บุรีรัมย์ - ตำรวจ สภ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ แจ้ง 2 ข้อหาหนัก พ่อล่วงละเมิดทางเพศลูกในไส้วัย 14 เตรียมส่งฝากขังศาล ทนายอั๋นพาภรรยายื่นค้านประกันตัวหวั่นไม่ปลอดภัย ส่วนเด็กยังอยู่ในความคุ้มครองบ้านพักเด็กฯ
วันนี้ (17 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีที่ นางเอ (นามสมมติ) อายุ 26 ปี ชาว อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ได้นำคลิปวิดีโอที่จับได้ว่า นายเอ็ม (นามสมมติ) อายุ 35 ปี สามีที่อยู่กินกันมากว่า 10 ปี มีลูกด้วยกัน 2 คน และจดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมาย แอบมีเพศสัมพันธ์กับ ด.ญ.บี (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ซึ่งเรียนอยู่ชั้น ม.2 ลูกสาวในไส้ของสามี ซึ่งเป็นลูกกับภรรยาเก่าที่เลิกรากัน พร้อมข้อความสนทนา และเสียงที่บันทึกไว้ขณะสามียอมรับว่ามีอะไรกับลูกสาวตัวเองจริง เข้าร้องขอความช่วยเหลือจาก นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋น บุรีรัมย์ เพราะนอกจากสามีจะแอบมีอะไรกับลูกตัวเอง ยังใช้กำลังทำร้ายร่างกายจนต้องไปขออาศัยอยู่บ้านญาติ จึงตัดสินใจนำหลักฐานเข้าร้องทนายอั๋นให้ช่วยเหลือ เพราะรับไม่ได้ต่อการกระทำของสามี อยากให้ถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย และไม่ขอใช้ชีวิตร่วมกันอีก
กระทั่งต่อมาได้มีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.บุรีรัมย์ บ้านพักเด็ก ตำรวจ สภ.ประโคนชัย ฝ่ายปกครอง และ ผญบ.ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ทั้งหาทางช่วยเหลือเด็กเพราะถือว่ากรณีดังกล่าวเด็กเป็นเหยื่อ ขณะนี้เด็กถูกนำตัวไปคุ้มครองอยู่ที่บ้านพักเด็กฯ เพื่อให้นักจิตวิทยาดูแลเรื่องสภาพจิตใจ
ล่าสุดวันนี้ พ.ต.อ.วิษณุ อาภรณ์พงษ์ ผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ พร้อม พ.ต.ท.ศิริชัย เจริญศิริ พนักงานสอบสวน สภ.ประโคนชัย ได้ทำการสอบปากคำนายเอ็มเพื่อประกอบสำนวนคดีเพิ่มเติม พร้อมได้แจ้งข้อกล่าวหา 2 ข้อหา “กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีแก่ผู้สืบสันดานโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม และกระทำอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีแก่ผู้สืบสันดาน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม” เพราะเชื่อมั่นในพยานหลักฐาน และเตรียมนำตัวส่งฝากขังศาลจังหวัดนางรองภายในวันนี้
ทนายอั๋นบุรีรัมย์กล่าวว่า วันนี้ได้พาภรรยาผู้ต้องหามายื่นค้านการปล่อยตัวชั่วคราวหรือคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาซึ่งเป็นพ่อแท้ๆ ส่วนเรื่องคดีถือว่ามีความคืบหน้ามากแล้ว เพราะวันนี้ทางพนักงานสอบสวนมีการแจ้งข้อกล่าวหาและนำตัวส่งศาล ส่วนที่มาคัดค้านการประกันตัวเพราะภรรยากลัวเรื่องความไม่ปลอดภัย เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยถูกทำร้ายร่างกายและข่มขู่ เพราะเกรงหากปล่อยตัวชั่วคราวออกมาจะเกิดความไม่ปลอดภัยและอาจจะยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน แต่ส่วนตัวก็มั่นใจในพยานหลักฐานว่าจะเอาผิดผู้ต้องหาได้ ว่าพ่อมีอะไรกับลูกส่วนจะสมยอมหรือไม่หรือด้วยพฤติการณ์ใดก็ตาม และที่ตนเองเข้ามาทำคดีนี้ก็เพราะต้องการจะช่วยเหลือน้องที่ถูกพ่อแท้ๆ ล่วงละเมิดทางเพศด้วย
อย่างไรก็ตาม ขอเท้าความว่าเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงเดือน พ.ย. 66 ที่ผ่านมา กระทั่งผ่านมากว่า 2 เดือน วันที่ 10 ม.ค. 67 แม่เลี้ยงของน้องได้มาแจ้งความ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่าไม่ใช่แม่แท้ๆ ตัวน้องก็ไม่ได้มาด้วยจึงไม่สามารถรับแจ้งได้ จากนั้นวันที่ 11 ม.ค. 67 จึงมาขอให้ตนเองช่วยเหลือ หลังจากนั้นจึงได้พาแม่เลี้ยงมาร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวน ว่ามีการกระทำความผิดคดีอาญาเกิดขึ้น เพื่อให้พนักงานสอบสวนดำเนินการตามขั้นตอน จากนั้นวันที่ 12 ม.ค. 67 ทั้งตนเอง และหลายหน่วยงานก็ได้ลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือเด็ก กระทั่งวันนี้คดีได้มีความคืบหน้าไปมาถึงกระบวนการศาลแล้ว ซึ่งตนเองในฐานะทนายความอิสระก็ได้ยื่นมือเข้าให้ความช่วยเหลือมาแล้วหลายคดี
ด้าน นางเอ ภรรยา นายเอ็ม และแม่เลี้ยงของเด็กหญิง 14 บอกว่า หลังจากเกิดเหตุจนถึงวันนี้สภาพจิตใจก็ยังย่ำแย่เพราะรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เชื่อว่าจะได้รับความเป็นธรรมหลังจากที่ทางตำรวจได้แจ้งข้อหากล่าวหากับสามี และมีทนายยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ รวมถึงหน่วยงานต่างๆ ก็ให้ความช่วยเหลือน้องในฐานะที่เป็นเหยื่อถูกพ่อแท้ๆ ล่วงละเมิดทางเพศด้วย ซึ่งหากสามีถูกดำเนินคดีตนก็จะรับลูกทั้ง 2 คนมาเลี้ยงเอง ส่วนน้องที่ถูกกระทำก็อยากให้แม่แท้ๆ หรือยายเขารับไปเลี้ยงจะดีกว่า