ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - สองผัวเมียป่วนขนเสื้อผ้าในเครื่องซักหยอดเหรียญไปทั้งร้าน เจ้าของเสื้อผ้าตามหากันให้วุ่น และทางร้านนำภาพไปโพสต์ประจานในเพจ สุดท้ายเจ้าตัวยกมาคืนทางร้าน อ้างป่วยจิตเวช จำเสื้อผ้าตัวเองไม่ได้
กล้องวงจรปิดของร้านให้บริการเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลตำบลแชะ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา สามารถบันทึกภาพพฤติกรรมของชายหญิงคู่หนึ่งพากันมาเปิดเอาผ้าจากเครื่องซักผ้าหลายเครื่องที่มีอยู่ในร้าน นำใส่ตะกร้าจนล้นแล้วนำออกไปจากร้านอย่างน่าสงสัย ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 11.40 น. วันที่ 23 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา
หลังจากผ่านไปประมาณเกือบ 1 ชั่วโมงก็มีลูกค้ารายหนึ่งติดต่อเจ้าของร้าน บอกว่า ผ้าที่นำมาซักไว้ถูกใครเอาไปไม่รู้ ทางร้านจึงเปิดกล้องวงจรปิดดู เห็นภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงนำคลิปภาพวงจรปิดไปโพสต์ลงในกลุ่มเฟซบุ๊ก “ครบุรีที่รัก V.3” ซึ่งเป็นกลุ่มที่ชาวอำเภอครบุรีจำนวนมากเป็นสมาชิกกลุ่มฯ เพื่อให้ช่วยกันตามหาบุคคลทั้งสองให้นำผ้าที่เอาไปกลับมาคืนเจ้าของ
กระทั่งเมื่อช่วงสายวันนี้ (24 ม.ค.) ก็มีบุคคลที่อ้างว่าเป็นญาติของผู้ที่อยู่ในคลิปภาพกล้องวงจรปิด เข้ามาติดต่อกับทางเจ้าของร้าน แล้วนำเอาผ้าที่ขนไปมาคืนเจ้าของ พร้อมกับอ้างว่าผู้ที่นำเสื้อผ้าไปเป็นผู้ป่วยจิตเวชสองสามีภรรยา นำผ้ามาซักแล้วจำไม่ได้ว่าซักไว้เครื่องไหน จึงต้องเปิดเครื่องซักผ้าดูทุกเครื่อง ซึ่งทางร้านและเจ้าของเสื้อผ้าไม่ได้ติดใจเอาความ แต่ได้ฝากให้ญาติพี่น้องของสองผัวเมียคู่นี้ได้ดูแลกันให้ดีกว่านี้ เพราะพฤติกรรมที่กล้องบันทึกได้เหมือนกับตั้งใจจะขโมยเอาเสื้อผ้าของคนอื่นไปมากกว่าจะหยิบเสื้อผ้าผิดเครื่อง เพราะในคลิปทั้งสองคนเปิดหาหลายเครื่องแล้วหยิบเสื้อผ้าไป ถือเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่นที่มาใช้บริการอย่างมาก
นางกาญจนา พรผักแว่น อายุ 41 ปี ลูกค้าที่มาใช้บริการเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ที่ถูกนำเสื้อผ้าออกจากเครื่องไป บอกว่า เอาผ้ามาซักที่เครื่องซักหยอดเหรียญเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. วันที่ 23 มกราคม 2567 แล้วก็กลับไปขายของที่บ้าน ผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมงก็กลับมารับผ้าคืน แต่มาถึงก็ไม่พบผ้าอยู่ในเครื่องแล้ว จึงแจ้งให้เจ้าของร้านช่วยเช็กกล้องวงจรปิด ก็พบว่า มีชายหญิงคู่หนึ่งมาเอาเสื้อผ้าในเครื่องที่ตนซักไป และหยิบเสื้อผ้าจากเครื่องอื่นๆ อีกหลายเครื่องด้วย จนเจ้าของร้านนำคลิปภาพไปโพสต์ในโซเชียลแล้วคนที่เอาเสื้อผ้าไปก็นำเสื้อผ้ามาคืนในวันนี้ โดยอ้างว่าเป็นผู้ป่วยจิตเวช จำเสื้อผ้าของตัวเองไม่ได้ จึงได้หยิบเอาเสื้อผ้าไปผิดตัว ตนจึงไม่อยากจะสืบสาวราวเรื่องหรือเอาความแต่อย่างใด แต่ก็อยากขอบคุณทางร้านที่เอาใจใส่ดูแลและช่วยติดตามจนได้เสื้อผ้ากลับคืนมาในที่สุด
ด้านนายวงกต สมวงศ์ เจ้าของร้านให้บริการเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ กล่าวว่า หากว่าผู้ที่เอาเสื้อผ้าของคนอื่นไปในครั้งนี้เป็นผู้ป่วยจิตเวช มีอาการผิดปกติทางจิตจริง ก็อยากให้ญาติพี่น้องช่วยดูแลให้ดีมากกว่านี้ เพราะสิ่งที่ทำไปสร้างความเดือดร้อนแก่ลูกค้าคนอื่น และยังจะทำให้เกิดความเสียหายแก่ทางร้าน ทำให้คนขาดความเชื่อมั่นที่จะมาใช้บริการ ทั้งๆ ที่ร้านก็พยายามดูแลความปลอดภัยให้ลูกค้าตามหน้าที่อย่างเต็มที่อยู่แล้ว
“ตอนนี้มีผู้เสียหายมาติดต่อเพียงรายเดียวเท่านั้น ส่วนที่เหลือไม่ทราบว่าเป็นของลูกค้ารายใดบ้าง ขอให้มาตรวจสอบได้ เพราะเสื้อผ้าที่นำมาคืนมีเพียงบางส่วนเท่านั้น ยังเหลือเสื้อผ้าอีกส่วนหนึ่งอยู่ที่ร้าน” นายวงกตกล่าว