สุพรรณบุรี - "น้องขนุน" ลูกสิงโตของกลางจากจังหวัดภูเก็ต ถึงเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก จ.สุพรรณบุรีแล้ว เนื่องจากทางสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 ไม่มีความพร้อมของสถานที่ในการดูแลลูกสิงโตของกลาง
นายอนันต์ ศรีผุดผ่อง หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวากและศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก เปิดเผยว่า ทีมสัตวแพทย์ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 (นครศรีธรรมราช) นำส่งลูกสิงโต เพศเมีย จำนวน 1 ตัว ชื่อขนุน อายุประมาณ 2-3 เดือน น้ำหนัก 7.3 กิโลกรัม ให้แก่ศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก จ.สุพรรณบุรี เพื่อดูแล ซึ่งเป็นลูกสิงโตที่ถูกยึดมาจากหญิงชาวจีนในจังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 67 ที่ผ่านมา
พบว่าสถานที่เลี้ยงไม่ตรงตามหลักเกณฑ์ และไม่เหมาะสมที่ออกใบอนุญาตให้เลี้ยงได้ เมื่อตรวจสอบไมโครชิปพบว่าลูกสิงโตตัวดังกล่าวไม่มีไมโครชิป ซึ่งไม่ตรงกับเอกสารหมายเลขไมโครชิปที่เจ้าของนำแสดงให้ตรวจสอบตอนแรกแต่อย่างใด
สพ.ญ.สลิลธร ทองสงวน นายสัตวแพทย์ชำนาญการ ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 (นครศรีธรรมราช) กล่าวว่า เนื่องจากทางสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 ไม่มีความพร้อมของสถานที่ในการดูแลลูกสิงโตของกลาง จึงส่งมาศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก (สวนสัตว์บึงฉวาก) จ.สุพรรณบุรี เนื่องจากมีความพร้อมในการดูแล นอกจากนี้ ยังมีน้องขนม ซึ่งเป็นสิงโตที่มีวัยใกล้เคียงกันอีกด้วย
สพ.ญ.ณฐนน ปานเพ็ชร นายสัตวแพทย์ชำนาญการ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก และศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก กล่าวเพิ่มเติมว่า สัตวแพทย์ประเมินสุขภาพร่างกายของลูกสิงโตโดยทั่วไป พบว่า ปกติ ซึ่งจะต้องทำการประเมินสุขภาพอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยจะต้องทำการเจาะเก็บเลือดตรวจทางห้องปฏิบัติการต่อไป
ทั้งนี้ ศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก ได้เตรียมเจ้าหน้าที่สำหรับเลี้ยงลูกสิงโตของกลางตัวดังกล่าวไว้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยลูกสิงโตจะต้องกินนมผงชนิด KMR ทุก 2-3 ชั่วโมง และเริ่มให้กินเนื้อวัวสับละเอียดเล็กน้อยทุกวัน