บุรีรัมย์ - หญิงวัย 26 ชาว อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ โร่นำคลิปหลักฐานเสียงและข้อความสนทนาร้อง “ทนายอั๋น” ช่วย หลังสามีอยู่กินกันกว่า 10 ปีแอบมีเพศสัมพันธ์กับลูกสาวในไส้ชั้น ม.2 ลูกเมียเก่าที่รับมาอยู่ด้วย อ้างพลาดแต่รับมีอะไรกันเกือบ 10 ครั้ง ยอมให้โอกาสกลับตัวเพื่อหวังประคองครอบครัว แต่กลับโดนตบตีทำร้ายหลายครั้ง ทนไม่ไหวขอหย่ากลับถูกข่มขู่
วันนี้ (12 ม.ค. 67 ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางเอ (นามสมมติ) อายุ 26 ปี ชาว อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ได้นำคลิปวิดีโอที่จับได้ว่านายเอ็ม (นามสมมติ) อายุ 35 ปี สามีที่อยู่กินกันมากว่า 10 ปี มีลูกด้วยกัน 2 คน และจดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมาย แอบมีเพศสัมพันธ์กับ น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 14 ปีซึ่งเรียนอยู่ชั้น ม.2 ลูกสาวในไส้ของสามี ซึ่งเป็นลูกกับภรรยาเก่าที่เลิกรากัน พร้อมข้อความสนทนา และเสียงที่บันทึกไว้ ขณะสามียอมรับว่ามีอะไรกับลูกสาวตัวเองจริง เข้าร้องขอความช่วยเหลือกับนายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋นบุรีรัมย์
หลังจากพยายามให้โอกาสสามีกลับตัวเพื่อหวังประคองชีวิตครอบครัว แต่กลับถูกสามีทำร้ายร่างกายทั้งตบ เตะหลายครั้งจนทนไม่ไหวต้องไปอาศัยอยู่บ้านญาติ พอขอหย่าก็ถูกข่มขู่จะแจ้งความฐานหมิ่นประมาทหาว่าสร้างเรื่องใส่ร้าย และพอไปแจ้งความต่อตำรวจก็บอกว่าต้องให้แม่แท้ๆ พาเด็กไปแจ้งความเอง ทั้งที่ตนเองเป็นฝ่ายถูกสามีนอกใจไปมีอะไรกับลูกตัวเอง และถูกทำร้ายแต่กลับทำอะไรไม่ได้เลย จึงตัดสินใจนำหลักฐานเข้าร้องทนายอั๋น ให้ช่วยเหลือ เพราะรับไม่ได้กับการกระทำของสามี อยากให้ถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย และไม่ขอใช้ชีวิตร่วมกันอีก
นางเอเล่าให้ฟังว่า ได้อยู่กินกับนายเอ็ม มากว่า 10 ปีแล้ว หลังจากที่เขาเลิกรากับภรรยาคนเก่า ซึ่งตนกับนายเอ็มมีลูกด้วยกัน 2 คน อายุ 8 ขวบ และ 2 ขวบ ส่วน น.ส.บี ลูกแท้ๆ ของสามีภรรยาเก่าก็เอาไปเลี้ยงเองตั้งแต่ 2 ขวบ โดยให้อยู่ที่บ้านตา ยายที่ จ.สระแก้ว แต่จู่ๆ พอ น.ส.บีอายุได้ 13 ปี สามีบอกอยากไปรับลูกมาเลี้ยงเองทั้งที่ไม่เคยติดต่อกันมากว่า 10 ปี แต่สามีขอร้องก็เลยยอม ตอนแรกช่วงปลายปี 65 สามีกับตนก็ขับรถไปรับ น.ส.บี ที่ จ.สระแก้ว มาอยู่ด้วย 1 เดือนช่วงปิดเทอมตอนนั้นยังไม่มีอะไร กระทั่งช่วงเดือน เม.ย. 66 สามีบอกอยากรับลูกมาเรียนที่นี่ด้วย ตนไม่ได้ขัดข้อง ก็ไปรับมาเรียนที่ อ.ประโคนชัย แต่พออยู่ได้ประมาณ 1 เดือน สามีก็เริ่มหอมแก้มลูกสาว ตนถามทำไมทำแบบนั้นเพราะลูกโตเป็นสาวแล้ว เขาก็อ้างว่าแค่แสดงความรักตามประสาพ่อลูก อีกทั้งญาติและช่างที่มาทำงานที่บ้านก็มาเล่าให้ฟังว่าหยอกล้อกันเกินพ่อกับลูก
จึงเริ่มสังเกตความผิดปกติมาตลอด กระทั่งคืนวันที่ 6 พ.ย. 66 ช่วงประมาณ 3 ทุ่มที่จับได้ว่าสามีแอบมีอะไรกับลูกสาวตัวเองตามที่ปรากฏในคลิป เนื่องจากวันนั้นตนไม่สบายก็นอนในห้อง สามีนอนหน้าทีวีกับลูกชายคนโต ตนออกไปเข้าห้องน้ำ จังหวะเดินกลับเห็นสามีนอนถอดเสื้ออยู่ในเปลหน้าบ้าน ทั้งที่ตอนอยู่หน้าทีวียังใส่เสื้อ สามีอ้างว่ามานั่งเล่นโทรศัพท์ แต่ตนไม่เชื่อจึงเกิดมีปากเสียงกัน สามีหาว่าตนระแวง จึงใช้มือจับอวัยวะเพศสามีพบมีน้ำเหนียวๆ หลั่งออกมาเหมือนกับเพิ่งจะมีเพศสัมพันธ์มาใหม่ๆ พอถามว่าเสื้ออยู่ไหนสามีบอกถอดไว้ในตะกร้า แต่พอเดินไปหาก็ไม่เห็น
จึงตัดสินใจเดินไปตรงที่ น.ส.บีนอนอยู่พร้อมกับใช้มือถือถ่ายคลิปไปด้วยเพราะเริ่มมั่นใจแล้วว่าสามีนอกใจ ตอนแรกก็เห็นกางเกงในและกางเกงขาสั้นของ น.ส.บี ถอดในลักษณะพันกันอยู่ แล้วก็เห็นเสื้อของสามีที่อ้างว่าถอดไว้ในตะกร้ากองอยู่ใกล้กัน จึงเปิดผ้าห่มออกจากตัว น.ส.บี ก็เห็นนอนถอดเสื้อผ้าอยู่ในลักษณะมีรอยแดงบริเวณหน้าอก จึงถามว่า “ทำไมถึงนอนถอดเสื้อ” น.ส.บีก็ตอบว่า “ก็ยังไม่ได้อาบน้ำ” แต่พอถามว่า “ทำไมเสื้อพ่อถึงมาอยู่ตรงนี้” ก็ตอบว่า “ไม่รู้” และถามว่า “ทำไมถึงถอดกางเกง” น.ส.บีก็บอกว่า “ก็หนูชอบนอนแก้ผ้า”
จึงไปถามสามีว่าทำไมถึงทำแบบนี้ สามีไม่ตอบจนเริ่มมีปากเสียงกัน สามีจึงบอกให้ไปคุยกันในห้องนอนเพราะกลัวลูกชาย 8 ขวบได้ยิน ตอนที่ไปคุยก็ใช้มือถืออัดเสียงไว้เป็นหลักฐานด้วย ซึ่งสามียอมรับว่ามีอะไรกับลูกตัวเองจริง โดยอ้างว่าพลาด แต่พอถามว่าทำกี่ครั้งก็บอกว่าเกือบ 10 ครั้ง ตนก็ต่อว่าสามีว่าถ้าพลาดทำไมถึงทำหลายครั้งน่าจะเกิดจากความอยากมากกว่า สามีรับปากว่าจะกลับตัวไม่ทำแบบนี้อีก และขอโอกาสอยู่กันแบบพ่อแม่ ลูกเหมือนเดิม ตนเห็นแก่ครอบครัวจึงยอมไม่เล่าบอกใคร
แต่หลังจากนั้นพอตนไปบอกให้ลูกสาวเขาช่วยงานบ้างอย่านั่งเล่นแต่โทรศัพท์ก็เกิดมีปากเสียงกันแล้วสามีก็ตบตี เตะ ทำร้ายตนเองหลายครั้ง จนรู้สึกทนไม่ไหวไปอาศัยบ้านญาติ สามีก็ตามไปง้อแต่ตนยืนกรานว่าจะขอหย่า กลับถูกสามีข่มขู่ว่าจะแจ้งความฐานหมิ่นประมาททั้งที่ตนเองเป็นฝ่ายถูกกระทำ จึงได้ออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม และอยากให้หน่วยงานไปช่วยลูกสาวที่ถูกพ่อกระทำด้วย
ทนายอั๋นกล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนเพราะเกี่ยวข้องกับเด็ก และเป็นเรื่องที่ผิดศีลธรรมมาก แต่เท่าที่ดูตามหลักฐานต่างๆ ที่น้องเขาเอามาร้องขอความช่วยเหลือ ทางหน่วยงานต่างๆ จะต้องเข้าไปดูแลช่วยเหลือ เชื่อว่าเด็กน่าจะถูกคุกคามทางเพศ ส่วนการแจ้งความนั้น มีทั้งการแจ้งความร้องทุกข์ แจ้งลงบันทึกประจำวันไว้ หรือทำคำกล่าวโทษคือมีเหตุที่เกิดขึ้นกับการกระทำความผิดในทางอาญา ซึ่งอาจจะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวผู้กระทำความผิดก็ตาม ทางพนักงานสอบสวนไปทำการสืบสวนตามอำนาจหน้าที่ ซึ่งกรณีนี้ก็เข้าข่ายความผิดต่ออาญาแผ่นดิน และเกี่ยวข้องกับศีลธรรม เรื่องในครอบครัวซึ่งค่อนข้างละเอียดอ่อน
ส่วนตัวเศร้าใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่คิดว่าสังคมจะเดินมาไกลขนาดนี้ ก็จะประสานทาง พม.ร่วมดำเนินการในเรื่องนี้ เพราะเด็กไม่ว่าจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม หากกระทำจริงคนเป็นพ่อก็ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย