ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - 22 องค์กรเครือข่ายอนุรักษ์รอบเขาใหญ่วอน "นายกฯเศรษฐา" ตั้ง กก.คนกลางสอบข้อเท็จจริงหมุด ส.ป.ก.ปริศนาโผล่ฮุบป่าอุทยานฯ เขาใหญ่ มรดกโลก พร้อมเปิดข้อมูลต่อสาธารณะ ไม่เชื่อมั่นหน่วยงานสอบกันเอง หวังกระชากหน้ากากกลุ่มทุนอยู่เบื้องหลัง พร้อมจี้เชือด จนท.รัฐทำผิดเฉียบขาด ไม่ใช่แค่เด้งพ้นพื้นที่
วันนี้ (20 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีพิพาทการปักหมุด ส.ป.ก.4-01 บุกรุกพื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งเป็นผืนป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ แหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติ บริเวณด้านในถนนแนวกันไฟ บ้านเหวปลากั้ง หมู่ 10 ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา กว่า 72 แปลง พื้นที่กว่า 2,933 ไร่ ตามระวางและแผนผังของสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม จ.นครราชสีมา ซึ่งสร้างความกังขาให้หลายฝ่ายเป็นอย่างมากนั้น
ล่าสุดทางด้านความเคลื่อนไหวการขับเคลื่อนของ 22 องค์กรเครือข่ายอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมรอบอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ นำโดย นางสาวพันชนะ วัฒนเสถียร แกนนำองค์กรเครือข่ายฯ เปิดเผยว่า เรายังเดินหน้าเพื่อตรวจสอบประเด็นหมุดปริศนา ส.ป.ก.4-01 อย่างเข้มข้น โดยเฉพาะข้อมูลข้อเท็จจริงที่ทางเราได้ยื่นเอกสารถึง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไปแล้ว ซึ่งจะให้เวลาหน่วยงานได้ตรวจสอบ
แต่หากยังไม่ชัดเจน หรือดูแล้วมีพิรุธ เครือข่าย 22 องค์กรพร้อมเดินต่อด้วยการยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีให้เข้ามาดูแลปัญหาดังกล่าว เพราะเขาใหญ่ไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นของคนไทยทุกคน
โดยการตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวนั้น ต้องเป็นคนกลางไม่ใช่คนของหน่วยงาน เพราะสังคมมองว่าไม่เป็นกลาง และที่สำคัญอาจจะไม่ได้ข้อมูลข้อเท็จจริงชัดเจน จึงอยากเรียกร้องให้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ตั้งคณะกรรมการที่เป็นคนกลางทั้งหมดมาตรวจสอบในเรื่องดังกล่าวอย่างเร่งด่วน และเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณชนว่าใครคือผู้อยู่เบื้องหลังการกระทำดังกล่าวนี้ให้ชัดเจน
ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความกระจ่าง และหากเกิดการเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุนที่เข้าไปบุกรุก รวมถึงเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำผิดต้องดำเนินการลงโทษอย่างเฉียบขาดรวดเร็วและเกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย ไม่ใช่แค่การย้ายออกไปจากพื้นที่เท่านั้น