สระแก้ว - ไม่ดูตาม้าตาเรือ แก๊งปล่อยเงินกู้นอกระบบสระแก้ว เสียบบัตรปล่อยเงินหน้ากระจกรถผู้ว่าฯ เจอสั่งกวาดล้างจับกุมรวบหัวหน้าแก๊งเก็บเงิน พร้อมลูกสมุนรวม 5 ราย ก่อนขยายผลถึงนายทุนต่อไป
จากกรณีที่ นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้สั่งการให้ นายสุเทพ ชัยวัฒน์ ปลัดจังหวัด พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดสระแก้ว สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองอำเภอเมืองสระแก้ว และเจ้าหน้าที่ อส. บุกเข้าตรวจสอบและจับกุมผู้ต้องหาแก๊งปล่อยเงินกู้นอกระบบหลังพบว่ามีกลุ่มบุคคลออกแจกจ่ายนามบัตรที่มีลักษณะสีม่วง ส้มและเขียว ที่มีข้อความ "เงินด่วน อนุมัติง่าย ให้วงเงินสูง สำหรับท่านที่มีธุรกิจ" ทั่วเมือง
ไม่เว้นแม้แต่หน้ากระจกรถของผู้ว่าราชการจังหวัด ที่นำไปจอดไว้ที่ตลาดเมืองแก้ว ซึ่งในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ปลอมตัวเป็นพ่อค้าขายผ้ามือสองในตลาดเมืองแก้ว และได้ติดต่อไปยังเบอร์โทรศัพท์ที่ระบุไว้ในนามบัตรที่อยู่หน้ารถผู้ว่าฯ
กระทั่งได้พูดคุยกับ นายเอกพงศ์ หรือเอก คำเก่ง ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊งปล่อยเงินกู้ที่ได้ระบุเงื่อนไขการขอรับเงินกู้โดยให้ทำการแอดไลน์ตาม QR Code ที่แสดงในใบนามบัตรและให้ส่งสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน รวมทั้งรูปถ่ายแสดงหน้าร้านค้ามาในไลน์ เจ้าหน้าที่จึงทำทีตกลงกู้ยืมเงินจำนวน 5,000 บาท และเลือกส่งดอกเบี้ยแบบรายวันพร้อมเงินต้นวันละ 300 บาท รวมจำนวน 20 วัน
นายเอกพงศ์ ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊งจึงได้ส่งทีมงานเข้าตรวจสอบร้านค้าที่เจ้าหน้าที่อ้างว่าเป็นร้านขายสินค้ามือสอง ตั้งอยู่ตลาดเมืองแก้ว เทศบาลเมืองสระแก้ว และยังได้ส่งทีมงานไปตรวจสอบบ้านพักที่สายลับระบุว่าเป็นที่อยู่อาศัยในหมู่บ้านนิตตาโฮม เทศบาลเมืองสระแก้ว
ก่อนจะได้โอนเงินจำนวน 4,400 บาทที่ได้หักค่าดำเนินการไปแล้วจำนวน 600 บาท เข้ามายบัญชีของสายลับพร้อมสลิปการโอนเงินพร้อมระบุข้อความ "เริ่มส่งดอกเบี้ยในวันพรุ่งนี้เลย”
และในวันนี้ (31 มี.ค.) ซึ่งถูกกำหนดให้เป็นการส่งดอกเบี้ยเงินกู้งวดแรกจำนวน 300 บาท นายเอกพงศ์ ได้ส่งลูกน้องให้เดินทางมายังจุดที่สายลับระบุไว้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ที่ซุ่มอยู่ด้านร้านค้าจึงแสดงตัวเข้าจับกุม ทราบชื่อคือ นายอั้น หรือนายณัฐพงษ์ กระไร อายุ อายุ 36 ปี
เบื้องต้น นายณัฐพงษ์ ยอมรับว่าอยู่ในแก๊งปล่อยเงินกู้นอกระบบจริง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไป สภ.เมืองสระแก้ว และขยายผลจับกุม นายเอกพงศ์ ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊งและทีมงานอีก 3 คนซึ่งเป็นเยาวชน รวมผู้ต้องหาทั้งหมด 5 คน ส่งดำเนินคดี พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐานร่วมกันปล่อยเงินกู้โดยคิดดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดและไม่ได้รับอนุญาต และประกอบธุรกิจทวงถามหนี้โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งหลังจากนี้จะได้ขยายผลจับกุมนายทุนเงินกู้ต่อไป