ตราด - ฉก.นย.182 จับกุมเครือข่ายค้าอาวุธสงครามนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน คาดเป็นขบวนการค้าอาวุธส่งขายให้ชนกลุ่มน้อยในพื้นที่ภาคเหนือที่ยังมีการสู้รบกันอยู่ ประเมินมูลค่าการจับกุมในครั้งนี้กว่าล้านบาท
เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (9 ก.พ.) น.อ.นฤมิต ศุขสมิติ ผู้บังคับหน่วยนาวิกโยธินตราด (ผบ.ฉก.นย.ตราด) พร้อมด้วยนายพีระ เอี่ยมสุนทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด น.ท.ชยพล ตันติวิท ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินที่ 182 และตัวแทน กอ.รมน.ตราด ศรชล.ตราด ตำรวจภูธรจังหวัดตราด สภ.ตราด และฝ่ายปกครองอำเภอคลองใหญ่ ได้ร่วมกันแถลงผลจับกุมอาวุธสงคราม
หลังเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน 182 สามารถตรวจยึดจับกุมได้เมื่อเวลา 03.40 น.ที่ผ่านมา และจากการประเมินมูลค่าอาวุธสงครามคาดว่าน่าจะมีมูลค่าถึง 1 ล้านบาท แต่หากนำไปจำหน่ายให้ชนกลุ่มน้อยราคาอาวุธปืนจะสูงขึ้นถึงกระบอกละ 1 แสนบาท
น.อ.นฤมิต เผยว่า การจับกุมดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของ พล.ร.ท.สมรภูมิ จันโท ผู้บัญชาการนาวิกโยธิน ที่กำชับให้เข้มงวดกวดขันและเฝ้าระวังบุคคล กลุ่มบุคคลในขบวนการลักลอบค้าอาวุธสงคราม และสิ่งผิดกฎหมายตามแนวชายแดน กระทั่งสามารถตรวจยึดอาวุธปืนและเครื่องกระสุนได้หลายหลายรายการทั้งในพื้นที่ อ.สอยดาว จ.จันทบุรี
และการตรวจค้นเรือหางยาวต้องสงสัยขณะลอยลำกลางทะเลหน้าหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน 182 ที่ตั้ง หมู่ 4 ต.หาดเล็ก อ.คลองใหญ่ โดยมี นายแหรน (ไม่มีนามสกุล) อายุ 20 ปี ชาวกัมพูชา เป็นผู้ควบคุมเรือ โดยพบกล่องกระดาษพันด้วยเทปกาวหนาแน่น จำนวน 2 กล่อง ซึ่งภายในมีอาวุธสงครามพร้อมเครื่องกระสุนจำนวนมาก เช่น ปืนเล็กยาว M 16 ปืนเล็กยาว AK 47 ซองกระสุน M 16 กระสุนปืน AK 47
จากการสอบสวน นายแหรน ในเบื้องต้นยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะนำอาวุธสงครามทั้งหมดไปให้ใคร แต่เจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะมีเป้าหมายการส่งมอบไปยังชนกลุ่มน้อยในพื้นที่ภาคเหนือที่ยังมีการสู้รบกันอยู่ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางไป ฉก.นย.182 เพื่อทำการสอบสวนอย่างละเอียด ก่อนส่งตัวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองใหญ่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขณะเดียวกัน ยังน่าเชื่อว่าการค้าอาวุธสงครามในครั้งนี้อาจจะเชื่อมโยงกับการลักลอบการค้าอาวุธสงครามที่ จ.จันทบุรี ที่ก่อนหน้านี้เคยมีการจับกุมได้ถึง 2 ครั้งในช่วงปลาย ม.ค.ที่ผ่านมา และน่าจะเป็นขบวนการเดียวกันกับที่ถูกจับกุมได้ในปี 2560-2561 ซึ่งมีเป้าหมายนำไปจำหน่ายให้ชนกลุ่มน้อยที่มีการสู้รบกันอยู่
ด้าน พ.ต.อ.ธนกฤษ พาภิรมย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ตราด เผยว่า ตำรวจภูธรภาค 2 จะได้สืบสวนในเชิงลึกต่อไปว่าอาวุธดังกล่าวเชื่อมโยงกับการสู้รบของชนกลุ่มน้อยในภาคเหนือหรือไม่
