ประจวบคีรีขันธ์ - พบจดหมายของเลขาฯ สาว 2 ฉบับ ฉบับแรกเป็นพินัยกรรมยกบ้านและที่ดินให้ลูกสาวทั้ง 2 คน ส่วนฉบับที่สอง บอกว่าทุกอย่างเป็นอุบัติเหตุ เอาปืนมาเล่นกัน จนเกิดปืนลั่นใส่เศรษฐีนี
จากเหตุการณ์ช่วงเช้าวันนี้ (10 มี.ค.) ลูกชายและลูกสะใภ้ของนางพัด (นามสมมติ) รู้สึกผิดสังเกตที่ติดต่อแม่ไม่ได้หลายวัน จนเดินทางจากกรุงเทพมหานคร มาหาแม่ที่หัวหิน แต่พบบ้านปิดล็อก แต่แอร์ยังทำงานอยู่ปีนเข้าไปทางหลังบ้าน และได้กลิ่นเหม็นโชยรุนแรง จึงแจ้งตำรวจเข้าตรวจสอบ กระทั่งพบร่างมารดา อายุ 64 ปี เจ้าของธุรกิจหล่อพระ สังฆภัณฑ์ ทำโต๊ะมุก ผ้าม่านในอำเภอหัวหิน ถูกยิงเข้าที่หน้าอกเสียชีวิต ใกล้กันยังพบร่างของนางสุ เลขาฯ อายุ 46 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนกล็อก 19 ขนาด 9 มม.กระสุนเข้าที่ศีรษะ เสียชีวิตอยู่ในห้องกระจกในบ้านพักที่เป็นตึกแถว 3 ชั้น ริมถนนคันคลองชลประทาน เขตเทศบาลเมืองหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ล่าสุด พ.ต.อ.กัมปนาท ณ วิชัย ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหัวหิน เผยว่า นางพัด เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 7 วัน สภาพสวมเสื้อชั้นใน กางเกงชั้นใน ส่วนนางสุ เลขาฯ เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 5 วัน สภาพเสื้อผ้าคล้ายชุดนอน พบอาวุธปืนในที่เกิดเหตุ เป็นอาวุธปืนกล็อก 19 ขนาด 9 มม. ยังมีกระสุนในรังเพลิง
โดยการตรวจสอบเบื้องต้นตั้งประเด็นการเกิดเหตุว่า อย่างแรกเป็นการฆ่าตัวตาย อย่างที่สอง เป็นอุบัติเหตุปืนลั่นและมีการฆ่าตัวตาย จากนั้นได้นำร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย ส่งชันสูตรที่แผนกนิติเวช โรงพยาบาลหัวหิน เพื่อให้ทราบสาเหตุของการเสียชีวิต ส่วนอาวุธปืนให้พิสูจน์หลักฐานตรวจพิสูจน์ DNA ว่าเป็นของใคร พร้อมกันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดทั้งในบ้านและนอกบ้าน ซึ่งในเบื้องต้นจากการตรวจแล้วคาดว่าจะเป็นบุคคล 2 คนที่เกิดเหตุฆาตกรรมกันเอง
ทั้งนี้ มีรายงานว่าจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบโกศบรรจุกระดูกวางตั้งอยู่ 2 อัน และพบพินัยกรรม และจดหมายลาตายของนางสุ โดยฉบับแรก ระบุวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 ใจความว่า ถ้านางสุ ได้เสียชีวิตลงด้วยเหตุอันใดก็ตามขอมอบบ้านและที่ดิน 2 แปลงให้ลูกสาวทั้ง 2 คน โดยแบ่งให้คนละ 50% ส่วนสามีชาวต่างชาติให้อยู่ในบ้านและที่ดินได้จนวันตาย แต่ไม่มีสิทธิในที่ดินและบ้าน
ส่วนฉบับที่ 2 ระบุว่า ทุกอย่างเป็นอุบัติเหตุ เอาปืนมาเล่นโชว์กัน แล้วปืนเกิดลั่นใส่พี่ภัทร ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ซึ่งทางตำรวจได้เก็บจดหมายทั้ง 2 ฉบับไว้เป็นหลักฐาน เพื่อสืบหาข้อเท็จจริงต่อไป