xs
xsm
sm
md
lg

“ไชย์พล”โต้ประเด็นเจอเส้นผมน้องชมพู่ในรถเพราะนั่งบ่อย รถเครือญาติคันอื่นก็น่าจะมี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สกลนคร-“ลุงพล”ยันไม่เคยข่มขู่พ่อแบม พยานปากเอกให้โกหกเรื่องห้วงเวลาที่เจอตน ส่วนประเด็นเจอเส้นผมน้องชมพู่บนรถยนต์เป็นเรื่องธรรมดาเพราะน้องขึ้นนั่งรถคันนี้อยู่เป็นประจำ พ้อไม่ได้รับความเป็นธรรม และหากตรวจรถทุกคันในเครือญาติอาจเจอเส้นผมของน้องเหมือนกัน


วันนี้( 21 ธ.ค.) ที่ บ.จำปาดง ต.กุดเรือคำ อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร ในงานบายศรีสู่ขวัญของนายไชย์พล วิภาและนางสมพร หลาบโพธิ์ สองผัวเมียที่เพิ่งรับฟังคำพิพากษาของศาลจังหวัดมุกดาหารในคดีการตายอย่างปริศนาของน้องชมพู่ ซึ่งนายไชย์พล จำเลยที่ 1 ถูกพิพากษาจำคุก20ปี แต่ศาลให้ประกันออกมาสู้คดี โดยช่วงหนึ่งนายไชย์พลให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่าในชั้นอุทธรณ์ตนจะยังใช้ทีมกฎหมายเดิม ถามว่าชั้นอุทธรณ์จะมีพยานหลักฐานเพิ่มหรือไม่ ตนเองก็เพิ่งเคยเจอคดีอาญาคงต้องรอคุยรายละเอียดกับทีมกฎหมายอีกที

แต่สิ่งสำคัญสำคัญที่สุดก็คือต้องพิสูจน์ตัวเองในเรื่องห้วงเวลา ช่วง 09.00 น. โมงเศษกับช่วงบ่าย 14.00 น. ว่าขณะนั้นตนอยู่ที่ไหน ทำอะไรอยู่ ก็อีกประมาณหนึ่งเดือนจะได้เห็นรายละเอียดของคำพิพากษาที่ต้องไปแก้ต่างกับข้อพิรุธ

สำหรับกรณีพยานปากเอก (พ่อแบม-นายวัชรินทร์ กงแก่นท้าว)ตนเห็นพยานคนนี้ไปออกข่าวว่าได้พบตน 9 โมง 20 นาที หลังจากนั้นก็นั่งอยู่ที่บ้าน พ่อน้องชมพู่ขับรถจักรยานยนต์มา 9 โมง 40 นาที ห่างกันประมาณ 20 นาที พอตนดูข่าวเสร็จก็ขี่มอเตอร์ไซค์ไปหาพยานคนดังกล่าว และบอกไปว่าถ้าไปออกข่าวแบบนั้นจะทำให้พ่อชมพู่ลำบาก ตนมีพยานอยู่แล้ว เพราะขณะที่ตนคุยกับพยานคนนี้อยู่ น้องโอมลูกชายก็เอาโทรศัพท์ไปให้ตรงสวนยางที่ลุงกำลังกระตุ้นยางไม่ใช่กรีดยาง

“วันนั้นพูดแค่นี้ไม่ใช่ให้ไปเปลี่ยนคำให้การ เป็นเวลาวันที่ 9 วันที่ 10 อย่างที่กล่าวอ้าง ในวันนั้นไม่มีการข่มขู่หรือทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด และไม่รู้ว่าพูดอ่ย่างนั้นไปทำไปเพื่ออะไร”นายไชย์พลกล่าวและว่า

อีกอย่างพยานปากนี้เคยต้องคดี ในคดีตัดไม้ระยะเวลาประมาณหนึ่งปี ขณะนั้นก็มีตนที่คอยช่วยเหลือครอบครัวเขา ส่วนคำให้การก็เป็นสิทธิ์ของพยานที่พูดได้ ยืนยันไม่ได้มีการข่มขู่ทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด


ด้านทีมกฎหมายของเราพยายามรวบรวมข้อมูลหลักฐานรอบด้านรวมถึงจากสื่อสารมวลชน ว่าพนักงานพิสูจน์หลักฐานได้ขึ้นรถตนก่อนจะสวมชุดPPE แม้แต่กระทั่งตนเองก็ยังสงสัยว่าเส้นผมนั้นมาตกอยู่บนรถของตนได้อย่างไร หากเส้นผมที่ได้ไปเป็นของน้องชมพู่ ตนได้ให้ข้อมูลกับทีมกฎหมายว่าไม่เคยล้างรถ น้องชมพู่ก็ขึ้นรถจนอยู่เป็นประจำ ซึ่งส่วนใหญ่น้องจะขึ้นรถตนและน้าเสริม ส่วนรถคนอื่นก็ไม่ค่อยได้ขึ้นเท่าไหร่ แต่ว่าเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ตรวจแต่รถตนจึงรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม หากตรวจรถทุกคัน เส้นผมอาจจะตกรถทุกคันก็ได้เพราะเป็นเครือญาติกัน

ขณะที่ น.ส.สมพร หลาบโพธิ์ หรือป้าแต๋น กล่าวทั้งน้ำตาว่า ที่ร้องไห้วันนี้มันมีหลายอย่างที่ไม่เคยร้อง เราเห็นกลุ่มยูทูบเบอร์ เขาให้กำลังใจ ก็เป็นห่วงว่าจะขาดรายได้จากตรงนี้ไหม และแอดมินที่มาช่วยงานเขาจะขาดรายได้ตรงนี้หรือเปล่า แต่ตนหลุดพ้นจากข้อกล่าวหาแล้วตอนนี้เหลือแค่ลุง พร้อมกันนี้ยังมีกลุ่มแฟนคลับที่คอยให้กำลังใจตั้งแต่ยังไม่ฟังคำตัดสินจะ กระทั่งกลับมาถึงที่บ้าน ส่วนเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้น สื่อก็ต่างทำหน้าที่ในการนำเสนอข่าว

ส่วนสังคมจะตัดสินอย่างไรก็อีกเรื่องหนึ่ง จนบรรดาแฟนคลับนอนไม่หลับโทรมาด้วยความเป็นห่วงไม่อยากให้ออกสื่อ ตนมองว่าสื่อก็ทำหน้าที่ของด้วยอาชีพของเขา แต่คนมาคอมเม้นต์ก็เป็นเพียงความเห็นต่างเท่านั้น เรามีความสุขแค่ตรงนี้ก็พอแล้ว ทั้งนี้แฟนคลับส่งกำลังใจมาอย่างล้นหลามพร้อมกับให้กำลังใจให้สู้ในชั้นศาลชั้นต่อไป ตนยินดีที่จะอยู่เคียงข้างลุงพล คนภายนอกอาจจะไม่รู้ว่าลุงเป็นอย่างงไร ยันไม่ทิ้งไปไหน.


กำลังโหลดความคิดเห็น