ์ เปิดงานวันรณรงค์ป้องกันกำจัดศัตรูมะพร้าว และติดตามผลการควบคุมการระบาดของหนอนหัวดำมะพร้าว พร้อมต่อยอดผลสำเร็จการดำเนินงานทั้งจังหวัด สั่งกรมฝนหลวงและการเกษตร เร่งทำฝนหลวงเร่งด่วน เนื่องจากปัญหาภัยแล้งส่งผลมีการระบาดในช่วงนี้

วันนี้ (6 เม.ย.) ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร คณะผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของแมลงศัตรูมะพร้าวในพื้นที่ จ.ประจวบฯ ที่อาคารอเนกประสงค์สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนบ้านหินเทิน จำกัด ต.แสงอรุณ อ.ทับสะแก มี นายคมกริช เจริญพัฒนสมบัติ รองผู้ว่าราชการ จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายราม สิงหโศภิษฐ์ นายอำเภอทับสะแก นางศันสนีย์ เกษตรสินสมบัติ เกษตร จ.ประจวบคีรีขันธ์ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องถิ่น และเกษตรกรชาวสวนมะพร้าวในพื้นที่ให้การต้อนรับ

โดยอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ได้นำเสนอสถานการณ์การระบาดของแมลงศัตรูมะพร้าวใน จ.ประจวบฯ และแนวทางป้องกันแก้ไขปัญหาให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้รับทราบ จากนั้น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ได้พบปะพูดคุยและรับฟังข้อคิดเห็นข้อเสนอแนะจากเกษตรกรชาวสวนมะพร้าว พร้อมเปิดงานวันรณรงค์ป้องกันการกำจัดศัตรูมะพร้าวจังหวัดประจวบฯ

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดงานวันรณรงค์ป้องกันกำจัดศัตรูมะพร้าว เพื่อถ่ายทอดความรู้ และมอบแตนเบียนบราคอนสำหรับควบคุมกำจัดศัตรูมะพร้าว (หนอนหัวดำ) แก่เกษตรกร 8 อำเภอ ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมพบพูดคุยกับเกษตรกร เพื่อรับฟังข้อมูลสถานการณ์ศัตรูมะพร้าวตลอดจนความคิดเห็นของเกษตรกรผู้ปลูกมะพร้าวในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ณ อาคารอเนกประสงค์สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนบ้านหินเทิน ต.แสงอรุณ อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์

จากรายงานพื้นที่การระบาดในภาพรวมทั้งประเทศ ตั้งแต่ปี 2563 ถึงปัจจุบันพบว่าปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 พบการระบาดของหนอนหัวดำ ใน 28 จังหวัด พื้นที่ 16,039.99 ไร่ และแมลงดำหนาม ใน 25 จังหวัด พื้นที่ 14,953.76 ไร่ โดยจังหวัดที่พบการระบาดสูงสุด 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สุราษฎร์ธานี ชลบุรี เพชรบุรี และจังหวัดสมุทรสงคราม

โดยจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พบการทำลายของหนอนหัวดำเพิ่มขึ้นช่วงต้นปี 2567 ในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอทับสะแก และอำเภอบางสะพาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมส่งเสริมการเกษตรจึงได้เร่งนำศัตรูธรรมชาติของหนอนหัวดำ 4 ชนิด ได้แก่ แตนเบียนบราคอน แตนเบียนไข่ทริคโคแกรมม่า แมลงหางหนีบสีดำ และแมลงหางหนีบขาวงแหวน ไปปล่อยในสวนมะพร้าวของเกษตรกร ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2566-มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา

โดยมีผลการดำเนินการจัดการศัตรูพืชโดยวิธีผสมผสาน (IPM) โดยรวม คือ ปล่อยแมลงศัตรูธรรมชาติ 33 ล้านตัว ในพื้นที่ที่มีการระบาดน้อย-ปานกลาง รวมสะสม 18,944.50 ไร่ (พฤศจิกายน 2566-มีนาคม 2567) ควบคู่กับการใช้สารเคมี จำนวน 10,686 ไร่ (ตุลาคม 2566-มีนาคม 2567) โดยก่อนดำเนินการ สำรวจพบหนอนมีชีวิตเฉลี่ย 28 ตัว/ต้น และสำรวจหลังดำเนินการไปแล้ว 1 เดือน พบหนอนมีชีวิตลดลงเฉลี่ยเหลือ 11.1 ตัว/ต้น

สำหรับมาตรการจัดการหนอนหัวดำในระยะต่อไปของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้แก่ การให้คำแนะนำในการใช้สารเคมี ควบคู่กับการปล่อยแตนเบียน ในการป้องกันกำจัดในพื้นที่ที่พบการระบาดรุนแรง เพื่อกำจัดหนอนหัวดำ และแมลงดำหนาม ซึ่งการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดทั้งวิธีการฉีดเข้าลำต้นและพ่นทางใบมะพร้าวที่ผ่านมาไม่พบสารตกค้างในน้ำและเนื้อมะพร้าว จึงไม่ส่งผลต่อกระบวนการส่งออก หลังจากใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูมะพร้าวแล้วควรเว้นระยะเวลาประมาณ 3 เดือน จึงส่งเสริมการควบคุมศัตรูมะพร้าวด้วยการปล่อยศัตรูทางธรรมชาติอย่างต่อเนื่อง

ตลอดจนติดตามให้คำแนะนำแก่เกษตรกรในการป้องกันกำจัดศัตรูมะพร้าวโดยวิธีผสมผสาน (IPM) เพื่อสร้างการรับรู้ให้เกษตรกรในการจัดการศัตรูมะพร้าวอย่างต่อเนื่อง ดำเนินการประเมินประชากรศัตรูมะพร้าว และสำรวจติดตามสถานการณ์การระบาดอย่างสม่ำเสมอทุกสัปดาห์ ผ่านระบบของกรมส่งเสริมการเกษตร และสนับสนุนพ่อแม่พันธุ์ศัตรูธรรมชาติสำหรับผลิต ขยาย และปล่อย เพื่อควบคุมการระบาดของศัตรูมะพร้าว ทั้งนี้ กรมส่งเสริมการเกษตรคาดหมายว่า การดำเนินการตามมาตรการดังกล่าว จะทำให้พื้นที่อื่นๆ ของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์สามารถควบคุมการระบาดของศัตรูมะพร้าวได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดความยั่งยืน

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวอีกว่า การลงพื้นที่ในวันนี้เพื่อมาติดตามและรับฟังปัญหาจากเกษตรกรโดยตรง รวมถึงการปรับปรุงแก้ไขประกาศของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในเรื่องเงื่อนไขการใช้สารเคมีที่ไม่กระทบต่อมะพร้าว ตามที่กรมวิชาการเกษตรได้วิจัยไว้ อีกทั้งยังสนับสนุนการเลี้ยงแตนเบียนที่จะกำจัดศัตรูพืชโดยเฉพาะหนอนหัวดำ นอกจากนี้ ยังได้มอบหมายกรมฝนหลวงและการบินเกษตรเร่งทำฝนหลวงเพื่อช่วยเหลือในช่วงฤดูแล้ง และมอบกรมชลประทานในการสำรวจทำแผนที่น้ำ ตั้งแต่ระดับตำบล อำเภอ จังหวัด เพื่อจัดทำแผนบูรณาการการแก้ไขปัญหาภัยแล้งของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ทั้ง 8 อำเภอด้วย โดยให้ดำเนินการและแจ้งให้ทราบในสัปดาห์หน้านี้

นายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ศัตรูธรรมชาติแต่ละชนิดที่กรมส่งเสริมการเกษตรสนับสนุนให้แก่เกษตรกรชาวสวนมะพร้าวนั้นจะทำลายศัตรูมะพร้าวโดยเฉพาะหนอนหัวดำ จึงเป็นประโยชน์อย่างยิ่งที่จะปล่อยแมลงศัตรูทางธรรมชาติ เพื่อช่วยทำลายหนอนหัวดำมะพร้าวไม่ให้สร้างความเสียหายต่อผลผลิต ป้องกันผลกระทบต่อเกษตรกรชาวสวนมะพร้าวได้ ซึ่งผลจากการดำเนินการของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แสดงให้เห็นว่า มาตรการที่กรมส่งเสริมการเกษตรดำเนินการได้ผลอย่างเป็นรูปธรรม และมีแนวโน้มที่การระบาดจะค่อยๆ คลี่คลายลงไป อย่างไรก็ตาม กรมส่งเสริมการเกษตร เร่งผลิตขยายพ่อแม่พันธุ์ศัตรูธรรมชาติเพื่อสนับสนุนให้ศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชน (ศจช.) ผลิตขยายศัตรูธรรมชาติพร้อมใช้ เพื่อควบคุมศัตรูพืชอย่างต่อเนื่องและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่เกษตรกรและภาคการเกษตรของประเทศอย่างยั่งยืนต่อไป

ด้าน นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของกรมวิชาการเกษตรจะเข้ามาให้ความรู้ในการใช้สารเคมีด้านการเกษตรที่ถูกต้อง ซึ่งสารเคมีดังกล่าวจะต้องผ่านการตรวจสอบและได้รับการยืนยันว่าจะไม่มีผลกระทบต่อมะพร้าว เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภค

ขณะเดียวกัน นางกรุณา อินทรวิมล ชาวสวนมะพร้าวตำบลแสงอรุณ อำเภอทับสะแก กล่าวว่า ศัตรูมะพร้าวระบาดมา 10 ปีแล้ว มีการแก้ปัญหากันมาตลอด บางช่วงปัญหาลดลง แต่ปีนี้ปัญหาภัยแล้งที่เกิดขึ้น ฝนทิ้งช่วงมาตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา จนเกิดสภาพความแห้งแล้งจัด ส่งผลให้มีการระบาดของแมลงศัตรูมะพร้าว ซึ่งที่สวนของตน และสวนอื่นๆ มีการใช้วิธีเจาะลำต้นฉีดสารเคมีเข้าไป รวมทั้งการปล่อยแตนเบียน จะได้ผลในช่วงฤดูฝน หากช่วงหน้าแล้งจะลำบาก ซึ่งหากเป็นไปได้มีการทำฝนหลวงตกลงมาบ้างในพื้นที่ให้เกิดความชุ่มชื้นน่าจะทำให้การระบาดลดลงส่วนหนึ่ง ซึ่งหวังขอให้ทำแล้วฝนตก ทั้งนี้ยอมรับว่าขึ้นอยู่กับสภาพของอากาศด้วย










กำลังโหลดความคิดเห็น