สกลนคร-หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดสกลนคร ระดมสรรพกำลัง ป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กPM2.5 เร่งสร้างการรับรู้ ทั้งภาคการเกษตรและอุตสาหกรรมหลังพบว่า 2-3 วันที่ผ่านมาค่าฝุ่นจิ๋วมีค่าที่มีผลกระทบต่อสุขภาพแล้ว
วันนี้( 8 มี.ค.)เวลา 15.30 น. ที่ลานพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 อำเภอเมืองสกลนคร นายวีระ ฤกษ์วาณิชกุลย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนครพร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ที่ดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 หลังจากพบว่า ในช่วง 2-3 วันนี้ จังหวัดสกลนคร มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 อยู่ในระดับค่าที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ คือ 49.2 ไมโครกรัม/ลบ.ม.
โดยมีการฉีดพ่นละอองน้ำเพื่อสร้างความชุ่มชื้นในอากาศและลดการกระจายตัวของฝุ่นละอองขนาดใหญ่และขนาดเล็กให้อยู่ในระดับปกติ ซึ่งได้รับการสนับสนุนเครื่องจักรกลยานยนต์ดับเพลิงฉีดหมอกน้ำ ด้วยระบบควบคุมระยะไกล (LUF 60) และรถดับเพลิงชนิดหอน้ำ จากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 7 สกลนคร พร้อมการสนับสนุนรถบรรทุกน้ำจากหน่วยงานภาคีเครือข่าย
ได้แก่ เทศบาลนครสกลนคร มณฑลทหารบกที่ 29 แขวงทางหลวงสกลนครที่ 1 พร้อมบุคลากรจากด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สถานีควบคุมไฟป่าภูพาน จังหวัดสกลนคร สำนักงานขนส่งจังหวัดสกลนคร สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสกลนคร และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสกลนคร
นายเกรียงไกร จิตธรรม หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสกลนคร กล่าวว่า จากการรายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศ โดยสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสกลนครพบว่า ในช่วง 2-3 วันนี้ คุณภาพอากาศในพื้นที่จังหวัดสกลนคร เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยพบจุดค่าความร้อนหรือ Hot Spot 37 จุด ทั้งในเขตพื้นที่ป่าอนุรักษ์ เขตพื้นที่ สปก. และป่าสงวนฯ เพื่อร่วมกันป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5
จึงต้องรณรงค์ สร้างการรับรู้ ทั้งงดเผาในพื้นที่การเกษตร งดเผาเพื่อหาของป่า ควบคุมควันดำจากการเผาไหม้ในโรงงานอุตสาหกรรม และเขม่าหรือควันดำปล่อยออกมาทางท่อไอเสียของรถยนต์ ซึ่งส่งผลต่อ สุขภาพของประชาชน ทั้งนี้ โรงพยาบาลทั้ง 19 แห่งในพื้นที่จังหวัดสกลนคร ได้จัดทำห้องปลอดฝุ่น (Clean Room) เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการดูแลผู้ได้รับผลกระทบทางสุขภาพจากปัญหาฝุ่นพิษ หรือฝุ่น PM2.5 โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ และผู้มีโรคประจำตัว.