เชียงใหม่ - "ทักษิณ" กินมื้อเที่ยงอาหารเหนือส่งท้ายทัวร์บ้านเกิดเชียงใหม่ 3 วัน เผยสุดแฮปปี้อบอุ่นหลังห่างหายไป 17 ปีและสงกรานต์นี้ตั้งใจกลับมาอีก ชี้ฝุ่นควัน PM 2.5 วิกฤตหนัก เชื่อนายกรัฐมนตรีกำลังเร่งแก้ พร้อมลั่นเมินดรามาวิพากษ์วิจารณ์อาการเจ็บป่วย วอนเข้าใจหัวอกคนแก่อายุ 75 ปีที่จากบ้านเกิดไปนาน หากไม่ชอบหน้า ขอให้ต่างคนต่างอยู่
ช่วงเที่ยงวันนี้ (16 มี.ค. 67) นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นักโทษเด็ดขาดชายในคดีทุจริตที่อยู่ระหว่างการพักโทษ พร้อมครอบครัว ทั้งนายพายัพ ชินวัตร น้องชาย, นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาว รวมทั้งลูกๆ หลานๆ และผู้ติดตาม ร่วมกันรับประทานอาหารมื้อกลางวันที่ร้านลำดีตี้ขัวแดง เป็นร้านอาหารพื้นเมืองเหนือ ตั้งอยู่ติดกับมหาวิทยาลัยพายัพ โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักและอบอุ่น ก่อนที่จะเดินทางกลับกรุงเทพฯ ในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้
ทั้งนี้ หลังจากที่รับประทานอาหารกลางวันเสร็จแล้วและเตรียมเดินทางกลับ นายทักษิณเปิดเผยว่า การได้กลับมาเยี่ยมบ้านเกิดจังหวัดเชียงใหม่ในช่วงตลอด 3 วันที่ผ่านมานี้รู้สึกอบอุ่นและดีใจเป็นอย่างมาก ที่ในช่วง 17 ปีที่ผ่านมาต้องห่างหายไปทำให้คิดถึงมาก ซึ่งการได้กลับมาสัมผัสรสชาติอาหาร วัฒนธรรมและพบปะคนเก่าๆ ที่รู้จัก ทำให้รู้สึกกระชุ่มกระชวยเป็นอย่างมาก และในช่วงสงกรานต์ปีนี้ตั้งใจว่าอยากจะกลับมาเชียงใหม่อีก พร้อมบอกด้วยว่าในช่วงเข้าเที่ยวชมเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีช่วงเช้าวันนี้ได้ชมลูกเสือขาวที่เพิ่งเกิดใหม่จำนวน 1 ตัวและมีโอกาสได้ตั้งชื่อให้ด้วยว่า "The Only" เพราะเป็นลูกเสือขาวที่เกิดเพียงตัวเดียว จากปกติที่มักจะเกิดครั้งละ 2 หรือ 3 ตัว
สำหรับปัญหาสำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ที่พบในช่วงที่กลับมาครั้งนี้นั้น นายทักษิณระบุว่า ปัญหาฝุ่นควัน PM 2.5 เป็นปัญหาที่หนักที่สุด ซึ่งทางนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กำลังพยายามแก้ไขปัญหาอยู่ และอีกปัญหาที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ ความแห้งแล้ง ซึ่งอยากให้ฟื้นฟูพื้นที่สีเขียวโดยไม่จำเป็นต้องใช้น้ำมาก ทั้งนี้ หากสามารถทำได้ก็จะส่งผลดีทำให้อากาศดีขึ้นด้วย อย่างไรก็ตาม ประเด็นสำคัญคือเศรษฐกิจต้องดี เพราะปากท้องเป็นเรื่องสำคัญ หากเศรษฐกิจดีแล้ว ทุกๆอย่างก็จะดีขึ้นหมด
สำหรับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจนั้น ทางนายกรัฐมนตรีวางแผนและพยายามแก้ไขปัญหาอยู่เพื่อทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น โดยส่วนตัวให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีในทุกๆเรื่องเพราะทราบดีว่าการทำงานในทุกวันนี้ยากกว่าแต่ก่อน และยากกว่าการแก้ปัญหาในช่วงหลังวิกฤตต้มยำกุ้งอีก เนื่องจากปัญหามีความซับซ้อนมากกว่า อย่างไรก็ตาม เชื่อว่านายกรัฐมนตรีทราบว่าต้องทำอย่างไร จึงต้องช่วยกันให้กำลังใจในการทำงาน
ส่วนประเด็นดรามาและเสียงวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการรักษาตัวและอาการเจ็บป่วยนั้น นายทักษิณบอกว่าดรามาก็คือดรามา และดรามาก็คือเรื่องไม่จริง ซึ่งไม่เป็นอะไรที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ เพราะจิตใจสำคัญที่สุด หากแย่ก็จะทำให้ทุกอย่างแย่ไปด้วย โดยในส่วนของตัวเองนั้น มีกำลังใจดีที่ได้อยู่กับลูกๆ 3 คนและ หลาน 7 คน ถือเป็นความสุขสำหรับคนแก่อายุ 75 ปี จึงอยากให้เข้าใจคนแก่อายุ 75 ปีที่ต้องจากบ้านเกิดเมืองนอนไปนานบ้าง หากใครไม่ชอบหน้าตัวเอง ก็ขอให้ต่างคนต่างอยู่ดีกว่า
ขณะเดียวกัน นายทักษิณบอกว่า เวลานี้ตัวเองมีกำลังใจดี แต่ยอมรับว่ายังมีปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับเรื่องกระดูกคออยู่ ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องมาจากการป่วยติดเชื้อโควิด-19 จนต้องเข้ารักษาตัวในห้อง ICU นานถึง 9 วันและตอนนี้ยังมีอาการที่ปอดอยู่ ซึ่งตัวเองยอมรับความจริงที่มีอายุ 75 ปีแล้ว แต่ไม่ยอมรับความแก่ ทั้งๆ ที่มันคือธรรมชาติ โดยในช่วง 6 เดือนที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลนั้นติดตามข่าวสารและเป็นห่วงปัญหาของบ้านเมืองมาโดยตลอดหากมีข้อกังวลใจอะไรก็จะจดไว้เพื่อให้ข้อแนะนำในการช่วยกันแก้ปัญหา ส่วนการเดินสายพบมวลชนกลุ่มต่างๆ ที่สนับสนุนนั้น เวลานี้ยังไม่ได้คิด เพราะอยากใช้เวลาอยู่กับครอบครัว ซึ่งอย่าเพิ่งน้อยใจ เพราะทุกอย่างต้องใช้เวลา และตัวเองต้องระมัดระวังความประพฤติด้วย รวมทั้งตัวเองเพิ่งมาถึงบ้านด้วย
ทั้งนี้ นายทักษิณพูดทิ้งท้ายด้วยอารมณ์ขันว่า ขนาดตัวเองเดินทางด้วยเครื่องบินแต่ยังถึงบ้านช้ากว่านั่งเรือเสียอีก เพราะ ต้องรอนานถึง 6 เดือนกว่าจะได้เข้าบ้าน จากนั้นได้เดินขึ้นรถตู้เพื่อไปขึ้นเครื่องบินเดินทางกลับกรุงเทพฯ