นครสวรรค์ – การจราจรผ่านนครสวรรค์ ประตูสู่ภาคเหนือ ก่อนถึงเทศกาลปีใหม่ เริ่มหนาแน่นทุกช่องจราจร ทั้งถนนพหลโยธินหมายเลข 1 ถนนทางหลวงหมายเลข 117 ถนนเลี่ยงเมืองหมายเลข 122..สถานีชาร์จไฟคิวยาว ต้องลดเวลาให้ชาร์จคันละครึ่งชั่วโมง
วันนี้(28 ธ.ค.66) ผู้สื่อข่าวรายงานสภาพการจราจรเส้นทางผ่านนครสวรรค์ขึ้นภาคเหนือช่วงก่อนถึงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ว่าช่วงเย็นนี้ ทั้งถนนพหลโยธินหมายเลข 1 ถนนทางหลวงหมายเลข 117 ถนนเลี่ยงเมืองหมายเลข 122 มีปริมาณรถที่มุ่งหน้าสู่ภาคเหนือ เป็นจำนวนมากทุกช่องทาง โดยเฉพาะช่วงก่อนถึงแยกเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ มีทั้งรถยนต์ส่วนตัว รถโดยสารสาธารณะ เต็มพื้นผิวจราจร แต่รถยังคงเคลื่อนตัวไปด้วยดี มีติดขัดชะลอตัวเป็นบางช่วง
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรนครสวรรค์ ได้เปิดช่องทางการจราจรพิเศษบริเวณสะพานเดชาติวงศ์อีก 1 ช่องทาง และปิดจุดทางแยกสัญญาณไฟจราจรในบางจุดแล้ว พร้อมกับใช้การควบคุมสัญญาณไฟจราจรด้วยมือแทนแบบอัตโนมัติ เพื่อเร่งระบายรถออกจากตัวเมืองนครสวรรค์ให้รวดเร็วและสะดวกยิ่งขึ้น
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรนครสวรรค์ ให้ข้อมูลว่า ตลอดทั้งคืนนี้ น่าจะมีปริมาณรถที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯ ผ่านตัวเมืองนครสวรรค์ เพื่อมุ่งหน้าขึ้นสู่ภาคเหนือเพิ่มอีกหลายเท่าตัว จึงขอให้วางแผนในการเดินทางด้วย โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรนครสวรรค์ ตำรวจทางหลวงนครสวรรค์ เจ้าหน้าที่แขวงการทางนครสวรรค์ ได้เตรียมรองรับการจราจร การอยู่ประจำจุด ทางแยกสัญญาณไฟต่างๆเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้เดินทางตลอดเส้นทาง
ขณะที่สถานีบริการน้ำมันของค่ายต่างๆ ก็มีรถเข้าไปใช้บริการเติมน้ำมันและจอดพักรถยนต์กันอย่างไม่ขาดสาย รวมถึงสถานีเติมพลังงานไฟฟ้ารถยนต์หรือจุดชาร์จไฟรถ EV ในนครสวรรค์ พบว่ามีผู้ใช้รถไฟฟ้าต่อคิวเข้าชาร์จกันแน่นทุกจุดเนื่องจากเป็นจังหวัดที่อยู่ห่างจากกรุงเทพมหานครกว่า 2 ร้อยกิโลเมตรและเป็นประตูสู่ภาคเหนือจึงทำให้มีรถใช้บริการเป็นจำนวนมาก
นายวัฒนศักดิ์ เศวตสกาวพันธ์ หนึ่งในคนที่เข้ามาใช้บริการของจุดชาร์จไฟในรถ EV เปิดเผยว่าขับรถมาจากชลบุรีเพื่อกลับภูมิลำนำที่อุตรดิตถ์ แต่เมื่อถึงจังหวัดนครสวรรค์พลังงานงานไฟฟ้าในรถก็เหลือน้อยลงจึงต้องจอดชาร์จที่สถานีบริการแห่งหนึ่งบนถนนเส้น 117 นครสวรรค์-พิษณุโลก
แต่ด้วยความที่เป็นช่วงเทศกาลและมีรถยนต์ที่ใช้พลังานไฟฟ้าเป็นจำนวนมากจึงต้องจองคิวเพื่อชาร์จไฟให้กับรถยนต์ของตนเอง ในขณะเดียวกันทางสถานีหรือจุดที่ให้บริการชาร์จไฟ EV ก็จะใช้มาตรการลดเวลาการชาร์จต่อคันให้เหลือระยะเวลาที่น้อยลง จากที่เคยให้ชาร์จไฟคันละประมาณ 1 ชั่วโมง ในช่วงเทศกาลนี้ปรับลดเวลาให้เหลือเพียงคันละ 30 นาที หรือครึ่งชั่วโมงเท่านั้น เพื่อเป็นการแบ่งเฉลี่ยให้กับลูกค้าและผู้เดินทางคนอื่นๆ เติมได้มากคันยิ่งขึ้น
นายวัฒนศักดิ์ ยังบอกอีกว่าตลอดระยะทางที่ขับรถมา สถานีที่ให้บริการชาร์จไฟ EV กับรถยนต์ไฟฟ้านั้นมีหลายจุด แต่เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลที่มีคนเดินทางเป็นจำนวนมาก และระยะในการชาร์จไฟแต่ละครั้งใช้เวลานาน จึงทำให้การชาร์จแต่ละครั้งยากลำบากมากกว่าปกติ.