สกลนคร - เกี่ยวข้าวเสร็จ ชาวบ้านด่านม่วงคำออกหาผักขี้ขม หรือสะเดาดิน ผักพื้นบ้านอีสานที่พบได้หลังเก็บเกี่ยว ขายกองละ 10-20 บาท เสริมรายได้หน้าแล้ง เผยรสชาติผักขมเล็กน้อย นำไปแกงใส่เนื้อปลาซดคล่องคอ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ ต.ด่านม่วงคำ อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร ภายหลังจากเก็บเกี่ยวข้าวนาปีเสร็จ ตามท้องนาจะเหลือเพียงตอซังข้าว จากนั้นจะมีผักขี้ขมขึ้นแทรกอยู่ โดยผักขี้ขม (ภาษาพื้นถิ่น) หรือสะเดาดิน เป็นผักพื้นบ้านที่พบมากในภาคอีสานและภาคเหนือ หารับประทานได้ง่ายในช่วงแล้งหรือฤดูหนาว โดยเฉพาะภาคอีสานนิยมนำมาประกอบอาหารประเภทต้ม แกงต่างๆ ใส่เนื้อสัตว์ตามชอบ
เนื้อสัมผัสของผักขี้ขมมีความนุ่ม ให้ความขมเล็กน้อยช่วยเพิ่มรสชาติให้น่ารับประทานยิ่งขึ้น พร้อมกันนี้ยังมีสรรพคุณทางยาต่อร่างกาย เช่น ต้านมะเร็งในระบบทางเดินอาหาร ลดไข้ ขับปัสสาวะขับพิษในไต และช่วยกระตุ้นให้เจริญอาหาร เป็นต้น ส่วนลักษณะลำต้นสั้นแตกแขนงกิ่งออกจำนวนมาก บริเวณกิ่งจะมีสีเขียวอ่อน แทงขึ้นเหนือดินเล็กน้อยเลื้อยตามผิวดิน
ปกติฤดูหนาวหรือแล้งนั้น ชาวบ้านมักมาหาผักพื้นบ้านไปประกอบอาหารตามวิถีชีวิต ไม่เพียงแค่หาไปประกอบอาหาร แต่ยังหาไปขายสร้างรายได้เสริมอีกด้วย ซึ่งชาวบ้านจะถือเสียมเดินไปตามทุ่งนา เมื่อเจอพุ่มเขียวบนพื้นดินในบริเวณตอซังข้าว ใช้เสียมแซะเบาๆ ให้รากหลุดออกก็จะได้ผักขี้ขมมา 1 กำเล็ก จากนั้นค่อยๆ ขุดหาไปเรื่อยๆ จนเต็มตะกร้า นำไปขาย ราคากองละ 10-20 บาท หรือเก็บขายได้วันละ 200-300 บาท สร้างรายได้ให้ชาวบ้านหลังเกี่ยวข้าว
ขณะเดียวกันผักขี้ขมสามารถนำมาประกอบเป็นอาหารประเภทต้ม แกง ที่ซดคล่องคอช่วงฤดูหนาวได้ดี เช่น แกงผักขี้ขมใส่ปลานิล เครื่องปรุงประกอบด้วย ผักขี้ขม ปลานิล ปลาร้า พริก กระเทียม ข่า ตะไคร้ น้ำเปล่า และผงปรุงรส ตั้งไฟน้ำเดือด นำส่วนผสมทั้งหมดใส่ลงไปในหม้อพร้อมรับประทาน ซึ่งแกงผักขี้ขมปลานิล มีรสชาติอร่อย เค็มนัวปลาร้าตัดหวานด้วยปลา ออกขมเล็กน้อยตัดรสได้ดี กลมกล่อมลงตัวตามอาหารถิ่นที่หากินได้แค่เฉพาะฤดูกาลเท่านั้น