กาญจนบุรี - ดาวเทียม SUOMI NPP (ระบบ VIIRS) ตรวจพบจุดความร้อน (HOTSPOT) จ.กาญจน์ 96 จุด ส่วนการลุยป่าดับไฟต้องชะงักเพราะช้างป่า ด้านการบินทิ้งน้ำสะสม 6 วัน 54 เที่ยว 162,000 ลิตร ด้านกำนันตึ๋ง เตือนประชาชนหลังพบช้างป่าลงเล่นน้ำห่างชุมชนแค่ 200 เมตร ร่วม 30 ตัว
วันนี้ (16 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี โดยดาวเทียว SUOMI NPP ระบบ VIIRS ตรวจพบจุดความร้อนในพื้นที่ จำนวน 96 จุด ประกอบด้วยพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ 50 จุด เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ 7 จุด อุทยานแห่งชาติไทรโยค 10 จุด อุทยานแห่งชาติลำคลองงู 11 จุด เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก 12 จุด อุทยานแห่งชาติเอราวัณ 3 จุด และเขตห้ามล่าสัตว์ป่าศรีสวัสดิ์ 3 จุด
ขณะที่นายอุทัย ขันทอง รรท.หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี ได้รายงานสถานการณ์ไฟป่าให้ร้อยโททศพล ไชยโกมินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ทราบเมื่อวันที่ 15 ก.พ.67 ว่า ตั้งแต่วันที่ 10-15 ก.พ. ตนพร้อมด้วยนายสพลทวรรธ วงษ์คำ ผู้ช่วย ปภ.กาญจนบุรี และนายชาติ ศรีสุข หัวหน้าศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 2 สุพรรณบุรี นายอาทิตย์ สร้อยแสง เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี ร่วมกับนายอนันต์ โพธิ์พันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) นายประวัฒน์ พวงทอง ผู้อำนวยการส่วนควบคุมและปฏิบัติการไฟป่า
นายมานะ เพิ่มพูล ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์สั่งการและติดตามสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควัน (War Room) รรท.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ นายทศพร รักจันทร์ ผู้อำนวยการส่วนฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์ นายสิขกพงษ์ กระแจะจันทร์ ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์และป้องกันทรัพยากร นางคณิสรา เชฐบัณฑิตย์ ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ หัวหน้าหน่วยงานภาคสนาม และเจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) ได้ร่วมกันประชุมวางแผนตรวจติดตามสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี เพื่อติดตามวางแผนแก้ไขสถานการณ์ไฟป่า ให้การดำเนินการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและควบคุมสถานการณ์ไฟป่าได้อย่างทันท่วงที
ตลอด 6 วันที่ผ่านมา กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)ได้ส่งเฮลิคอปเตอร์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รุ่น KA-32 ที่มีประสิทธิภาพสูง จำนวน 1 ลำ มาร่วมปฏิบัติการดับไฟป่ากับเฮลิคอปเตอร์จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่มีอยู่อีก 1 ลำ โดยวันที่ 15 ก.พ.เฮลิคอปเตอร์กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้บินทิ้งน้ำดับไฟป่าบริเวณป่าอนุรักษ์พื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ และอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ รวม 11 เที่ยวๆ ละ 500 ลิตร ได้ปริมาณน้ำ จำนวน 5,500 ลิตร บินทิ้งน้ำสะสม 42 เที่ยวบิน ได้ปริมาณน้ำ 21,000 ลิตร ภายใน 6 วัน ฮ.บินทิ้งน้ำสะสม 54 เที่ยว ได้ปริมาณน้ำดับไฟป่าสะสม 162,000 ลิตร โดยมีเจ้าหน้าที่ชุดเสือไฟเดินเท้าเข้าดับไฟป่าภาคพื้นดิน 100 นาย
ส่วนสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีพบว่ามีปริมาณจุดความร้อนอยู่บ้าง เจ้าหน้าที่ชุดเสือไฟเข้าควบคุมจุดความร้อน hotspot จำนวน 2 ชุดใหญ่ รวม 260 นาย การปฏิบัติภารกิจเข้าดับไฟป่าภาคพื้นดินเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากสภาพพื้นที่เป็นป่าและภูเขาสลับซับซ้อน อีกทั้งเจ้าหน้าที่พบกับช้างป่า ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเพิ่มความระมัดระวังเพิ่มขึ้น สำหรับภารกิจในวันนี้ (16 ก.พ.) จะเริ่มประชุมหารือเพื่อวางแผนในเวลา 09.00 น.จากนั้นจะออกปฏิบัติภารกิจดับไฟป่าเหมือนทุกวันที่ผ่านมา
ด้านนายวสันต์ สุนจิรัตน์ กำนันตำบลช่องสะเดา อ.เมือง จ.กาญจนบุรี กล่าวว่า เวลา 18.00 น.วันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา ตนพร้อมด้วยนางละออ ภู่ประดิษฐ์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 บ้านท่าทุ่งนา ตำบลช่องสะเดา ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบช้างป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระเป็นจำนวนมากออกมาเล่นน้ำในฝายของหมู่บ้านในพื้นที่ หมู่ 5 ต.ช่องสะเดา ดังนั้นจึงรีบไปตรวจสอบเพื่อเฝ้าระวัง
เมื่อไปถึงพบช้างป่าประมาณ 30 ตัว กำลังลงเล่นน้ำเพื่อคลายความร้อนจากอากาศและความร้อนที่เกิดจากไฟป่าอยู่ โดยฝายที่ช้างป่าเล่นน้ำอยู่ห่างจากหมู่บ้านเพียงแค่ประมาณ 200 เมตร เท่านั้น ดังนั้นตนจึงรีบประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านระมัดระวังตัวหากไม่จำเป็นอย่าออกจากบ้านโดยเด็ดขาดโดยเฉพาะเด็กและคนชรา เพราะเกรงว่าทุกคนอาจจะได้รับอันตราย เนื่องจากสภาพอากาศอาจทำให้ช้างป่ามีอาการหงุดหงิดได้ง่าย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเดียวกันสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกาญจนบุรี ได้รายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศของจังหวัดกาญจนบุรี ประจำวันที่ 16 ก.พ.โดยสถานีตรวจวัด ต.บ้านเหนือ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ว่า “ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 มีค่า 117.0 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร คุณภาพอากาศมีผลกระทบต่อสุขภาพ” แนะนำให้ประชาชนชาวกาญจนบุรีทุกคนควรหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีมลพิษทางอากาศสูง และหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หากมีความจำเป็นต้องอยู่ที่กลางแจ้งควรสวมใส่หน้ากากกันฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน ถ้ามีอาการทางสุขภาพควรปรึกษาแพทย์
สำหรับจุดความร้อน (Hotspot) ที่พบในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ในวันนี้ 352 จุด จุดที่พบประกอบด้วย พื้นที่ป่าอนุรักษ์ 195 จุด ป่าสงวน 77 จุด เขต ส.ป.ก.5 จุด พื้นที่เกษตร 6 ริมทางหลวง 2 จุด และพื้นที่อื่นๆ 67 จุด เส้นทางการเคลื่อนที่ของฝุ่นละอองมาจากแหล่งกำเนิดทั้งภายในและภายนอกจังหวัด