xs
xsm
sm
md
lg

รวบแล้วแม่เสือสาวบุกเดี่ยวจี้ชิงทองกลางห้างโลตัสท่ายาง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เพชรบุรี - รวบแล้วแม่เสือสาวบุกเดี่ยวจี้ชิงทองกลางห้างโลตัสท่ายาง หลังก่อเหตุซื้อน้ำมันมาราดจุดไฟเผาเสื้อผ้าเพื่อทำลายหลักฐานแต่กลับลุกลามไหม้ขาตัวเองได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องใช้รถวีลแชร์เข็นมาทำแผน

จากกรณีเมื่อช่วงค่ำวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายเป็นหญิงสาวลักษณะรูปร่างผอมสูงแต่งกายใส่กางเกงวอร์มสีดำแถบขาว สวมเสื้อคลุมสีดำ สวมหมวกและใส่หน้ากากอนามัยสีดำ สวมรองเท้าฟองน้ำแบบรัดส้นเท้า ใช้ผ้าคลุมคล้ายอาวุธปืนอยู่ในมือ บุกเดี่ยวเข้าไปก่อเหตุจี้พนักงาน แล้วกระโดดข้ามเค้าเตอร์ภายในร้านทองเยาวราช ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้าโลตัส สาขาท่ายาง เลขที่ 777 หมู่ 1ต.ท่ายาง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี แล้วรื้อค้นหวังชิงทอง แต่โชคไม่เข้าข้างเพราะก่อนหน้านั้นพนักงานทั้ง 5 คนได้ช่วยกันเก็บทองใส่ตู้เซฟเพื่อเตรียมจะปิดร้าน

คนร้ายรู้ว่าไม่ได้ทองแน่ๆ เลยวิ่งหลบหนีออกไปทางถนนเพชรเกษม ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ท่ายาง สืบทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ น.ส.เด่นดวง บุพศิริ อายุ 30 ปี บ้านเลขที่ 35/13 ม.8 ต.วัดชลอ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ซึ่งหลังก่อเหตุ น.ส.เด่นดวง ได้เดินออกมาจากห้างแล้วมาโผล่ริมถนนเพชรเกษม จากนั้นได้ถอดเสื้อคลุมสีดำออกยัดใส่กระเป๋าสีฟ้า จากนั้นได้เดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามเพื่อไปที่รถกระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นกีแมคซ์ ออลนิว 4 ประตู สีขาว หมายเลขทะเบียน 3ขจ 6679 กรุงเทพมหานคร ที่จอดไว้ทางเข้าหมู่บ้านหนองสัก แล้วขับไปตามถนนเพชรเกษม มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ โดยไปเช่าอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งเขตนนทบุรี อยู่กับนายบี (นามสมมติ) ผู้เป็นสามี ซึ่งมีอาชีพค้าขาย

ล่าสุด เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. พ.ต.ท.อรรถพงษ์ นกขุนทอง รอง ผกก.สส.สภ.ท่ายาง พร้อมกำลังได้นำหมายค้นและหมายจับศาลจังหวัดเพชรบุรีที่ 475/256 ลงวันที่ 21 ธันวาคม 2566 เดินทางไปที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งซึ่งตั้งในซอยบางขุนนนท์ 24 แขวงบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กทม. เพื่อจับกุมตัว น.ส.เด่นดวง แต่เมื่อไปถึงลานจอดรถได้พบกับนายบี สามีของ น.ส.เด่นดวง กำลังขับรถกระบะคันที่ภรรยาขับไปก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์ร้านทองภายในห้างโลตัส เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเพื่อเจรจาขอตรวจสอบรถกระบะที่มีหมายเลขทะเบียนตรงกับคันที่ก่อเหตุ แต่นายบี กลับวิ่งหลบหนีแล้วตะโกนเรียก น.ส.เด่นดวง ที่อยู่ในห้องเช่าให้รู้ตัวว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาหา เจ้าหน้าที่จึงเกรงว่า น.ส.เด่นดวง จะหลบหนี จึงรีบวิ่งไปควบคุมตัวได้ในห้อง ซึ่งอยู่ในสภาพขาทั้งสองข้างถูกพันด้วยผ้าก๊อซ ไม่สามารถที่จะวิ่งหลบหนีได้

จากการสอบสวน น.ส.เด่นดวง รับสารภาพว่าตนเองเป็นคนลงมือก่อเหตุจริง โดยช่วงเช้าตรู่ในที่ 14 ธันวาคม 2566 ตนเกิดมีปากเสียงด้วยเรื่องภาระค่าใช้จ่ายกับนายบี สามีอย่างหนัก จนตนตัดสินใจขับรถกระบะออกจากอพาร์ตเมนต์ โดยนุ่งเพียงกางเกงขาสั้น และเสื้อยืดกีฬาสีชมพูยี่ห้ออาดิดาสอยู่ด้านหน้า แล้วขับรถไปด้วยคิดไปด้วย กระทั่งมีความคิดว่าอยากจะก่อเหตุประชดสามี ตนจึงเข้าไปในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่เขตสายใต้ กทม. เพื่อซื้อกางเกงวอร์มแบบมีแถบ เสื้อสีดำ หมวกสีดำ รองเท้าสีดำแบบรัดส้น และปืนปลอมสำหรับเด็กเล่น

จากนั้นได้ขับรถมุ่งหน้าไปทางจังหวัดราชบุรี เพื่อตัดสินใจชิงทรัพย์ร้านทอง แต่ด้วยร้านทองมีผู้คนพลุกพล่าน จึงขับรถไปที่เขตอำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี และขับตระเวนรอบห้างโลตัสกระทั่งจอดรถอยู่ริมถนนด้านหลังโลตัสเพื่ออาศัยหลับ กระทั่งรุ่งเช้าวันที่ 15 ธันวาคม ตนได้ตระเวนดูเส้นทางโดยรอบของห้าง และเห็นว่าไม่ค่อยมีคนพลุกพล่าน จนเวลา 19.30 น.ตนได้สวมชุดสีดำที่ซื้อเตรียมมาสวมใส่ทับกับชุดที่ตนเองสวมใส่อยู่

จากนั้นได้ขับรถมาจอดที่ศาลาริมทางหน้าทางเข้าหมู่บ้านหนองสัก ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับห้างสรรพสินค้าโลตัส แล้วสะพายกระเป๋าสีฟ้าเดินข้ามถนนเข้าไปในห้าง แล้วฉวยโอกาส เดินถือปืนโดยมีผ้าสีฟ้าคลุมเอาไว้ ไปที่ห้างทองเยาวราช สาขาโลตัสท่ายาง ซึ่งขณะนั้นมีพนักงาน 4-5 คนกำลังชุลมุนกับการเก็บทองใส่ตู้เซฟ ตนจึงใช้ปืนปลอมขู่ทำให้พนักงานตกใจรีบมุดลงไปใต้เคาน์เตอร์ ตนจึงปีนข้ามเข้าไปเพื่อค้นหาทองแต่ไม่พบแม้สักเส้นเดียว จึงตัดสินใจเดินออกมาริมถนนเพชรเกษม ทั้งๆ ที่ไม่ได้ทองติดมือมาสักเส้นเดียว ฝ่าความมืดแล้วถอดเสื้อคลุม และกางเกงใส่กระเป๋าสะพายแล้วเดินข้ามถนนมาขับรถกระบะหลบหนีเข้า กทม.และขอค้างคืนกับพี่สาวที่อพาร์ตเมนต์ 1 คืน แต่ขณะที่พี่สาวออกไปทำงาน จึงทิ้งให้ตนอาศัยอยู่ในห้องเพียงคนเดียว จึงนำชุดที่ใช้ก่อเหตุมาเผา แต่พลาดเปลวเพลิงได้ลุกไหม้ขาทั้งสองข้างจนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว






กำลังโหลดความคิดเห็น