พิษณุโลก - ชาวบางกระทุ่มเศร้าเสียดายกันทั้งอำเภอ..หลังไฟไหม้ศาลาการเปรียญวัดดังที่สร้างจากเงินบริจาคญาติโยมวอดทั้งหลัง ไม่เว้นบานประตูหน้าต่างแกะสลัก-พระประธาน เสียหายหมด แถมศพรอฌาปนกิจถูกเพลิงไหม้ไปด้วย
วันนี้ (13 ธ.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้ศาลาการเปรียญไม้สักทรงไทย 2 ชั้น ภายในวัดห้วยแก้ว เลขที่ 27/3 หมู่ 3 ต.บางกระทุ่ม อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก เมื่อเวลาประมาณ 02.30 น.เศษที่ผ่านมา จนวอดทั้งหลัง ประเมินความเสียหายไม่ต่ำกว่า 200 ล้าน และมีรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียนป้ายแดง ผค 7014 พิษณุโลก ที่จอดอยู่ห่างออกไปประมาณ 50 เมตร ถูกไอร้อนจากเปลวเพลิงจนตัวรถเสียหาย 1 คัน
ล่าสุดศรัทธาชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างเดินทางไปดูจุดเกิดเหตุและให้กำลังใจ พระครูสุนทรกิตติรัต หรือพระครูยูร เจ้าอาวาสวัดห้วยแก้ว และรองเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก อายุ 77 ปี ซึ่งหลังเกิดเหตุได้เป็นลมและความดันโลหิตขึ้นสูง
ขณะที่ตำรวจวิทยาการ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 6 ได้เดินทางมาที่เกิดเหตุ แต่ยังไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ เนื่องจากยังมีความร้อนอยู่
พระปลัดอคปญโญ รองเจ้าอาวาสวัดห้วยแก้ว เจ้าคณะตำบลสนามคลี กล่าวว่า มีพระลูกวัดบาดเจ็บ 2 รูป ซึ่งเป็นพระที่นอนเฝ้าศาลาการเปรียญชั้นบน หลังสะดุ้งตื่นเพราะได้กลิ่นควันไฟอย่างรุนแรง ได้กระโดดลงมา ทำให้ได้รับบาดแผลถูกสังกะสีบาด
นายวรณัร วริศธราวุธ เจ้าพนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลบางกระทุ่ม กล่าวว่า จากการตรวจสอบแล้วพบว่ามีศพที่ตั้งบำเพ็ญกุศลที่ศาลาการเปรียญชั้นล่าง และมีกำหนดฌาปนกิจช่วงเย็นวันนี้ ซึ่งยังไม่สามารถนำร่างออกมาได้ถูกเพลิงไหม้ไปด้วย
นายบุญญกร ภูมิดี กำนันตำบลบางกระทุ่ม กล่าวว่า ศาลาการเปรียญทำด้วยไม้สักทั้งหลัง เพลิงลุกไหม้รวดเร็วเพียง 15 นาทีก็วอดหมด ชาวบ้านทุกคนเสียใจมาก เพราะวัดห้วยแก้วเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาว อ.บางกระทุ่ม ทุกหมู่บ้าน ศาลาการเปรียญที่เกิดเหตุสร้างมาจากจิตศรัทธาและเงินบริจาคของญาติโยมทุกคน ตั้งแต่ พ.ศ. 2551 บานประตูหน้าต่างแกะสลักเทพเจ้าต่างๆ มีพระประธานบนศาลาเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย แกะสลักจากไม้เสียหายหมด