กาญจนบุรี - ระทึก! ไฟไหม้สารเคมีเสื่อมสภาพโรงงานปุ๋ย ส.สิทธิ์สว่าง ดอนเจดีย์ ท้องฟ้ากลายเป็นทะเลเพลิง ใช้เวลากว่า 5 ชั่วโมง เพลิงจึวสงบ ชาวบ้านตื่นตระหนกทั้งตำบล โชคดีไร้เจ็บ-ตาย
เมื่อเวลา 22.00 น.คืนวันที่ 29 ม.ค. ได้เกิดเหตุเพลิงลุกไหม้ถังสีบรรจุขนาด 200 ลิตร ที่อยู่ภายในโรงงานผลิตปุ๋ยอินทรีย์ ท้องที่หมู่ 2 ต.ดอนเจดีย์ อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี ขณะเกิดไฟไหม้เสียงระเบิดดังกึกก้องเป็นระยะได้ยินเสียงดังกันทั้งตำบล หลังเกิดเหตุ นายทวิช เที่ยวมาพบสุข นายอำเภอพนมทวน พ.ต.อ.ธวัชชัย นรสิงห์ ผกก.สภ.พนมทวน ร.ต.อ.ทวีศักดิ์ เอี่ยมจงจันทร์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.พนมทวน จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสานรถดับเพลิงจาก อบต.รวมทั้งเทศบาล และ อปท.ในพื้นที่ใกล้เคียง รวมทั้งรถกู้ภัยจากธนบุรี ร่วมกตัญญู ราชบุรี นครปฐม สุพรรณบุรี และอีกหลายหน่วยงานกว่า 30 คัน ลงพื้นที่ช่วยระดมฉีดน้ำ และโฟม มีเจ้าหน้าที่มูลนิธิขุนรัตนาวุธ เข้าร่วม
แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ไม่สามารถปฏิบัติภารกิจในการสกัดเปลวเพลิงได้ เนื่องจากยังไม่ทราบว่าสารเคมีที่ถูกไฟไหม้นั้นเป็นสารเคมีชนิดใด โดยเจ้าหน้าที่ได้ตั้งกองบัญชาการชั่วคราว เนื่องจากเกรงว่าเจ้าหน้าที่จะได้รับอันตราย จึงต้องรอให้เปลวเพลิงเริ่มเบาบางลงเสียก่อน ที่สำคัญเจ้าหน้าที่เกรงว่าหากใช้น้ำฉีดสกัดจะทำให้น้ำปนเปื้อนสารเคมีไหลลงสู่คลองส่งน้ำที่ผันไปผลิตน้ำประปาให้ชาว กทม.จึงจำเป็นต้องวางแผนให้รอบคอบ แต่ยังโชคดีที่จุดเกิดเหตุนั้นอยู่ห่างไกลชุมชนมากพอสมควร แต่เสียงระเบิดสร้างความตกใจให้ชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่โดยรอบเป็นอย่างมาก โดยเจ้าหน้าที่รอจนกว่าเพลิงที่กำลังลุกไหม้เบาบางลงจึงเร่งใช้น้ำและโฟมฉีดสกัด
ทั้งนี้ นายทวิช เที่ยวมาพบสุข นายอำเภอพนมทวน ได้รับรายงานจากนายชัชพิสิฐ สุระคำพันธ์ ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคงว่าจุดเพลิงไหม้เป็นโรงงานปุ๋ย ส.สิทธิ์สว่าง เลขที่ 205/1 ม.2 ต .ดอนเจดีย์ อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี ซึ่งมีนายสุชาติ ชัยรัตน์ อยู่บ้านเลขที่ 3/4 ม.3 ต.ดอนชะเอม อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี เป็นเจ้าของ ส่วนสารเคมี (ถังสี) ที่เกิดไฟไหม้นั้นเป็นถังที่เสื่อมสภาพขนาด 200 ลิตร มีอยู่กว่า 100 ถัง
ขณะเกิดเหตุนายทวิช เที่ยวมาพบสุข นายอำเภอพนมทวน พร้อมกับเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้มีการประชุมวางแผนเพื่อทำการดับเพลิงในจุดนี้ เพราะเกรงว่าไฟจะลุกลามทำให้ควบคุมเพลิงได้ยากขึ้น รวมไปถึงตลอดเวลายังมีการระเบิดอย่างต่อเนื่อง โดยทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงแจ้งว่าหากเข้าไปดับเพลิงที่กำลังลุกไหม้อยู่ตอนนี้เกรงว่าอาจจะเกิดอันตรายต่อตัวเจ้าหน้าที่เอง อีกทั้งยังไม่รู้ว่าข้างในถังขนาด 200 ลิตรคืออะไร จึงต้องปล่อยให้เพลิงสงบลงกว่านี้ถึงจะเข้าไปปฏิบัติการดับเพลิงได้ ตอนนี้ทำได้เพียงควบคุมไม่ให้เพลิงลุกลามออกนอกบริเวณคันดินเท่านั้น
ล่าสุด เพลิงเริ่มสงบลงในช่วงเวลา 03.00 น.ที่ผ่านมา ส่วนสาเหตุเบื้องต้นคาดว่าเกิดจากการที่มีผู้จุดไฟเผาอ้อย ทำให้เปลวเพลิงลุกลามไปไหม้ถังสีที่เสื่อมสภาพ แต่จะต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตำรวจมาตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่งต่อไป