xs
xsm
sm
md
lg

ชาวนาเมืองน้ำดำร้องรัฐบาลทบทวนโครงการพักชำระหนี้ แนะขยายถึงกลุ่มมูลหนี้มากกว่า 3 แสนบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เจ้าหน้าที่ ธ.ก.ส.สาขาโคกศรี อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ลงพื้นที่ให้ความรู้เกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส. โครงการพักชำระหนี้
กาฬสินธุ์ - ชาวนากาฬสินธุ์ร้องรัฐบาลทบทวนโครงการพักชำระหนี้ลูกค้า ธ.ก.ส. แนะขยายการช่วยเหลือไปยังกลุ่มที่มีมูลหนี้มากกว่า 300,000 บาท เหตุเป็นลูกค้ากลุ่มใหญ่ที่เดือดร้อนไม่ต่างกัน ทั้งไม่มีเงินทุนทำนา มีภาระหนักอึ้งต้องส่งทั้งต้นและดอกเบี้ยให้ ธ.ก.ส.


วันนี้ (17 ม.ค.) ที่ศาลาการเปรียญ วัดโพธิ์ชัยบ้านตูม ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ นายลิขิต ภูบุตรตะ ผู้แทน ธ.ก.ส. และเจ้าหน้าที่ ธ.ก.ส.สาขาโคกศรี อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ลงพื้นที่ให้ความรู้เกษตรกรลูกค้า ซึ่งได้รับสิทธิร่วมโครงการพักชำระหนี้ตามนโยบายรัฐบาล เพื่อให้คำแนะนำ สร้างความรู้ความเข้าใจการได้รับสิทธิพักชำระหนี้ และข้อปฏิบัติช่วงพักชำระหนี้ เพื่อผลประโยชน์ของลูกค้า ธ.ก.ส. มีลูกค้า ธ.ก.ส.ทั้งชาวนา ชาวไร่ ผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกราม และค้าขาย สนใจนำเอกสารมายื่นต่อเจ้าหน้าที่เพื่อแสดงความจำนงพักชำระหนี้อย่างต่อเนื่อง

นายลิขิต ภูบุตรตะ ผู้แทน ธ.ก.ส.สาขาโคกศรี กล่าวว่า โครงการพักชำระหนี้เป็นอีกโครงการหนึ่งของรัฐบาลที่ต้องการช่วยเหลือเกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส.เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนด้านต้นทุนผลิต การประกอบอาชีพ และให้เกิดการหมุนเวียน โดยมีเงื่อนไขลูกค้ารายย่อยมีมูลค่าหนี้ต่ำกว่า 300,000 บาท ได้สิทธิเข้าร่วมโครงการ ซึ่งเริ่มดำเนินการลงทะเบียนมาตั้งแต่เดือน ต.ค. 66 เป็นต้นมา ซึ่งข้อมูลจากสำนักงาน ธ.ก.ส.กาฬสินธุ์ระบุว่ามีลูกค้า ธ.ก.ส.ทั่วจังหวัด 18 สาขา มีสิทธิร่วมโครงการกว่า 59,000 ราย

ด้านนายจำเนียร ภูดวงเดือน ชาวนาบ้านนาเชือก อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า โครงการพักชำระหนี้ 3 ปีเป็นเรื่องดี แต่อยากให้รัฐบาลขยายกลุ่มลูกหนี้ ธ.ก.ส.เพิ่มอีก โดยเพิ่มจากลูกหนี้ที่มีมูลหนี้ไม่เกิน 300,000 บาท เป็นกลุ่มลูกหนี้ที่มีมูลค่าหนี้มากกว่า 300,000 บาทขึ้นไปด้วย เพราะลูกค้ากลุ่มนี้ถือเป็นลูกค้ารายใหญ่และเป็นกลุ่มใหญ่ แต่ได้รับความเดือดร้อนจากการประกอบอาชีพ และแบกภาระหนี้สินมากกว่าลูกค้าที่มีมูลค่าหนี้น้อยกว่า 300,000 บาท






“ปัจจุบันผมและลูกค้า ธ.ก.ส.รายใหญ่ ซึ่งมีหนี้เงินกู้ ธ.ก.ส.มากกว่า 300,000 บาท แต่ไม่ได้รับสิทธิ์พักชำระหนี้ ได้รับความเดือดร้อนจากการประกอบอาชีพ และภาระหนี้สิน เนื่องจากต้นทุนผลิตภาคเกษตร เช่น ค่ารถไถ ค่าปุ๋ยเคมี ค่าแรงยังสูง ขณะที่ราคาจำหน่ายผลผลิตตกต่ำ ไม่คุ้มกับการลงทุน ต้องหาเงินชำระและผ่อนส่งดอกเบี้ย ธ.ก.ส. หลายรายไม่มีเงินแม้จะลงทุนทำนาปี หรือปลูกอ้อย ปลูกมัน เลี้ยงกุ้ง” นายจำเนียรกล่าว และว่า

อยากให้รัฐบาลหันมองลูกค้ากลุ่มนี้บ้าง เพราะจริงๆ แล้วได้รับความเดือดร้อนมากกว่าลูกค้า ธ.ก.ส.ที่มีมูลหนี้น้อยกว่า 300,000 บาท ให้รัฐบาลทบทวนโครงการขยายกลุ่มลูกหนี้ให้มีสิทธิพักชำระหนี้บ้าง เพื่อลดความเหลื่อมล้ำแก่ลูกค้า ธ.ก.ส.ด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น