ศูนย์ข่าวศรีราชา - รองเจ้าอาวาสวัดเที่ยงพิมลมุข จ.ฉะเชิงเทรา ปัดไม่มีเงินโอนจาก “บิ๊กต่อ” เข้าบัญชีวัดตามที่ “ทนายตั้ม” กล่าวอ้าง เผย “บิ๊กต่อ” ศรัทธาในตัวหลวงปู่เชิด หรือพระครูวิมลธรรมาภิรม เจ้าอาวาสที่มรณภาพไปแล้ว ยันไม่เคยมีการออกใบอนุโมทนาบัตรให้ ชี้ข้อมูลทนายตั้มไม่น่าจะถูกต้อง
จากกรณีที่ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ได้มีการโพสต์ภาพขณะที่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล หรือ “บิ๊กต่อ” ผบ.ตร.ซึ่งถูกคำสั่งโยกย้ายจาก นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้ไปปฏิบัติราชการที่สำนักงานนายกรัฐมนตรี พร้อมกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. หรือ “บิ๊กโจ๊ก” ขณะเข้ากราบขอพรพระครูวิมลธรรมาภิรม หรือหลวงปู่เชิด จกฺกธมฺโม (หลวงพ่อบุญเชิด สินเจริญ) เจ้าอาวาสที่เพิ่งจะมรณภาพไปเมื่อวันที่ 28 ก.พ.67 พร้อมระบุข้อความ
“บัญชีม้า วิ่งส่วยโอนเงินเข้าวัดเที่ยงพิมลมุข 15 ธันวาคม 2565 เหลือจะเชื่อที่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ได้เข้าพิธีสร้างพระวันที่ 17 ธันวาคม 2565 อนุโมทนาบุญด้วยนะครับ” และยังมีข้อความแสดงความเห็นเพิ่มเติมจากทนายตั้ม อีกว่าเลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน เห็นทีรอบนี้ม้าจะได้ขึ้นสวรรค์อีกหนึ่งข้อความนั้น
วันนี้ (27 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปวัดเที่ยงพิมลมุข หรือวัดใหม่บางขวัญ ซึ่งตั้งอยู่ใน ต.บางขวัญ อ.เมืองฉะเชิงเทรา เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงจากพระสงฆ์ภายในวัด รวมถึงพระครูสมุห์นิพัทธ์ อายุ 51 ปี พรรษา 8 พระลูกวัดซึ่งเป็นพระเลขาของพระครูวิมลธรรมาภิรม เจ้าอาวาสวัดดังกล่าว ที่เพิ่งจะได้รับแต่งตั้งให้เป็นรองเจ้าอาวาสวัดเที่ยงพิมลมุข
โดย พระครูสมุห์นิพัทธ์ พระเลขาของพระครูวิมลธรรมาภิรม และเพิ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็นรองเจ้าอาวาสวัดเที่ยงพิมลมุข เผยว่า พระครูวิมลธรรมาภิรม หรือหลวงปู่เชิด จกฺกธมฺโม (หลวงพ่อบุญเชิด สินเจริญ) เจ้าอาวาสเพิ่งจะมรณภาพเมื่อวันที่ 28 ก.พ.67 ที่ผ่านมา ด้วยอาการหัวใจวายเฉียบพลันตามการวินิจฉัยของแพทย์ โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ หลังถูกส่งตัวเข้ารักษาด้วยอาการเจ็บแน่นที่หน้าอกเมื่อวันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมา
และก่อนหน้าที่จะมรณภาพ หลวงปู่เชิด ยังคงมีสติสัมปชัญญะดี และมีร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ พูดคุยได้ตามปกติเหมือนคนทั่วไป ซึ่งบรรดาลูกศิษย์และคณะกรรมการวัดได้เคลื่อนย้ายสังขารของหลวงปู่ มาตั้งบำเพ็ญกุศลบนศาลาใหญ่ เมื่อวันที่ 2 มี.ค.67 และได้จัดพิธีสวดพระอภิธรรมต่อเนื่องเป็นเวลา 15 วัน ก่อนจะเก็บสังขารไว้สักการะเป็นเวลา 1 ปี เพื่อรอพิธีพระราชทานเพลิง โดยระหว่างนี้จะมีพิธีสวดพระอภิธรรมในทุกวันพระใหญ่ตลอด 1 ปี
ส่วนกรณีที่ทนายตั้ม ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า “บิ๊กต่อ” ได้บริจาคเงินให้วัดนั้นตนไม่ทราบเนื่องจากเป็นการบริจาคกับทางหลวงพ่อโดยตรง และจากการตรวจสอบไม่พบว่ามีการโอนเงินทำบุญเข้าบัญชีของวัดแต่อย่างใด จึงเชื่อว่าน่าจะเป็นการทำบุญด้วยการถวายผ่านมือของหลวงพ่อเจ้าอาวาสวัด และเชื่อว่าข้อมูลที่ทนายตั๊ม นำมาแฉนั้นน่าจะเป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง และขอให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ พระครูสมุห์นิพัทธ์ พระเลขาของพระครูวิมลธรรมาภิรม ที่เพิ่งจะได้รับแต่งตั้งให้เป็นรองเจ้าอาวาสวัดยังยืนยันว่า "บิ๊กต่อ" ไม่เคยขอให้ทางวัดออกใบอนุโมทนาบัตรให้ด้วยเช่นกัน
“กระแสข่าวที่เกิดขึ้นจะกระทบต่อภาพลักษณ์ของวัดหรือไม่นั้นขึ้นอยุ่ความคิดของแต่ละคน แต่ในความเห็นส่วนตัวแล้วหากมีการนำเงินมาทำบุญกับวัดถือเป็นเรื่องที่ดี และไม่ว่าจะเป็นวัดไหนก็ดีทั้งนั้น และย่อมดีกว่าการนำเงินไปสร้างบ้านให้ภรรยาน้อย หรือทำผิดกฎหมาย ส่วนเงินที่นำมาทำบุญนั้นจะเป็นเงินบริสุทธิ์เงินที่ผิดกฎหมายหรือไม่ ทางวัดไม่อาจจะรู้ได้และไม่เคยมีใครถามญาติโยมว่า เงินที่นำมาทำบุญบริสุทธิ์หรือไม่”
รองเจ้าอาวาสวัดเที่ยงพิมลสุข ยังกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมามีญาติโยมจำนวนมากเดินทางเข้ามาทำบุญที่วัด และไม่ใช่มีเพียง “บิ๊กต่อ” เท่านั้นที่เดินทางมาทำบุญ ซึ่งในวันที่ถูกระบุเป็นวันที่ “บิ๊กต่อ” เดินทางมาวัดเพียงคนเดียวเพื่อเป็นประธานจุดเทียนชัยฝ่ายฆราวาสในพิธี
“วัดเที่ยงพิมลสุขอยู่คู่กับชุมชนมานานนับร้อยปีจนมีผู้คนศรัทธาเป็นจำนวนมาก รวมถึง “บิ๊กต่อ” ที่มีความศรัทธาและนับถือในตัวหลวงปู่บุญเชิด เหมือนกับชาวบ้านทั่วไปเนื่องจากหลวงปู่ มีชื่อเสียงในด้านการพยากรณ์ที่แม่นยำ รวมถึงการหาฤกษ์ยามเพื่อประกอบพิธีต่างๆ ขณะเรื่องการโอนเงินเข้าบัญชีวัดนั้นยืนยันว่าไม่มีอย่างแน่นอน” รองเจ้าอาวาสวัดเที่ยงพิมลสุข กล่าว
ขณะที่ หลวงปู่เชิด หรือพระครูวิมลธรรมาภิรมถือเป็นพระเกจิชื่อดังของ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่ามีวาจาศักดิ์สิทธิ์หากพูดทักทายต่อผู้ใดแล้วจะเป็นไปตามที่ทำนายอย่างแม่นยำ จึงทำให้มีลูกศิษย์ลูกหาเป็นจำนวนมาก