นครพนม - บานปลายวุ่นวายไม่จบปัญหาตรวจสอบยักยอกเงินวัดพระธาตุพนม หลัง ป.ป.ช.สั่งสอบปมยักยอก เงินวัด กลุ่มไวยาวัจกรที่ถูกสั่งปลดโต้กลับท้าวัดเปิดสถานะบัญชีล่าสุดเพื่อความโปร่งใส พร้อมเข้าแจ้งความปมคำสั่งปลดมิชอบด้วยกฎหมาย เชื่อมีขบวนการอยู่เบื้องหลัง หวังเข้าดูแลผลประโยชน์วัดแทน ด้าน ป.ป.ช.นครพนม ยันมีอำนาจสอบตามกฎหมาย ตำแหน่งไวยาวัจกรถือเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ
ความคืบหน้าปมยักยอกเงินวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม เริ่มบานปลาย หลัง พระธรรมวชิรโสภณ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนม ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 10 ลงนามออกคำสั่งให้ไวยาวัจกรวัดพระธาตุพนม 3 คน และ กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ 1 คน หยุดปฏิบัติหน้าที่ ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 เนื่องจากมีคนร้องเรียนให้ ป.ป.ช.นครพนมเข้าตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัดพระธาตุพนม ซึ่งไวยาวัจกร ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่เป็นที่น่าสังเกตมีคำสั่งไวยาวัจกรวัดหยุดทำหน้าที่เพียง 3 คน จากทั้งหมด 6 คน ส่วนกรรมการวัดมีแค่ 1 คน จากทั้งหมด 14 คน
นอกจากนี้ยังพบว่าทางอำเภอธาตุพนม ฝ่ายปกครอง ร่วมกับคณะกรรมการวัดที่เหลือเข้ามาดูแลบริหารจัดการเรื่องรายได้ การดูแลผลประโยชน์วัด รวมถึงการเปิดเช่าพื้นที่ขายสินค้า ในงานพระธาตุพนม ประจำปี 2567 กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17-25 กุมภาพันธ์ 2567
โดยทางนายอำเภอธาตุพนมยืนยันว่า เป็นการจัดระเบียบใหม่ และมีการตรวจนับเงินบริจาค สรุปยอดวันต่อวันเพื่อความโปร่งใส กลายเป็นสาเหตุความไม่พอใจให้กลุ่มไวยาวัจกรวัดพระธาตุพนมที่ถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ได้ออกมาเรียกร้องให้ ป.ป.ช. หน่วยงานเกี่ยวข้องตรวจสอบ มั่นใจว่าเป็นคำสั่งมิชอบ เป็นการโยนความผิดให้พวกตน ทั้งที่ยังไม่มีการสรุปผลสอบการยักยอกเงินวัดออกมา
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด นายปริญญา ฤทธิ์ตา หัวหน้ากลุ่มงานป้องกันการทุจริตสำนักงาน ป.ป.ช.จังหวัดนครพนม ยืนยันว่ามีการร้องเรียนเกี่ยวกับการเงินวัดพระธาตุพนมจริง แต่ไม่สามารถให้รายละเอียดได้ และเป็นอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช.ตามกฎหมาย ซึ่งตามกฎหมายทางวัดถือเป็นนิติบุคคล รวมถึงไวยาวัจกรวัด ถือเป็นเจ้าหน้าที่รัฐตามกฎหมาย ส่วนการออกคำสั่งชอบหรือไม่ในการปลด ไวยาวัจกรวัด ถือเป็นอำนาจของคณะสงฆ์ หรืออำนาจของวัด ที่เป็นคนละส่วนของอำนาจหน้าที่ ป.ป.ช.
ล่าสุดทางด้าน นายวิวัฒนชัย คงเพชร อายุ 66 ปี กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ยังคงเดินหน้านำเอกสารหลักฐาน พร้อมกลุ่มไวยาวัจกรวัดที่ถูกกล่าวหาในทางเสื่อมเสีย เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.ธาตุพนม เพื่อเตรียมเอาผิดคนที่ออกคำสั่งปลด หรือหยุดปฏิบัติหน้าที่ เพื่อความเป็นธรรม พร้อมเปิดเผยว่า ตนทำงานดูแลบริหารจัดการวัดร่วมกับพี่น้องประชาชนมานานหลายสิบปี สุดท้ายกลับถูกกล่าวหาว่าเป็นคนยักยอกเงินวัด ถึงแม้จะมีคำสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่ไม่ต่างจากปลด และมีการเผยแพร่หนังสือคำสั่งข้อมูลให้คนรู้ทั้งโลก
“เชื่อว่าทุกคนเข้าใจว่าผมยักยอกเงินวัดสร้างความเสื่อมเสียเกียรติยศ ชื่อเสียง ทั้งที่ทำคุณงามความดีมาหลายปี รวมถึงรับราชการมาตลอดชีวิต โดยมีข้อสังเกตว่า ในการตรวจสอบการเงินวัดของ ป.ป.ช. ผมเข้าใจในการทำหน้าที่ แต่คาใจคือยังไม่มีข้อสรุปว่าใครผิดใครถูก หรือมีการทุจริต แต่กลับสั่งผมหยุดปฏิบัติหน้าที่ ถือเป็นการกล่าวหา เพราะการตั้งไวยาวัจกรวัด ตั้งผ่านมติที่ประชุมสงฆ์ แต่พอคำสั่งหยุดทำหน้าที่ออกมาแบบเร่งด่วนไม่มีการประชุมเพื่อลงมติแต่อย่างใด” นายวิวัฒนชัยกล่าว และว่า
เชื่อมีขบวนการกลุ่มคนบางกลุ่มอยู่เบื้องหลังวัด อยากเข้ามาดูแลผลประโยชน์ ตนไม่ได้ยึดติดพร้อมที่จะพ้นตำแหน่ง แต่ไม่ใช่การกล่าวหาว่าทำผิด และต้องพ้นด้วยความสง่างาม มีเกียรติ หากต้องการให้โปร่งใส ตนพร้อมที่จะให้ทางวัดพระธาตุพนม หรือหน่วยงานเกี่ยวข้อง นำเอกสารทางการเงิน บัญชีวัดพระธาตุพนม ทั้ง 5 บัญชีมาแสดงสถานะล่าสุด รวมถึงดูรายการเบิกจ่ายทุกรายการ เพื่อความโปร่งใส เป็นธรรมต่อคนที่ทำงานบริหาร จัดการวัดที่ผ่านมา หากผิดจริงยอมรับผิด ขอเพียงให้ชัดเจน มีการมายืนยันบัญชีต่อสังคมให้รู้ทั่วกัน หากเป็นการกระทำที่ไม่โปร่งใสชัดเจน ตนจะเดินหน้าเอาผิดทุกคนที่เกี่ยวข้องให้ถึงที่สุด เพราะทุกครั้งมีการเบิก จ่ายเงิน ผ่านกระบวนการเบิกจ่ายถูกต้องทั้งหมด