สมุทรสงคราม - กลุ่มนักตกกุ้งเชิงอนุรักษ์ยายแพงบางคนที จัดโปรแกรมตกกุ้งแม่น้ำธรรมชาติตามวิถีท้องถิ่น เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ให้นักท่องเที่ยว และสร้างรายได้ให้กลุ่มคนตกกุ้งในชุมชน
การตกกุ้งนับเป็นอาชีพหนึ่งของชาว จ.สมุทรสงคราม ที่ต้องใช้ความมานะอดทนสูง เพราะการตกกุ้งตอนกลางวันอากาศจะร้อน ขณะที่กลางคืนนอกจากจะต้องเผชิญกับยุงแล้ว บรรยากาศยังเงียบวังเวงน่ากลัว โดยใช้เรืออีป๊าบลำเล็กๆ นั่งคนเดียว พายไปตามแม่น้ำแม่กลอง หาทำเลที่มีโขดหิน กอจาก หรือต้นไม้ตามริมน้ำ เพราะเป็นแหล่งที่กุ้งอาศัยอยู่มากกว่าบริเวณอื่น อุปกรณ์ตกกุ้ง “คันเบ็ด” เป็นเครื่องมือที่สำคัญมาก ยาวประมาณ 4-6 ฟุต เส้นเอ็นที่ใช้ตกกุ้งมืออาชีพจะเลือกขนาดไม่เกิน 0.20 มิลลิเมตร และใช้คันเบ็ด 3-4 คัน
เพื่อเพิ่มโอกาสกุ้งกินเหยื่อมากขึ้น ส่วนเบ็ดใช้เข็มเย็บผ้าไม่เกินเบอร์ 2 มีขนาดเล็กแต่แข็งแรง ไม่มีเงี่ยงจึงทำให้กุ้งที่กินเบ็ดไม่ตายง่าย โดยนำเข็มรนไฟแล้วใช้คีมดัดให้โค้งงอเป็นตัวเบ็ด จากนั้นใช้ลวดฟิวส์พันที่ส่วนบนเพื่อถ่วงให้เบ็ดจมน้ำ ส่วนเหยื่อที่ใช้ตกกุ้งส่วนใหญ่จะเป็นไส้เดือน หัวใจไก่ แต่ที่นิยมคือกุ้งฝอยหรือลูกกุ้งตัวเล็กๆ ที่หาช้อนได้ตามลำคลองและร่องสวนทั่วไป นอกจากนี้ ยังต้องมีอุปกรณ์ใส่กุ้งเรียกว่า “กระชัง” และ “ถ่อ” ทำมาจากไม้ไผ่สำหรับปักยึดไม่ให้เรือลอยไปตามกระแสน้ำ
สำหรับกุ้งที่ตกนั้นไม่แน่นอน บางวันไม่ได้เลยสักตัวก็มี บางวันได้เป็นสิบกิโลกรัมก็มี อย่างไรก็ตาม การจะได้กุ้งแต่ละตัวใช้เวลามากน้อยนอกจากฝีมือแล้ว ยังขึ้นอยู่กับโชคหรือดวงด้วย ที่สำคัญต้องมีความอดทน เพราะการยกคันเบ็ดขึ้นมาแต่ละครั้งอาจไม่สมหวังทุกครั้งเพราะของอยู่ในน้ำไม่สามารถคาดเดาได้ ส่วนราคากุ้งแม่น้ำ หรือกุ้งก้ามกรามปัจจุบันสามารถทำให้คนตกหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง เพราะกุ้งขนาดไม่เกิน 10 ตัวต่อกิโลกรัม ราคาตกกิโลกรัมละ 1,000 บาท จึงนับเป็นค่าตอบแทนที่สมกับที่ยอมอดหลับอดนอน
นายปสุรัตน์ ไทยสมบูรณ์ อายุ 27 ปี ประธานกลุ่มตกกุ้งเชิงอนุรักษ์ยายแพงบางคนที กล่าวว่า กลุ่มตกกุ้งเชิงอนุรักษ์ยายแพงบางคนที จัดตั้งขึ้นโดยสมาชิกและเครือข่ายคนตกกุ้งกว่า 50 ราย วัตถุประสงค์หลักคือส่งเสริมการตกกุ้งวิธีธรรมชาติ อนุรักษ์วิถีท้องถิ่น รักษาทรัพยากรธรรมชาติ อีกทั้งเป็นสถานที่รับซื้อและสร้างช่องทางการตลาดกุ้งแม่น้ำจากเครือข่ายที่ตกกุ้งมาได้ ปัจจุบันคาดว่า จ.สมุทรสงคราม มีคนตกกุ้งมากกว่า 1,000 คน ยังไม่รวมนักตกกุ้งที่เป็นมือสมัครเล่นที่ส่วนใหญ่จะอยู่ตามชายฝั่ง
นายปสุรัตน์ กล่าวว่า คนตกกุ้งต้องเข้าใจกุ้งต้องใช้วิถีธรรมชาติจะมีกุ้งให้ตกไม่มีวันหมด ขอเพียงทุกคนต้องช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ อย่าละโมบโลภมากเนื่องจากกุ้งแม่น้ำเป็นสัตว์ที่อ่อนไหวต่อสภาพแวดล้อมง่าย แค่มีการปล่อยน้ำจากเขื่อนลงมาเยอะ น้ำขุ่น น้ำเค็มรุกก็กระทบได้ แต่ปัญหาที่กระทบต่อกุ้งแม่น้ำมากที่สุดคือการลักลอบปล่อยน้ำเสีย และการ “เบื่อกุ้ง” ของผู้ที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว เรื่องนี้คนที่มีอาชีพตกกุ้งรับไม่ได้เพราะถือเป็นการเอาเปรียบเพื่อนร่วมอาชีพ
น.ส.เรณู เล็กนิมิต นายก อบต.บางคนที อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม กล่าวว่า เนื่องจากในพื้นที่ยังไม่มีกิจกรรมที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และอยากสร้างรายได้ให้คนในชุมชน แต่มีกลุ่มผู้ตกกุ้งที่สืบทอดภูมิปัญญามาจากรุ่นสู่รุ่นจึงมุ่งหวังที่จะสร้าง activity เกี่ยวกับการตกกุ้งเชิงอนุรักษ์ขึ้น เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสประสบการณ์การตกกุ้งแบบวิธีธรรมชาติของคนท้องถิ่นที่ไม่ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ สร้างรายได้ให้ชุมชน
อีกทั้งสร้างพื้นที่จำหน่ายกุ้งแม่น้ำ ทาง อบต.จึงสนับสนุนให้มีโปรแกรมคนตกกุ้งอาชีพนำนักท่องเที่ยวลงเรือไปตกกุ้งในแม่น้ำแม่กลอง เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ให้นักท่องเที่ยว และสร้างรายได้ให้กลุ่มคนตกกุ้งในชุมชน ในราคา 3 ชั่วโมง 500 บาท ครึ่งคืน 800 บาท และ 6 โมง เย็นถึง 6 โมงเช้าเหมา 1,500 บาท ผู้สนใจจะตกกุ้งแม่น้ำมาตัวเปล่า ส่วนอุปกรณ์ เช่น คันเบ็ด เหยื่อตกกุ้ง เรือ เสื้อชูชีพมีบริการให้ ท่านสามารถตกกุ้งได้เท่าไหร่ในเวลาที่กำหนด รวมทั้งมีคนตกกุ้งมืออาชีพที่พาออกไปหาแหล่งที่กุ้งชุกชุมคอยช่วยอีกแรง ได้กุ้งกี่กิโลนำกลับไปกินที่บ้านได้ทั้งหมด
ส่วนท่านที่มีงานแต่ง งานบวช งานเลี้ยงใดๆ ทางกลุ่มมีบริการนำกุ้งแม่น้ำธรรมชาติที่ตกได้เป็นๆ ไปปิ้งย่างเตาถ่านแถมน้ำจิ้มซีฟูดให้ฟรี เพียงสั่งออเดอร์งานละอย่างต่ำ 5 กิโลกรัมขึ้นไป เราไปปิ้งย่างและเสิร์ฟให้ถึงงาน มีกุ้ง 3 ไซส์ให้เลือกพร้อมปิ้งย่าง คือไซส์เล็ก 15-25 ตัวกิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 450 บาท ไซส์กลาง 8-12 ตัวกิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 650 บาท และไซส์ใหญ่ 5-7 ตัวกิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 950 บาท ติดต่อได้ทางเฟซบุ๊ก Ken Pasurat ประธานกลุ่มตกกุ้งเชิงอนุรักษ์ยายแพงบางคนที