ตาก - กุหลาบพบพระยังยืนหนึ่ง..แม้ภาวะโลกร้อนทำพื้นที่ปลูกที่เคยมีมากที่สุดในประเทศลดลงต่อเนื่อง แต่ออเดอร์กุหลาบวาเลนไทน์ยังทะลักจนต้องระดมแรงงานเร่งตัดส่งมือเป็นระวิง ขณะที่ “กุหลาบมหัศจรรย์-กุหลาบโหลแก้ว” ยังขายดีข้ามทศวรรษ
ขณะนี้ชาวสวนกุหลาบพบพระ จ.ตาก ต่างเร่งนำแรงงานที่ส่วนใหญ่ล้วนเป็นชาวพม่า ลงมือตัดดอกไม้สัญลักษณ์แห่งความรัก ซึ่งความนิยมในดอกไม้ชนิดนี้นับวันมีแต่จะมากขึ้น ทำให้บางช่วงเวลาดอกกุหลาบถึงกับขาดตลาด โดยเฉพาะช่วงเทศกาลวาเลนไทน์
นางสาวชวิศา สุริยา เกษตรอำเภอพบพระ กล่าวว่า อำเภอพบพระเริ่มปลูกกุหลาบ-ตัดดอกขายกันมาตั้งแต่ปี 2536 เนื่องจากสภาพทางภูมิศาสตร์เป็นที่สูง อากาศเย็น โครงสร้างดินดี น้ำดี เหมาะสมกับการปลูกกุหลาบตัดดอก จนเป็นแหล่งปลูกกุหลาบที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ เคยปลูกกันมากที่สุดกว่า 6 พันกว่าไร่
แต่ด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ภาวะโลกร้อน เหมาะสมกับการระบาดของโรคและแมลง ประกอบกับต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สวนทางกับราคาผลผลิตที่ลดลง ส่งผลให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนพืชปลูกเป็นพืชทางเลือก เช่น ปลูกทุเรียน อะโวคาโด กล้วยหอม กล้วยไข่ ฯลฯ แซมสวนกุหลาบ เมื่อพืชทางเลือกได้อายุให้ผลผลิต พื้นที่ปลูกกุหลาบจึงลดลงมาก ปัจจุบันคงเหลือพื้นที่ปลูกประมาณ 800 ไร่ และมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง
นายภราดร กานดา เจ้าของไร่กุหลาบ “ปฐมเพชร” บ้านเสรีราษฎร์ ต.ช่องแคบ อ.พบพระ จ.ตาก กล่าวว่า แนวคิดแปรรูปกุหลาบสดบรรจุขวดโหลเป็นกุหลาบมหัศจรรย์ หรือกุหลาบในโหลแก้ว ทำมาหลายสิบปีแล้ว และสภาพกุหลาบในโหลแก้วยังคงที่ได้ถึง 22 ปี ขณะนี้ยังเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว เป็นของฝากของชำร่วย ยอดสั่งทำสั่งซื้อมีจำนวนมากตลอดทั้งปี
ขั้นตอนการแปรรูปกุหลาบ เริ่มจากการนำดอกกุหลาบที่ตัดก้านแล้วมาแช่น้ำเพื่อให้ดอกกุหลาบบานได้ที่และคงความสด ทิ้งไว้ 1 คืน แล้วนำมาเข้าสู่กระบวนการเขี่ยดอก หรือเรียกว่าตกแต่ง ด้วยการใช้ซิลิกาทราย ซึ่งนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นโรยลงไปในดอกกุหลาบแล้วเคาะออก เพื่อให้ทรายดูดน้ำและความชื้นจากกลีบกุหลาบให้แห้งสนิท
จากนั้นนำดอกกุหลาบบรรจุในภาชนะที่รองด้วยซิลิกาทราย โดยตั้งดอกกุหลาบขึ้น แล้วใช้ซิลิกาทรายกลบดอกกุหลาบจนมิด ปิดฝาภาชนะให้สนิท นำเข้าตู้อบที่อุณหภูมิประมาณ 45 องศาเซลเซียส นาน 1-2 สัปดาห์ จึงนำดอกกุหลาบมาเคาะทรายออก แล้วตกแต่งบรรจุลงในขวดรูปทรงต่างๆ
ส่วนราคาจำหน่ายนั้นจะขึ้นอยู่กับจำนวนดอกกุหลาบและขนาดโหลแก้วที่บรรจุ โดยเริ่มตั้งแต่ราคา 100-2,500 บาท หรือตามจำนวนดอกกุหลาบที่สั่งทำ
ด้านนายธันย์ปวัฒน์ ภูริวัฒนเมธา นายอำเภอพบพระ กล่าวว่า ได้ลงพื้นที่สำรวจสวนกุหลาบ เพื่อเป็นข้อมูลพื้นฐาน และเป็นกำลังใจให้เกษตรกรที่ปลูกกุหลาบ เนื่องจากพื้นที่อำเภอพบพระเคยขึ้นชื่อเป็นแหล่งสวนกุหลาบสวยงามและเป็นพื้นที่ปลูกกุหลาบมากที่สุดในประเทศไทยสร้างรายได้ให้เกษตรกรในพื้นที่มาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะในห้วงเทศกาลวันแห่งความรักที่กำลังจะมาถึงนี้ ถือเป็นโอกาสทองของเกษตรกรทุกปี
สำหรับปีนี้ในส่วนของอำเภอพบพระจะจัดกิจกรรมวันวาเลนไทน์ภายใต้ธีม "พบเธอพบรักที่พบพระ” รับจดทะเบียนสมรส และมีของที่ระลึกฝากให้กับคู่สมรสที่มาจดทะเบียนวันที่ 14 กุมภาพันธ์นี้ด้วย