นครสวรรค์ - อุทาหรณ์สลด..คนเลี้ยงช้างสุรินทร์พาช้างเร่ขายข้ามภาคข้ามจังหวัดถึงเก้าเลี้ยว ระหว่างปักหลักแยกช้างแม่ลูกออกตระเวนตามหมู่บ้าน แม่ช้างเหมือนหงุดหงิดพุ่งชนคนเลี้ยงก่อนเหยียบซ้ำ จนปอดแตกเสียชีวิตจมกองเลือด
เจ้าหน้าที่ตำรวจ ร้อยเวร สภ.เก้าเลี้ยว ได้รับแจ้งเหตุว่ามีคนถูกช้างทำร้ายจนเสียชีวิตคาถนน บริเวณทางเข้าหมู่บ้านเขาดินใต้ ในพื้นที่หมู่ 4 ต.เขาดิน อ.เก้าเลี้ยว จ.นครสวรรค์ เมื่อ 6 ก.พ. 67 ที่ผ่านมา จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมกับแพทย์เวรโรงพยาบาล และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพกู้ภัยตำบลมหาโพธิ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุเป็นถนนคอนกรีตเข้าหมู่บ้าน พบร่างคนเสียชีวิตอยู่บนถนน ทราบชื่อคือ นางจันทิรา ชื่นลัมย์ อายุ 35 ปี ชาว จ.บุรีรัมย์ นอนเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่ และพบช้างแม่ลูกถูกเจ้าของล่ามโซ่ไว้กับต้นไม้ริมทางถนน
จากการสอบถาม นายณัฐภาคย์ พิลึก อายุ 18 ปี ชาวบ้านผู้เห็นเหตุการณ์ ได้มีการนำคลิปภาพก่อนและหลังเกิดเหตุมาให้ดู พร้อมเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เห็นผู้ตายพร้อมกับสามี และควาญอีกประมาณ 6 คน พาช้างแม่ลูกมาเร่ขายอาหารอยู่ภายในหมู่บ้าน จึงทำให้แฟนตนอยากทำบุญกับช้าง เลยเรียกผู้ตายให้พาช้างตัวแม่มาหา เพื่อจะให้เงินทำบุญ โดยให้ตนถ่ายคลิป เพื่อเก็บเอาไว้ลงโซเชียลด้วย
ซึ่งตอนแรกทุกอย่างก็ดูปกติเหมือนไม่มีอะไร แต่หลังจากที่ยื่นเงินใส่งวงช้างแล้ว จู่ๆ มันก็เกิดอาการหงุดหงิด วิ่งปรี่เข้าไปชนผู้ตายที่กำลังยืนอยู่ใกล้ๆ โดยไม่ทันตั้งตัว จึงทำให้ผู้ตายหน้าคว่ำล้มก่อนที่จะถูกช้างเหยียบซ้ำกลางตัวจนกระอักเลือกและเสียชีวิตดังกล่าว
ด้านนางทิพวรรณ กาวีวน อายุ 28 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์อีกราย เล่าด้วยว่า ควาญช้างทั้งหมดให้ข้อมูลว่าได้พาช้างของเขาเดินทางจาก จ.สุรินทร์ มาที่ อ.เก้าเลี้ยว จ.นครสวรรค์ เพื่อมาเดินเร่ขายของกินช้าง อยู่ในอำเภอนี้มาได้ประมาณ 2 วันแล้ว วันเกิดเหตุได้นำพาช้างแม่ลูกมาเดินเร่ขายอาหารตามปกติ โดยให้ผู้ตาย และควาญช้างส่วนหนึ่งนำพาแม่ช้างไปเดินเร่ขายของในซอยหมู่บ้าน ส่วนสามีของผู้ตายได้พาลูกช้างไปเดินเร่ขายริมถนนใหญ่
ซึ่งก็ยังไม่แน่ใจว่ามันเกิดอาการหงุดหงิดที่ถูกแยกแม่ลูกห่างกัน หรืออาจจะตกใจเสียงกระดิ่งที่ผู้ตายพกมา เพราะหลังจากที่แฟนของนายณัฐภาคย์ยื่นเงินใส่ไปที่งวงช้าง ทางผู้ตายก็ได้มีการพูดส่งสัญญาณให้ช้างขอบคุณ พร้อมกับจะยื่นกระดิ่งมาให้เพื่อเป็นของขอบคุณ แล้วจึงเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นมา
นางทิพวรรณยังระบุด้วยว่า หลังเกิดเหตุ พยายามบอกให้สามีผู้ตายและควาญช้างคนอื่นๆ รีบช่วยผู้เสียชีวิต ที่ตอนนั้นยังมีลมหายใจอยู่ ให้เร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว แต่ทางฝ่ายสามีบอกว่าให้โทร.เรียกรถพยาบาลมาที่เกิดเหตุดีกว่า เนื่องจากไม่กล้าเคลื่อนย้ายกลัวว่าจะเป็นอะไรมากกว่าเดิม จึงได้รีบโทร.ตามหน่วยกู้ชีพกู้ภัยให้มาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่สุดท้ายก็ไม่ทัน เพราะผู้ตายสิ้นลมหายใจไปเสียก่อน
ขณะที่นางกำไร โมกขศักดิ์ อายุ 48 ปี หัวหน้าสมาคมกู้ชีพกู้ภัยมหาโพธิ ระบุว่า ผู้เสียชีวิตถูกช้างเหยียบเข้าที่หน้าอกขวา จนปอดแตก ส่วนช้างมรณะ เท่าที่ตนไปดูสภาพในตอนนั้นไม่มีอาการคลุ้มคลั่งอะไรให้เห็น ปกติดีทุกอย่าง และถูกล่ามไว้อยู่ใต้ต้นไม้ในพงหญ้าคู่กับลูกของมัน จึงไม่แน่ชัดว่าเกิดการคลุ้มคลั่ง หรือเกิดตกใจกันแน่ แต่จากการตรวจสอบล่าสุด เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมาสามีของคนตายได้มีการนำร่างผู้เสียชีวิต และช้างแม่ลูก รวมถึงควาญช้างทั้งหมด ขึ้นรถบรรทุกพากลับสุรินทร์กันหมดแล้ว
